- 25 ก.พ. 2560
ติดตามรายละเอียด http://www.tnews.co.th/
กลายเป็นความคาราคาซังที่ยังไม่รู้ว่าจะจบลงแบบไหน กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับวัดธรรมกายและการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งศาลในการเข้าค้นและติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีในหลายข้อหา เนื่องจากพระลูกศิษย์ใช้วิธีการปลุกระดมมวลชนรวมถึงพระสงฆ์และเณรมาต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ในทุกรูปแบบ
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.พ.2560) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตั้งแต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพ ข้าราชการพลเรือน หรือแม้แต่พระภิกษุสงฆ์ ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่เข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย และกล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการบังคับใช้มาตรา 44 แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กัน ทั้งดีและไม่ดี
โดย พล.อ.ประยุทธ์ เอ่ยปฏิเสธเจตนารังแกพระภิกษุสงฆ์หรือทำลายพระพุทธศาสนา หลังถูกกระแสโจมตีว่าใช้ ม.44 เป็นตัวทำร้ายทำให้เกิดการต่อต้านขึ้น ซึ่ง พล.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า การปฏิบัติการที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย สืบเนื่องจากเหตุเข้าจับกุมพระธัมมชโย เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่มีบุคคลบางกลุ่มบางพวก ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย กระทำความผิด ไม่ยอมรับอำนาจรัฐ รวมถึงกระทำผิดวินัยสงฆ์ จึงต้องใช้มาตรา 44 เปิดทางอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามกฎหมาย
ทั้งนี้ แม้จะกล่าวย้ำหลายครั้งแล้วถึงความจำเป็น แต่ระหว่างชี้แจงผลการปฏิบัติงาน ผ่านรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" พล.อ.ประยุทธ์ ได้ระบุชัดเจนที่สุดว่า จะยกเลิกการบังคับใช้มาตรา 44 ทันที เมื่อมีการมอบตัวและให้ตรวจสอบการบริหารจัดการวัดพระธรรมกายอย่างโปร่งใส
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า มาตรา 44 เป็นเพียงกฎหมายชนิดหนึ่ง เหมือนกับกฎหมายอื่นๆ ที่ออกมาใช้เพียงเพื่อจะปลดล็อกอุปสรรคด้านกฎระเบียบต่างๆ ที่ไม่ทันสมัย หรือเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน หรือให้การดำเนินการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น รวมทั้งระงับข้อขัดแย้งในกฎหมายหลายฉบับที่อาจจะมีผลต่อการทำงาน ที่เป็นการแก้ไขเป็นมาตรการเฉพาะหน้า เพื่อให้การขับเคลื่อนเดินหน้าประเทศด้วยความต่อเนื่อง และต้องเป็นการกระทำโดยสุจริตของเจ้าหน้าที่ด้วย
เรียบเรียงโดย Chloë