- 16 มี.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษ สำนักการสอบสวน 3 และพ.ต.อ.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร กล่าวภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับการฟอกเงินของวัดพระธรรมกาย ว่า การประชุมร่วมระหว่างดีเอสไอและอัยการเพื่อวางแนวทางการสอบสวนคดีฟอกเงิน ที่นำเงินวัดไปซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง และคดีเกี่ยวกับทรัพย์มูลนิธิวัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นแตกการสอบสวนเป็นคดีใหม่ ตามที่ก่อนหน้านี้พบหลักฐานจากการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของวัดพระธรรมกาย โดยมีความชัดเจนว่าพระทัตตชีโวนำเงินออกจากบัญชีของวัดไปซื้อหุ้น ซึ่งพระทัตตชีโวมีตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาสและรักษาการเจ้าอาวาส จึงถือเป็นตำแหน่งเจ้าพนักงาน เข้าข่ายมีความผิดมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน หลังจากนี้อาจมีหลักฐานมากกว่าที่ปรากฏนั้น
ล่าสุด เฟซบุ๊ก "Oui Buddhabless" ของ อุ๋ย บุดด้า เบลส นักร้องชาวไทย ที่ตามติดสถานการณ์ของวัดพระธรรมกายมาตั้งแต่เริ่มต้น ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยระบุว่า...
“ตามหลักของตลาดทุน ไม่มีข้อห้ามว่าคนเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นจะเป็นพระหรือวัด” โฆษก ก.ล.ต.กล่าว" ไม่ผิดกฎตลาดหลักทรัพย์ แต่ผิดกฎหมายหรือผิดพระธรรมวินัยรึเปล่า หลักฐานชี้ชัดมัดแน่นหรือไม่ ติดตามดูครับ
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สื่อในเครือสปริง กรุ๊ป ฉบับ 3244 ระหว่างวันที่ 16-18 มี.ค.2560 เปิดเผยว่า...
"ตะลึง! เงินบริจาควัดพระธรรมกายนับพันล้าน ถูกโยกไปเปิดบัญชีผ่าน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ซื้อขายหุ้นกลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์-โฮมโปร-แบงก์แลนด์และหุ้นในมือของเสี่ยสอง กระทรวงยุติธรรมพบเสียหายหนัก" ใจความว่า คดีการรับของโจรและฟอกเงินที่เจ้าหน้าที่กล่าวหาพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รวมทั้งคดีในเครือข่ายวัดพระธรรมกายในหลายคดี มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งคดีที่พระระดับรักษาการเจ้าอาวาส มีหน้าที่รักษาทรัพย์สินหรือเงินบริจาคที่ได้มาเป็นสมบัติของวัด ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ แต่มีการโยกเงินออกไปซื้อขายหุ้นสร้างความเสียหายให้กับวัด ซึ่งถือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
แหล่งข่าวจากกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดพระธรรมกาย ต.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานอัยการสูงสุดพบว่า ในคดีรับเช็คของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นำมามอบให้ พระไชยบูลย์ สุทธิผล หรือ “พระธัมมชโย” วัดพระธรรมกาย ในช่วงระหว่างปี 2552 – 2555 มีจำนวน 13 ฉบับ เป็นเงิน 768.4 ล้านบาท จากเงินที่มีการยักยอกมาบริจาคให้วัดพระธรรมกาย 1,400 ล้านบาท
ปรากฏว่าในระหว่างปี 2553 – 2559 ผู้บริหารวัดพระธรรมกาย ได้โอนเงินให้เจ้าหน้าที่การเงินกลุ่มหนึ่งนำไปเล่นหุ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอสังหาริม ทรัพย์ ในกลุ่มบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ อาทิ เช่น หุ้นบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ฯ (HMPRO) หุ้นบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ (LH) หุ้นบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ (AP) ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอพี (ไทยแลนด์)ฯ หุ้นบริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ปฯ (LHBANK)
นอกจากนี้ ยังแบ่งไปเล่นหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวพันกับนายสอง วัชรศรีโรจน์ หรือเสี่ยโทนี่ อาทิเช่น หุ้นบริษัท อินเตอร์ แนชั่นเนิลเอนจีเนียริงฯ (IEC) ที่มีนางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ หลานสาวเสี่ยสองที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หุ้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เอ็มเอฟซีฯ (MFC) ที่นายสองถือหุ้นเป็นอันดับ 4 ร่วม 4.3 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.5%
ด้านราคาหุ้นของบริษัท 6 แห่งดังกล่าว พบว่า ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในปี 2556 เช่น AP ราคาสูงสุดที่ 10.70 บาท วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 LH สูงสุดที่ 14.10 บาทในวันที่ 18 มีนาคม 2556 HMPRO ขึ้นไปสูงสุด 17.40 บาท วันที่ 2 เมษายน 2556 MFC ราคาสูงสุดที่ 58 บาท วันที่ 5 มิถุนายน 2556 ส่วน LHBANK ขึ้นสูงสุดที่ 2.28 บาท ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557 และ IEC สูงสุดที่ 0.09 บาท ในวันที่ 28 ตุลาคม 2557
ทั้งนี้ ข้อมูลทางการเงินที่มีการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของวัดและผู้ที่เกี่ยวข้องมีการนำเงินไปเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นผ่านทางโบรกเกอร์ 2-3 แห่ง วงเงินรวมกว่า 1,300 ล้านบาท ต่อมามีการปิดบัญชีในโบรก เกอร์อื่นๆและมีการโอนเงินไปเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บล.แอล เอชฯ จนสร้างความเสียหายให้กับการเงินของวัดพระธรรมกายกว่า 1,000 ล้านบาท
แหล่งข่าวกล่าวว่า พฤติกรรมการซื้อขายหุ้นมีความเกี่ยวพันกับพระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือ เผด็จ ทัตตชีโว) และพระธัมมชโย ถือเป็นการกระทำที่ผิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ประกอบกับกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ.2511) เรื่องการเก็บรักษาเงินของวัด
ทั้งนี้ ในช่วงที่เกิดเหตุปี 2553 – 2559 พระทัตตชีโว อยู่ในตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มาตรา 45 และมีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 37 และ 38 แต่มิได้ปฏิบัติตาม จึงเข้าข่ายกระทำการฝ่าฝืนต่อกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 กรณีการดำเนินกิจการของวัดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ได้มา เป็นศาสนสมบัติของวัด แต่กลับไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย จนทำให้เกิดความเสียหายกับเงินของวัดจำนวนมาก ดังนั้น พระทัตตชีโว จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฯลฯ
“ข้อมูลทั้งหมดนี้ทางกระทรวงยุติธรรม และสำนักงานพระพุทธศาสนาฯได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว และเป็นฐานข้อมูลที่นำไปสู่การปลดสมณศักดิ์พระทัตตชีโว เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนเงินที่นายศุภชัย ยักยอกมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จากผู้ฝากเงินกว่า 5 หมื่นคนที่ยังถอนเงินไม่ได้ แต่มีการถูกโยกออกไปเล่นหุ้น” แหล่งข่าวชี้แจง
นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเลขาธิการและสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขณะนี้ ก.ล.ต.ประสานความร่วมมือกับทางดีเอสไออยู่ ถ้ามีการขอข้อมูลทางการเงิน ก็ยินดีให้ความร่วมมือในเรื่องการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของวัดพระธรรมกาย ทั้งในรูปของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ใช้บัญชีซื้อขายหุ้น
“ตามหลักของตลาดทุน ไม่มีข้อห้ามว่าคนเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นจะเป็นพระหรือวัด” โฆษก ก.ล.ต.กล่าว
แหล่งข่าวจาก บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ชี้แจงว่า คงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลลูกค้าที่ซื้อขายหุ้นต่อสาธารณะได้ แต่ถ้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือดีเอสไอประสานมา สามารถให้ข้อมูลกับตลาดหลักทรัพย์ฯได้ เพราะถ้าเปิดเผยจะมีผลต่อสำนวนทางคดี
ก่อนหน้านี้ นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีสอบสวน 3 เปิดเผยว่า เงินที่ถูกโอนหรือโยกไปเล่นหุ้นทั้งหมดที่ตรวจพบมีกว่า 1,000 ล้านบาท ในเบื้องต้นพบว่ามีบริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการซื้อขายหุ้นให้ และมีพระที่ดูแลเรื่องเงินของวัดเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหลายรูป
นายขจรศักดิ์ยังยอมรับอีกว่า เงินวัดพระธรรมกายที่มีการนำไปเล่นหุ้น มีพ่อมดการเงินที่เป็นเซียนหุ้นชื่อย่อ ส. เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังผู้บริหารบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ถึงกรณีการนำเงินของวัดพระธรรมกาย ไปลงทุนในหุ้นกลุ่มนั้น เบื้องต้นคณะผู้บริหารยังไม่มีคำตอบใดๆ ออกมาในช่วงเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งหากมีความชัดเจนก็จะรีบชี้แจงโดยทันที
ล่าสุด นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษสำนักการสอบสวน และ พ.ต.อ.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินและธนาคาร เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในคดีพิเศษที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับการฟอกเงินของวัดพระธรรมกาย ว่า เป็นกรณีการกำหนดขั้นตอนสอบสวนคดีฟอกเงินจากเหตุข้อกล่าวหามีการตรวจสอบพบว่ามีกลุ่มบุคคลนำเงินวัดไปซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง และคดีเกี่ยวกับทรัพย์มูลนิธิวัดพระธรรมกาย โดยเป็นการแตกประเด็นการสอบสวนเป็นคดีใหม่ ตามที่พนักงานสอบสวนได้พบหลักฐานจากการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของวัด โดยเบื้องต้นมีความชัดเจนว่า พระทัตตชีโว นำเงินออกจากบัญชีของวัดไปซื้อหุ้น ขณะที่พระทัตตชีโว มีตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาสและรักษาการเจ้าอาวาส จึงถือเป็นตำแหน่งเจ้าพนักงาน เข้าข่ายมีความผิดมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย
นายขจรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้รายละเอียดคดีอยู่ระหว่างการสอบสวน ทำให้ต้องรอผลสรุปอีกครั้งเพราะอาจมีหลักฐานมากกว่าที่ปรากฏ แต่อย่างไรก็ตามคณะทำงานได้จัดกลุ่มคดีเป็น 15 สำนวน และกระจายความรับผิดชอบให้ชุดสอบสวนรับไปดำเนินการ เช่น มูลนิธิ กลุ่มบุคคล และบุคคล ที่นำเงินไปซื้อที่ดินแล้วไม่ได้ยกให้เป็นที่ดินของวัดหรือธรณีสงฆ์ อย่างไรก็ตาม ขอปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในการสอบสวนการฟอกเงินในส่วนของ น.ส.อลิสา อัศวโภคิน และ นายอนันต์ อัศวโภคิน ที่ซื้อต่อที่ดินมาจาก นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ผู้ต้องหาและอดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น โดยคดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบสำนักคดีอื่น ทราบว่าส่วนสืบสวนสำนักคดีเทคโนโลยีและการตรวจสอบ 2 กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน
อย่างไรก็ตามกับกรณีที่เกิดขึ้น สำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้ส่งเอกสารข่าวผ่านทางไลน์กลุ่ม "News วัดพระธรรมกาย" ไปยังสื่อมวลชน ปฏิเสธข่าวนำเงินวัดไปเล่นหุ้น โดยระบุว่าจากกรณีมีกระแสข่าวระบุว่า เงินบริจาควัดพระธรรมกายนับ 1,000 ล้านบาท ถูกนำไปซื้อขายหุ้นในบริษัทหรือให้บุคคลต่าง ๆ เล่นหุ้นนั้น วัดพระธรรมกายขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
เรียบเรียง : นิตติยา บุญตาวัน สำนักข่าวทีนิวส์
ขอบคุณที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ, Oui Buddhabless



