โถๆๆ..พวกปากดี!! ที่แท้ "เนติวิทย์" หูตาแหกทำเรื่องขอผ่อนผันเกณฑ์ทหารล่วงหน้า ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนลั่นชายไทยฝ่าฝืนมีโทษจำคุก!?!

ภายหลังจาก  พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก  (ผช.ผบ.ทบ.)  เป็นประธานการแถลงข่าว  ตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2560   โดยมี  พล.ท.วีรชัย อินทุโสภณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.)   พล.ท.คธายุทธ์ เสาวคนธ์ เจ้ากรมกำลังพลทหารบก (กพ.ทบ.) พล.ท.ชูชาติ บัวขาว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก (ยก.ทบ.) ร่วมแถลงข่าว โดยยืนยันว่า  กองทัพบกมีนโยบายในการตรวจเลือก มีความรวดเร็ว โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมและปราศจาการทุจริตในการตรวจเลือก  

อย่างไรก็ตามในการแถลงข่าววันนี้    ( 21 มี.ค.)  ได้มีการแสดงรายชื่อบุคคลซึ่งเป็นที่รู้จักในแวดวงต่าง ๆ    อาทิเช่น  กลุ่มดารานักร้องประกอบด้วย นายพชร จิราธิวัฒน์   ,  นายเจมส์ อัศรัศกร  (เจมส์ มาร์)  นายมิกค์ ทองระย้า   และ  นายสหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล (สิงโต เดอะสตาร์)

ขณะที่กลุ่มบุตรนักการเมือง  ประกอบด้วย อาทิ นายเศรณี ชาญวีรกูล บุตรชาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  และ  นายอนรรฆ  โกษะโยธิน  บุตรชายนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน  นอกจากนี้ยังมีชื่อ  นายเนติวิทย์   โชติภัทร์ไพศาล   นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เคยออกมาแสดงจุดยืนจะไม่เข้ารับการตรวจเลือกหรือเกณฑ์ทหาร  รวมถึง “จ่านิว” หรือ  นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์    แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่

 

 

 

 

ล่าสุด  พล.ท.วีรชัย อินทุโสภณ  ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ได้กล่าวถึงสิ่งที่หลายคนตั้งคำถามว่าในกรณีของ  นายเนติวิทย์  ซึ่งเคยประกาศว่าไม่ยอมรับขั้นตอนการเกณฑ์ทหาร  โดยอ้างว่าเป็นเรื่องล้าสมัย  เพราะหลายประเทศเปลี่ยนแปลงไปใช้ระบบสมัครใจ  ถ้าถึงขั้นตอนการตรวจเลือกแล้วนายเนติวิทย์ไม่มาจะดำเนินการอย่างไร   ว่า  นายเนติวิทย์ เมื่อได้รับหมายก็ต้องเข้ารับการตรวจเลือกตามวันเวลาที่กำหนด คือวันที่ 4 เม.ย. 2560 หากไม่มาก็เท่ากับหลีกเลี่ยงและขัดขืนก็จะถูกร้องทุกข์กล่าวโทษและ หน่วยทหารจะไปแจ้งความ ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นศาลจะเป็นผู้ตัดสินความผิด  ที่สำคัญภายหลังจากถูกตัดสินแล้วและในปีต่อไปก็จะต้องเข้ามาเป็นทหารทันทีโดยไม่ต้องผ่านการตรวจเลือก  หรือเท่ากับนายเนติวิทย์จะต้องเป็นทหารทันทีโดยไม่ต้องมีการจับใบดำใบแดงอีก

 

 

 

 

"ไม่ว่านายเนติวิทย์ จะหนีไปไหน ก็หนีไม่พ้นต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร เพราะการตรวจเลือกทหารนั้น เป็นหน้าที่ที่ชายไทยทุกคนจะต้องปฏิบัติเท่าเทียมกันหมด ถือเป็นกฎหมาย และคนที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องมีโทษ มีคดีติดตัว และไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศ และเข้ารับราชการก็ไม่ได้ รวมถึงทำงานด้านอื่นๆ"

 

พล.ท.วีรชัย ระบุเพิ่มเติมอีกด้วยว่า  ส่วนตัวขอให้ความมั่นใจกับนายเนติวิทย์ว่าการเข้ามาเป็นทหารไม่ต้องกลัวว่าจะโดนกลั่นแกล้งเพราะเราไม่เคยคิดที่จะไปกลั่นแกล้งใคร การเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้อบังคับและกฎหมาย ซึ่งไม่มีใครสามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ หากเจ้าหน้าที่ไปกลั่นแกล้งใครก็จะมีความผิด

 

 

 

 

ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497  กำหนดว่าชายที่มีสัญชาติไทย เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี บริบูรณ์ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินภายในพุทธศักราชนั้น   ที่อำเภอท้องที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่โดยจะได้รับใบสำคัญ สด. ๙ เมื่อลงบัญชี ณ อำเภอใดแล้ว อำเภอนั้นจะเป็นภูมิลำเนาทหารของทหารกองเกินผู้นั้น ภูมิลำเนาทหารเป็นภูมิลำเนาเฉพาะไม่เกี่ยวข้องกับทะเบียนบ้านหรือสำมะโนครัว การจะย้ายภูมิลำเนาทหารต้องกระทำที่อำเภอแยกต่างหากจากการย้ายภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎร ทหารกองเกินที่ย้ายทะเบียนราษฎร์จะย้ายภูมิลำเนาทหารด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่มีหน้าที่แจ้งต่อนายอำเภอทุกครั้งที่ไปอยู่ต่างถิ่นเป็นเวลาเกินกว่า 30 วัน   หากไม่แจ้งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนเดือน ปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

ภูมิลำเนาทหารมีความสำคัญต่อทหารกองเกินอย่างมากเพราะเป็นสถานที่ที่ทหารกองเกินต้องไปรับการตรวจเลือก ในแต่ละท้องที่ก็มีจำนวนทหารกองเกินและความต้องการของฝ่ายทหารที่กำหนดมาต่างกัน การอยู่ในภูมิลำเนาทหารที่ต่างกันจึงมีผลต่อการตรวจเลือกเข้ารับกองประจำการ และเป็นช่องทางให้มีผู้หลีกเลี่ยงการเป็นทหารใช้หลบเลี่ยงไปได้

 

ทหารกองเกินเมื่อมีอายุย่างเข้า 21 ปี ในพุทธศักราชใด ต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของตนภายในพุทธศักราชนั้น โดยจะได้รับหมายเรียก สด. ๓๕ เพื่อให้มารับการตรวจเลือกในปีถัดไป

 

ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ขึ้นบัญชีทหารกองเกินหรือไม่มารับหมายเรียกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าก่อนที่เจ้าหน้าที่ยกเรื่องขึ้นพิจารณาความผิด ผู้นั้นได้มาขอลงบัญชีทหารกองเกิน หรือ มารับหมายเรียกแล้ว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า นายเนติวิทย์ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงการเข้าตรวจคัดเลือกทหารตามเกณฑ์กำหนดในปี  2560    ว่า   จะใช้วิธีการขอผ่อนผันเหมือนเคยปฏิบัติมา  และได้ดำเนินการยื่นเรื่องไว้แล้ว  พร้อมระบุว่าถึงอย่างไรจะไม่มีวันไปเกณฑ์ทหารแน่นอน และจะวิธีสู้โดยการขอผ่อนผัน  ซึ่งตนเห็นว่าไม่ใช่วิธีการหนีทหาร หรือใช้การยัดเงินอย่างแน่นอน