หนักแค่ไหนก็ไม่ยั่น!! เปิดใจ "อุ๋ย บุดด้าเบลส" รับชีวิตมีผลกระทบ #โดนด่าเป็นเรื่องธรรมดา ลั่นวันนี้ยังมอง "ธัมมชโย" บิดเบือนหลักพุทธศาสนา ??

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/

ถือเป็นบุคคลสาธารณะที่หลายคนชื่นชมกับจุดยืนและหลักคิดต่อปมประเด็นซึ่งกำลังเป็นทอล์ค ออฟ  เดอะทาวน์  อย่าง  “พระธัมมชโย”  และวัดธรรมกาย  สำหรับคนรุ่นใหม่อย่าง “อุ๋ย นที เอกวิจิตร”  หรือที่หลายคนเรียกเขาโดยความเข้าใจว่า “อุ๋ย บุดด้าเบลส”

แน่นอนว่าการตัดสินใจใช้พื้นที่โซเชียลอย่างเฟซบุ๊ก และข้ามไปถึงการออกสื่อโทรทัศน์  ไม่เพียงทำให้ “อุ๋ย บุดด้าเบลส” ถูกพูดถึงในเชิงบวก แต่กับผู้เห็นต่าง “อุ๋ย บุดด้ากลายเป็นบุคคลที่ถูกหมายหัวโจมตีในทุกรูปแบบ ถึงขั้นเจ้าตัวยอมรับว่าจากนี้ชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปมากยิ่งขึ้น จากจุดอดีตที่เคยออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง  เพราะประเด็นเรื่อง “พระธัมมชโย” และวัดธรรมกายนาทีนี้ถือว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ระดับประเทศแล้ว ที่สำคัญยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางจะจบอย่างไร เพราะอีกฝ่ายไม่สนใจแม้กระทั่งอาญาบ้านเมือง และทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง “พระธัมมชโย” แม้ว่าจะมีพยานหลักฐานมากมาย ว่า คำสั่งสอนในหลายๆเรื่อง ขัดต่อหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและแนวคิดตามสัจจะของพุทธศาสนา

 

 

หนักแค่ไหนก็ไม่ยั่น!! เปิดใจ \"อุ๋ย บุดด้าเบลส\" รับชีวิตมีผลกระทบ #โดนด่าเป็นเรื่องธรรมดา ลั่นวันนี้ยังมอง \"ธัมมชโย\" บิดเบือนหลักพุทธศาสนา ??

 

 

“อุ๋ย  บุดด้าเบลส”  เปิดใจอีกครั้งในระหว่างไปปรากฏตัวในงานๆ หนึ่ง ต่อสิ่งที่เข้ามาหลังจากออกสื่อโทรทัศน์ เผชิญหน้ากับ นายอัยย์ เพชรทอง ประธานองค์กรพลังชาวพุทธกัลยาณมิตรวัดธรรมกาย  และ “อุ๋ย บุดด้าเบลส” นำเสนอประเด็นคำสอนของ พระธัมมชโย ว่าเป็นการบิดเบือนคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งการสอนให้ลูกศิษย์ทุ่มกับการทำบุญบารมีด้วยทรัพย์สินเงินทอง ถึงขั้นจัดตั้งระบบสถาบันการเงินมารองรับจนหลายคนเรียกการทำบุญของวัดธรรมกายว่าเป็น “ระบบขายตรง”  จนกระทั่งพระนพดล  สิริวังโส แห่งวัดธรรมกาย นำไปวิพากษ์วิจารณ์โต้กลับว่าเป็นการเข้าใจผิดในหลักการคำสอนของ “พระธัมมชโย”  
          

 

“ฟีดแบ็กที่ผมออกมาแสดงความคิดเห็น ก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่จริง ๆ ผมแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้มานานแล้ว  แล้วถ้าคนที่ตามเฟสบุ๊กมาตั้งแต่ต้นจะเห็นว่าผมแสดงความคิดเห็นทั้งการเมือง ศาสนาและทุกเรื่องมานานแล้ว  แต่บังเอิญอยู่ดี ๆ อันนี้คนแชร์กันเยอะ เพราะเรื่องวัดธรรมกายกำลังเป็นข่าวอยู่พอดี ที่ผมได้ไปออกรายการต่างคนต่างคิด ผมก็ได้บอกไปหมดแล้วว่าผมแชร์เรื่องนี้มานานแล้ว และหลังจากผมไปดีเบตกับคุณอัยย์มา”

 

 

หนักแค่ไหนก็ไม่ยั่น!! เปิดใจ \"อุ๋ย บุดด้าเบลส\" รับชีวิตมีผลกระทบ #โดนด่าเป็นเรื่องธรรมดา ลั่นวันนี้ยังมอง \"ธัมมชโย\" บิดเบือนหลักพุทธศาสนา ??

 

 

ประโยคสำคัญที่ “อุ๋ย บุดด้าเบลส” ยืนยันต่อหน้าสื่อหลายแขนงระบุชัดเจนว่าจนถึงนาทีนี้เขาก็ยังเห็นว่าคำสอนของวัดธรรมกายเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

 

 

“ผมก็ยังรู้สึกว่าพระธัมมชโยในความคิดผมยังบิดเบือนศาสนาอยู่ เพราะดูจากที่เขาเทศนาสั่งสอนมา ผมคิดแบบนั้น แต่ผมบอกไว้ก่อนเลยว่าอย่าพยายามบิดเบือนเจตนาของผม เพราะผมได้บอกไปในเฟสบุ๊คแล้ว และขอย้ำอีกทีว่าใครจะนับถือศาสนาใด เชื่ออะไรเป็นสิทธิ์ของแต่ละคน ไม่ได้ก้าวล่วงการเชื่อของแต่ละคน แล้วผมก็มองว่าคนที่เป็นธรรมกายที่ไปนั่งอยู่ในวัดหลายคน เป็นคนที่นับถือศาสนาพุทธและรักศาสนาพุทธเหมือนกัน”

 

 

“ผมแค่เสียดายคุณอัยย์เป็นคนที่มีศรัทธาสูงมาก แต่ว่าไปศรัทธากับพระที่สำหรับผมศีลเหมือนไม่ใช่พระแล้ว ถ้าคนที่มีศรัทธาแบบนี้ไปศรัทธากับพระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง จะเป็นอุบาสกที่ดีมากของศาสนาพุทธ คือเจตนาทุกคนดีทั้งนั้นทุกคนก็อยากเป็นพุทธที่ดีทุกคน ไม่มีใครเข้าวัดแล้วอยากเป็นคนบาป ทุกคนอยากเป็นคนดี แต่คนที่เป็นต้นทางนำผมรู้สึกว่าเขาสอนบิดเบือน”

 

 

 

อย่างไรก็ตาม  “อุ๋ย บุดด้าเบลส”  ย้ำว่าสิ่งที่เขาคิดเขาพูดต่อสาธารณะ  ไม่ใช่เรื่องงการเอาแพ้ชนะ  แต่เป็นสิ่งที่เขาอยากแชร์ความคิดเพื่อไปถึงคนวงกว้างแล้วช่วยกันคิดต่อ

 

 

 

“ผมย้ำอยู่เสมอว่าศรัทธาของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน บางคนเลี้ยงลูกเทพ บางคนเลี้ยงกุมารมันเป็นความเชื่อของเขา ไม่ได้มีใครโง่หรือฉลาด ที่สำคัญที่ผมออกมาพูดเรื่องนี้ผมไม่ได้มีอคติต่อวัดเพราะวัดก็ตั้งอยู่ตรงนั้น เรามาดูคำสอนกันดีกว่าว่าเขาสอนพาสังคมไปทางไหน ผมพูดไปในรายการหมดแล้วว่าทำไมต้องธรรมกายที่อื่นสอนผิดทำไมไม่ว่า เพราะผมรู้สึกว่ามีพลังจริง ๆ สำหรับที่นี่ในการสื่อสารกับคนหมู่มาก ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้เป็นข่าวใหญ่โตจริง ๆ ซึ่งสิ่งที่ผมทำลงไปผมก็ไม่รู้สึกว่าผิดพลาด หรือไม่น่าทำ มันเกิดขึ้นแล้ว อะไรที่เกิดขึ้นสำหรับผม ผมว่ามันมีเหตุผลของมันและผมก็ตัดสินใจดีแล้ว และสิ่งที่ผมทำก็เป็นการใช้เหตุผลมาคุยกัน ที่เหลือจะเป็นยังไงสังคมจะเป็นคนตัดสินเอง”

 

 

เมื่อถามว่าถึงตอนนี้ กังวลเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ “อุ๋ย บุดด้าเบลส”  บอกกับสื่อมวลชนว่า  “เรื่องความปลอดภัยผมไม่ได้บอกว่าไม่กลัว ทุกคนกลัวตายทั้งนั้น แต่ผมรู้สึกว่าผมออกมาพูดด้วยเหตุด้วยผลและถ้าเป็นคนดี ๆ เป็นสาวกธรรมกายจริง ๆ เป็นคนเข้าวัด ผมมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น  เพราะว่าผมไม่ได้ไปโกหก หลอกลวง ใช้ข้อมูลบิดเบือน เพื่อออกมาโจมตีคนที่เขานับถือ  ดังนั้นคนที่เป็นสาวกธรรมกายจริง ๆ คนธรรมะธรรมโมเขาไม่ทำนิสัยแบบนั้นแน่นอน ผมมั่นใจ แต่ถ้าจะมีคนทำก็คงเป็นคนที่มาหาประโยชน์จากทางอื่น เช่น การเมืองเห็นต่างปันแล้วมาโยง จะมาใช้ความรุนแรงข่ม อันนี้ผมว่าน่าจะเป็นประเด็นนั้นมากกว่า  แต่ผมไม่เชื่อว่าคนเข้าวัดธรรมกายจะใช้ความรุนแรงกับผม ”

 

 

ช่วงท้าย “อุ๋ย บุดด้าเบลส” สะท้อนมุมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ภายหลังออกมาเป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้งที่เกิดขึ้นว่า   “ทุกวันนี้ผมก็ยังทำมาหากินกันอยู่ แน่นอนมันต้องมีผลกระทบอยู่แล้ว  เพราะคนจ้างงานบางคนเขาคิดไม่เหมือนเรา เขาอาจหมั่นไส้และแยกไม่ได้ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว บางคนเห็นด้วยเขาก็จ้างอยู่แล้ว บางคนไม่สนใจก็มีอันนี้  ผมเป็นคนโดนรับจ้าง ผมไม่ใช่คนจ้างผม ไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง ซึ่งอย่างที่บอกโลกนี้มันเป็นโลกธรรม 8 มีนินทาคู่กับสรรเสริญ ถ้าโดนคนชมก็ต้องโดนด่าเป็นธรรมดา ขนาดพระพุทธเจ้ายังโดนคนนินทาเลย ผมเป็นแค่คนหนึ่งจะโดนคนด่าคนเกลียด มันก็เป็นปกติครับ”

 

 

 

 

 

เรียบเรียง : มนันยา สนข.ทีนิวส์