ไอเดียโดนใจ!!! ผกก.(สน.ท่าเรือ) ผุดโครงการสุดบรรเจิดลดค่าปรับทำผิดกฎจราจร แต่มีเงื่อนไขที่ทำเอาคนใช้รถใช้ถนนถึงขั้นยอมชื่นชม??

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีที่โลกออนไลน์ต่างพากันแชร์ภาพที่ถูกเผยแพร่โดย สมาชิกเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "เบ็น พรหมเพ็ชร์" ที่ได้เผยแพร่เรื่องราว ขณะเดินทางไปที่ สน.ท่าเรือ และพบกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดป้ายไว้ว่า โครงการ สอบได้ให้ลด (ค่าปรับจราจร)  พร้อมระบุข้อความว่า “มีแบบนี้ก็ดี สอบได้ก็ได้ลดค่าปรับ” ซึ่งภายหลังจากภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ทำให้กลายเป็นที่พูดถึงกันเป็นจำนวนมาก

 

 

 

ไอเดียโดนใจ!!! ผกก.(สน.ท่าเรือ) ผุดโครงการสุดบรรเจิดลดค่าปรับทำผิดกฎจราจร แต่มีเงื่อนไขที่ทำเอาคนใช้รถใช้ถนนถึงขั้นยอมชื่นชม??

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด พ.ต.อ.สมบัติ แก่นวิจิตร ผกก.สน.ท่าเรือ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ที่จัดตั้งโครงการนี้ขึ้นมา เพื่ออยากให้ความรู้เรื่องกฎวินัยและระเบียบจราจร ต่อผู้ที่กระทำความผิดในข้อหาเบา เช่น ไม่สวมหมวกกันน็อคขณะขี่จักรยานยนต์ ไม่คาดเข้มขัดนิรภัยขณะขับรถ หรือไม่ต่อทะเบียนรถเป็นต้น โดยข้อสอบมีทั้งหมด 20 ข้อ เป็นแนวข้อสอบเกี่ยวกับกฎหมายและวินัยจราจร หากผู้กระทำผิดสามารถทำข้อสอบได้เกินครึ่ง สามารถจ่ายค่าปรับได้เพียง 100 บาท

 

 

ไอเดียโดนใจ!!! ผกก.(สน.ท่าเรือ) ผุดโครงการสุดบรรเจิดลดค่าปรับทำผิดกฎจราจร แต่มีเงื่อนไขที่ทำเอาคนใช้รถใช้ถนนถึงขั้นยอมชื่นชม??


 

“หลังจากที่โครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดให้สอบเพื่อลดค่าปรับแล้วนั้น ผู้ที่กระทำความผิดในข้อหาเบาได้เดินทางมาเสียค่าปรับและทำข้อสอบ ส่วนมากรู้สึกดีใจที่ได้ทำข้อสอบผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด และเสียค่าปรับเพียง 100 บาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดีใจเช่นกัน ที่ได้เผยแพร่ความรู้และวินัยจราจร และหวังว่าความรู้ที่ได้ไปจากการทำข้อสอบนั้นจะทำให้ผู้ที่กระทำความผิด ไม่ทำความผิดซ้ำและกลับมาเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจอีก” 

 

 

ไอเดียโดนใจ!!! ผกก.(สน.ท่าเรือ) ผุดโครงการสุดบรรเจิดลดค่าปรับทำผิดกฎจราจร แต่มีเงื่อนไขที่ทำเอาคนใช้รถใช้ถนนถึงขั้นยอมชื่นชม??

 

 

ไอเดียโดนใจ!!! ผกก.(สน.ท่าเรือ) ผุดโครงการสุดบรรเจิดลดค่าปรับทำผิดกฎจราจร แต่มีเงื่อนไขที่ทำเอาคนใช้รถใช้ถนนถึงขั้นยอมชื่นชม??

 

 

ไอเดียโดนใจ!!! ผกก.(สน.ท่าเรือ) ผุดโครงการสุดบรรเจิดลดค่าปรับทำผิดกฎจราจร แต่มีเงื่อนไขที่ทำเอาคนใช้รถใช้ถนนถึงขั้นยอมชื่นชม??

 

 

 

 

ขอบคุณที่มา : เบ็น พรหมเพ็ชร์