- 03 พ.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th/
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้เบิกตัว พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง จากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี มายังศาลอาญา เพื่อฟังคำพิพากษาฎีกา ในคดีที พนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเฉลิมชัย พร้อมนายศรายุธ ภู่พลับ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่/ นายธานี ฟูทอง/นายพรชัย สุคัณธสิริกุล/นายธีรยุทธ สุวรรณพาณิชย์ อดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจ / พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือ เสธ.ยอด อดีตที่ปรึกษานายกเทศบาลนครเชียงใหม่ /นายนิสสันต์ ชาติชำนิ และ จ่าสิบเอก สุทิน ศรีเมืองหลวง เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 8 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น เป็นสมาชิกเทศบาลเรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยทุจริต และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น กรณีระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2538 ถึง 31 พฤษภาคม 2539 จำเลยร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้ค้าในตลาดไนท์บาซาร์ จังหวัดเชียงใหม่ศาลฏีกา พิพากษา ยืนตามศาลอุทธรณ์จำคุกนายศรายุธ ฐานเป็นตัวการ เป็นเวลา 9 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือ ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้จำคุกคนละ 6 ปี เนื่องจากฏีกา ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ทั้งนี้คดีหมายเลขดำที่ ด.3203/2540 เป็นคดีที่พนักงานอัยการกองคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศรายุธ ภู่พลับ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่, นายธานี ฟูทอง, นายพรชัย สุคัณธสิริกุล, นายธีรยุทธ สุวรรณพาณิชย์ ทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่เทศกิจ, นายเฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือผู้พันตึ๋ง, พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือเสธ.ยอด อดีตที่ปรึกษานายกเทศบาลนครเชียงใหม่,
นายนิสสันต์ ชาติชำนิ (เสียชีวิต) และ จ.ส.อ.สุทิน ศรีเมืองหลวง เป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้ หรือหามาซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น เป็นสมาชิกเทศบาลเรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยทุจริต และร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 149, 157 และ 337 ประกอบ มาตรา 44, 45, 83 และ 86 กรณีระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน 2538 - 31 พฤษภาคม 2539 พวกจำเลยร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้ค้า 128 รายในตลาดวโรรส และตลาดไนท์บาซาร์ จ.เชียงใหม่
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1-5 ฐานความผิดตามมาตรา 148, 149 และ 337 วรรคหนึ่ง อันเป็นความผิดกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุดตาม ม.148 ฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ข่มขืนใจให้ผู้อื่นมอบทรัพย์สินฯ จำคุก 9 ปี นายศรายุธ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ จำเลยที่ 1 ฐานเป็นตัวการ ส่วนจำเลยที่ 2-5 เป็นผู้สนับสนุนให้จำคุกคนละ 6 ปี และให้จำเลยที่ 1-4 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายด้วย และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6 และ 8 ขณะที่นายนิสสันต์ ชาติชำนิ จำเลยที่ 7 ได้เสียชีวิตระหว่างการพิจารณา ศาลจึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความต่อมาจำเลยที่ 1-5 ยื่นอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า คงจำคุกนายศรายุธ อดีตหัวหน้าเทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ จำเลยที่ 1 ฐานเป็นตัวการเป็นเวลา 9 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-5 เป็นผู้สนับสนุนให้จำคุกคนละ 6 ปี และให้จำเลยที่ 1-4 ร่วมกันชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายด้วย
สำหรับ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ หรือ “ผู้พันตึ๋ง” จำเลยที่ 5 นอกจากคดีนี้แล้วยังถือเป็นนักโทษจำคุกตลอดชีวิต ในคดีร่วมกันฆ่านายปรีณะ ลีพัฒนะพันธ์ อดีต ผู้ว่าฯ ยโสธร โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย แต่เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ที่ผ่านมาผู้พันตึ๋งได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เนื่องจากได้รับการพักการลงโทษตามเงื่อนไข กระทั่งต่อมาวันที่ 25 สิงหาคม 2559 คณะกรรมการพักการลงโทษได้ยกเลิกการพักโทษของนายเฉลิมชัย ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้จับกุมนายเฉลิมชัยตามคำข้อหากระทำความผิดถูกร้องเรียนข่มขู่เรียกเงินชาวบ้านในช่วงระหว่างการพักการลงโทษ



