ถึงยุคแสงสว่างแห่งวงการสงฆ์!! "สนช." ยื่นหนังสือขอนำพระลิขิต"ธัมมชโย-ปาราชิก" เข้าที่ประชุม มส. หวังชำระวงการผ้าเหลือง

 

ถึงยุคแสงสว่างแห่งวงการสงฆ์!! ประธานคณะอนุฯ การศาสนา สนช. ยื่นหนังสือกราบทูลสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ขอนำพระลิขิตสมเด็จญาณฯ สมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อน ที่วินิจฉัยว่า "ธัมมชโย" อดีตเจ้าอาวาสวัดธรรมกายปาราชิกแล้ว ก่อนเข้าที่ประชุม มส. วันนี้  หวังชำระวงการผ้าเหลือง ลั่นถึงยุคแสงสว่างแห่งวงการสงฆ์แล้ว

(คลิ๊ก : ศรีวราห์เผย.."วัดธรรมกาย"มีส่วนเป็นวัดเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ )

 

วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ นายสมพร เทพสิทธา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประธานคณะอนุกรรมาธิการศาสนาในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว หนึ่งในแกนนำ สนช.ในการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์มาตรา 7 ที่ให้การโปรดสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระราชอำนาจ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในวันนี้ (14 ก.พ.) สภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มีตนเป็นประธาน จะส่งคนไปถวายหนังสือแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก หรือสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ ในฐานะประธานที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อให้พิจารณา 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

1.ขอให้ทรงสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติด้านพุทธศาสนา 2.ขอให้ท่านทรงนำพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อดีตสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ก่อน ที่เคยมีพระลิขิตให้พระธัมมชโยต้องปาราชิก เพื่อขอให้นำพระลิขิตดังกล่าวไปพิจารณา

"ประเด็นเรื่องพระลิขิต ในหนังสือจะกราบเรียนท่านว่าก่อนหน้านี้สมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้มีพระลิขิตหลายครั้งในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับการนำมาพิจารณาในที่ประชุม มส. ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพระลิขิตของท่าน จึงอยากให้ที่ประชุม มส.นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งหากนำเข้าสู่ที่ประชุมก็ต้องปาราชิก เรื่องนี้ก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ท่านคงให้ความเป็นธรรม แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ หาก มส.พิจารณาแล้วเห็นว่าปาราชิกก็ต้องพ้นจากความเป็นพระทันที จะไม่มีอิทธิพลอะไรอีกต่อไปแล้ว ก็หมดเรื่องเสียที เมื่อพ้นจากความเป็นพระก็อยู่วัดธรรมกายไม่ได้แล้ว ส่วนคดีความทางโลก ดีเอสไอก็ว่ากันไป"

 

"การดำเนินการกับพระธัมมชโยต่อจากนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะมีบทบาทสำคัญ มาวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่แล้ว สำนักพุทธก็ต้องปรับปรุงตัวใหม่ จะทำตัวแบบเดิมไม่ได้แล้ว ต้องเป็นผู้รับใช้มหาเถรสมาคม วันนี้มหาเถรสมาคมเปลี่ยนทิศทางใหม่แล้ว วันนี้เราได้สมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่ที่ยึดพระธรรมวินัย ก็ต้องยึดพระธรรมวินัย จะมาช่วยอะไรกันไม่ได้อีกแล้ว เพราะท่านไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายที่จะมาปกป้องอะไรกันอีกแล้ว ปกป้องไม่ได้แล้ว หมดไปแล้ว หมดสมัยแล้ว" ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ กล่าว

 

ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้เป็นยุคสว่างแล้ว เป็นยุคแห่งธรรมะ เชื่อว่าหลังจากนี้เมื่อได้พระสังฆราชองค์ใหม่แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น บ้านเมืองจะดีขึ้น เชื่อว่าเมื่อพุทธศาสนาดีขึ้น บ้านเมืองก็จะดีขึ้น มันก็จะส่งผลดีต่อการปฏิรูปหลายด้าน จดหมายทั้งหมดเขียนเสร็จหมดแล้ว ก็จะให้คนนำหนังสือไปทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระสังฆราชที่วัดราชบพิธฯ ในวันอังคารนี้ แล้วหลังจากนั้นผมคงขอทำเรื่องขอเข้าพบท่านทีหลัง

(คลิ๊ก : เปิดแฟ้มคดีโยง"ธรรมกาย-พระธัมมชโย" )

 

อารมณ์ เคนหล้า สำนักข่าว Tnews
 

ขอบคุณข้อมูลหลักจาก : ไทยโพสต์