ใหญ่แค่ไหนก็โดน!!! ชาวบ้านร้องนักการเมืองยึดป่าสงวน “ทหาร-ตำรวจ”บุกสอบ?!พบเป็นเหมืองแร่“ชาดา”ใช้สค.1บวมจาก150ไร่เป็นกว่า500ไร่???

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

จากกรณีมีการร้องเรียนว่ามีนักการเมืองเข้าครอบครองยึดที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ต.ห้วยแห้ง อ.บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ทำให้พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ต.บัญชา ปั้นประดับ ผบภ.จ.อุทัยธานี, พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ท. , พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บังคับการ กอ.รมน.อุทัยธานี,นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พ.อ.ธงเพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกันบูรณาการเข้าตรวจค้นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

       ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าที่ดินดังกล่าวมีหลักฐานเป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) จำนวน 11 แปลง เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ปัจจุบันมีชื่อ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นผู้ครอบครอง โดยพ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า พิจารณาหลักฐานแล้ว ปรากฎข้อเท็จจริง หนังสือรับรอง น.ส.3 ก. จำนวน 11 แปลงดังกล่าว ออกมาจากแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) ซึ่งไม่ตรงตำแหน่งเดิม หรือที่เรียกว่า ส.ค.1 บิน เพราะที่ดิน น.ส.3 ก.มีพื้นที่ติดต่อกัน แต่เมื่อนำหลักฐาน ส.ค.1 มาต่อกันข้างเคียงไม่มีความสัมพันธ์กัน

 

       “ มีการรังวัดออกหลักฐานได้เนื้อที่มากกว่าที่มีการแจ้งไว้ในแบบแจ้งการครองครอง (ส.ค.1) หรือที่เรียกว่า ส.ค.1 บวม เช่น ส.ค.1 เลขที่ 264 เนื้อที่ 12 ไร่ ได้นำมาออกเป็นหนังสือรับรอง น.ส.3 ก. เลขที่ 1323 ได้เนื้อที่ 61-2-00 ไร่ ซึ่งจะเป็นลักษณะนี้ทุกแปลง เมื่อรวมเนื้อที่ ส.ค.1 ทุกแปลงจะได้เนื้อที่ทั้งหมด 152 ไร่ แต่มีการนำไปออก น.ส.3 ก. ได้เนื้อที่ถึง 515 ไร่ ขณะที่แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ได้ออกในนามชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ โดยทุกแปลงระบุว่าเป็นที่นาและครอบครองมาตั้งแต่ประมาณปี 2490 แต่จากรูปถ่ายทางอากาศในปี 2496 และ 2518 สภาพพื้นที่มีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ไม่ใช่เป็นที่นา หรือปรากฎรูปกระทงนา ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะประสาน ป.ป.ท.ให้เข้ามาตรวจสอบ ส.ค.1 ตั้งแต่เริ่มต้น

ใหญ่แค่ไหนก็โดน!!! ชาวบ้านร้องนักการเมืองยึดป่าสงวน “ทหาร-ตำรวจ”บุกสอบ?!พบเป็นเหมืองแร่“ชาดา”ใช้สค.1บวมจาก150ไร่เป็นกว่า500ไร่???

       อย่างไรก็ตามตรวจสอบพบที่ดินผืนดังกล่าวมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) จำนวน 11 แปลง ซึ่งออกมาจากหลักฐานเดิมคือ แบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) ในชื่อของชาวบ้านในพื้นที่ ต่อมาได้มีการออกเป็นหนังสือรับรอง น.ส.3 ก. จำนวน 11 แปลง ในชื่อของบริษัทเหมืองแร่แหลมพิชัย จำกัด โดยออกพร้อมกันในวันที่ 15 ก.ย.2525 มีนายสุพัฒน์ จรลีรัตน์ เจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดิน 5 ลงนามในหนังสือรับรอง น.ส.3 ก. แทนนายอำเภอบ้านไร่ ก่อนจะขายที่ดินทั้ง 11 แปลงให้นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชายนายชาดา เมื่อวันที่ 29 เม.ย.54 และได้มีการจดทะเบียนโอนมรดกจากนายฟารุต ให้นายชาดา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2558 ซึ่งสภาพที่ดินมีลักษณะเป็นเหมืองเก่า สัมปทานบัตรขาดอายุ ปัจจุบันนายชาดา ได้ยื่นขอสัมปทานบัตร และอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงอุตสาหกรรม

ใหญ่แค่ไหนก็โดน!!! ชาวบ้านร้องนักการเมืองยึดป่าสงวน “ทหาร-ตำรวจ”บุกสอบ?!พบเป็นเหมืองแร่“ชาดา”ใช้สค.1บวมจาก150ไร่เป็นกว่า500ไร่???