แล้วละครลวงโลก..สุดปลิ้นปล้อนที่อ้าง"ชุมนุมโดยสงบ" ก็ถูกถลก..เมื่อศาลสั่งคุก"ชายชุดดำ-การ์ดนปช."10 ปี ปัญหาคือ"เสื้อแดง"ว่าไง-ตาสว่างหรือยัง

ติดตามข่าวสารที่ www.Tnew.co.th

 

"คนคลองเดื่อ" สำนักข่าว Tnews

 

ดูเหมือนละครลวงโลก...หลอกคนแบบไม่กะพริบตาของแกนนำแดง-สู้แล้วรวย...ที่อ้างว่า "ชุมนุมโดยสงบ" จะถูกถลกหนังหน้าเสียแล้ว...เมื่อศาลสั่งจำคุก "ชายชุดดำ-ซึ่งเป็นการ์ดของคนเสื้อแดงเอง" ถึง 10 ปี ทว่า...เรื่องนี้กลับพบความผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทางฝ่าย "พลพรรคคนเสื้อแดง" กลับเงียบกริบ ไม่มีใครแหลมออกมาปฏิเสธเช่นที่เคยทำ...ทำนองคนพวกนี้เป็น "แดงเทียม" คนเสื้อแดงแท้จริงไม่เกี่ยว...หรือไม่ก็ถูกรัฐฯ จัดฉาก ฯลฯ นั่นอาจเป็นเพราะว่า...จำนนต่อหลักฐาน และดิ้นไปก็มีแต่ลักษณะ "ลิงแก้แห" แต่คราวนี้คำถามใหญ่ที่ยังต้องถามก็คือ "เสื้อแดง" มองเห็นความจริงแล้วหรือยัง...ตาสว่างหรือยัง...หรือยังคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องประชาธิปไตย...ซึ่งไม่แปลกหากต้องใช้อาวุธสงครามกันบ้าง...เพราะแกนนำก็บอกว่า เป็นแก้ว 3 ประการ และก็พยายาม "ปิดแผ่นฟ้า ด้วยฝ่ามือ" ว่า เสื้อแดง ชุมนุมอย่าง "สงบ"

 


แม้แต่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า คำพิพากษาดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยืนยันแน่ชัดว่า ชายชุดดำที่ถูกพูดถึงมาโดยตลอดนั้น ได้กระทำความผิดจริงตามข้อเท็จจริง และหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งสามารถหักล้างการกล่าวอ้างของกลุ่มการเมืองที่ว่า "ทหารยิงกันเอง" จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ดังนั้น การที่กลุ่มการเมืองระบุว่า การชุมนุมในช่วงวันที่ 10 เมษายน 2553 เป็นการชุมนุมที่สงบปราศจากอาวุธนั้น จึงสวนทางกับความเป็นจริง หรือต้องการบิดเบือนการกระทำของตน เพราะศาลได้พิเคราะห์แล้วพบอาวุธปืนหลายประเภท และเครื่องยิงระเบิด ซึ่งหมายถึงการมีเจตนาประสงค์ร้ายต่อชีวิตของผู้อื่น โดยเฉพาะการใช้ยิงเจ้าหน้าที่ทหารที่ขอคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและบริเวณใกล้เคียง ทำให้สังคมได้ประจักษ์ชัดขึ้นในเรื่องนี้

 

"เรื่องนี้ ผู้กระทำผิดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และรับโทษตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จำเลยมีสิทธิจะอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดี เพราะเป็นขั้นตอนที่สามารถกระทำได้ แต่เชื่อมั่นว่าศาลจะใช้ดุลพินิจพิจารณาตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย" โฆษกรัฐบาล ระบุ

 

ขณะที่โฆษก คสช.กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า คดีชายชุดดำที่ศาลตัดสินในข้อหาร่วมกันมีและใช้อาวุธสงครามเมื่อวานนี้นั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสำนวนการกระทำคดีทั้งหมด และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการพิสูจน์ความจริงที่ว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาในพื้นที่การชุมนุมจริง นั่นคือ การมีและการใช้อาวุธสงครามในพื้นที่การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 แต่ทั้งนี้ต้องเรียนว่าขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุด หลังจากที่ศาลอาญาพิพากษาแล้ว ทั้งโจทก์และจำเลยยังสามารถอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งก็ยังเหลืออีกถึง 2 ขั้นตอน ทั้งการอุทธรณ์และฎีกา
      
      

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกองทัพยังคงรอคอยการพิสูจน์ความจริงที่ว่า มีบุคคลในพื้นที่การชุมนุมที่เป็นคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามดังกล่าวทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ คงต้องฝากความหวังไว้ที่หน่วยงานกระบวนการยุติธรรม ทั้งศาล และอัยการ ที่ควรจะต้องเร่งรัดดำเนินคดีเหล่านี้ให้มีผลปรากฏโดยเร็ว

 


ทั้งนี้ แม้เส้นทางของคดีจะยังไม่ตกผลึก เพราะยังมีศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาที่จะพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่ก็ทำให้คนไทยทั้งแผ่นดิน “ตาสว่าง” รวมถึงคนเสื้อแดงที่รักความยุติธรรม...ก็คงหูตาสว่างขึ้นบ้าง...(ไม่แน่ใจ-ผู้เขียน)


แต่ก็อย่างที่บอก คำถามใหญ่ที่ยังต้องถามก็คือ เมื่อทุกอย่างเปลื้องเปลือยออกมาขนาดนี้ "เสื้อแดงกลุ่มใหญ่" เริ่มมองเห็นความจริงบ้างแล้วหรือยัง......หรือยังคิดว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องประชาธิปไตย...ซึ่งไม่แปลกหากต้องใช้อาวุธสงครามกันบ้าง...เพราะแกนนำก็บอกว่า เป็นแก้ว 3 ประการ และก็พยายาม "ปิดแผ่นฟ้า ด้วยฝ่ามือ" ว่า เสื้อแดง ชุมนุมอย่าง "สงบ"...ตามคำมดเท็จของ "แกนนำ-สู้แล้วรวย" ต่อไป

 

ภาพ : pantip.com