ต้องอ่าน!"ข้อเขียนจากใจเด็กวิศวะปี1" ผู้อยู่ในเหตุการณ์ร่านป่วน ฉายชัด"ความสามานย์ของเนติวิทย์" ว่าไปแล้ว คนโสโครกเท่านั้นที่ทำเรื่องแบบนี้ 

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

 


ต้องอ่าน!! "ข้อเขียนจากใจ" ของเด็กวิศวะปี 1 ผู้อยู่ในเหตุการณ์ "แก๊งเนติวิทย์ป่วน" พิธีปฏิญาณตนของนิสิตจุฬาฯ  ให้ภาพชัด "ลิเบอร่าน-เนติวิทย์นั้นสามานย์แค่ไหน" ใช้คำว่า "โสโครก" ยังสะอาดไปสำหรับการกระทำที่จงใจฉีกทึ้งสังคมเช่นนั้น  


ควันหลง กรณีนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ภาพเหตุการณ์ถวายสัตย์ปฏิญาณของนิสิตจุฬาฯ วานนี้ซึ่งมีการกระทบกระทั่งกัน จนกลายเป็นประเด็นลุกลามใหญ่โตในโลกออนไลน์ และมีบุคคลหลากหลายออกมาแฉความจริงอีกด้านว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่ เนติวิทย์ กล่าวอ้างสร้างภาพให้กลุ่มตัวเองดูดี และเป็นผู้ถูกกระทำเลยสักนิด กระทั่งมีผู้ออกมาตอบโต้ถึงข้อเท็จจริงต่างๆ อีกหลายรายนั้น


ต่อกรณีนี้ ในโลกออนไลน์ พบว่ามีการแชร์ข้อเขียนของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี "Worrawee Thamputthipong"  ซึ่งเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับความสามานย์ของนายเนติวิทย์

ข้อเขียนของน้องวิศวะคนนี้ไม่ได้โจมตีใคร แค่เล่าความจริงอย่างตรงไปตรงมา แต่ทว่าความจริงนั้นกลับเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับสิ่งที่  "แก๊งเนติวิทย์" พยายามกระพือข่าว เมื่อเป็นดังนั้น จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่ "ความจริงจะต้องมีเพียงหนึ่งเดียว" และนั่นทำให้เห็น ความสามานย์ของเนติวิทย์...ไปแบบใครก็ไม่อาจแก้ตัวให้ได้ (แม้  อ. เจษฎา ที่ระบุว่า ตนเป็นฝ่ายเดียวกับเนติวิทย์ ยังไม่เล่นด้วยกรณีนี้ แถมย้ำว่า ถ้าตนเองยังเป็นนิสิตอยู่ จะขอใช้สิทธิให้ถอดเนติวิทย์จากตำแหน่งประธานสภานิสิตด้วยซ้ำ เพราะเขาโกหกมดเท็จ)

โดยข้อเขียนทั้งหมดที่ "Worrawee Thamputthipong" ระบุ คือ 
  

หลังพิธีถวายบังคมจบแล้ว อยากจะเขียนบันทึกอะไรซักหน่อย ก่อนที่สังคมจะมองเกี่ยวกับพิธีนี้ผิดไปมากกว่านี้


เวลาประมาณ 15.30 น. นิสิต Freshy ทุกคนมารวมกันที่ด้านข้างของสนามหญ้า มีเต๊นท์กางไว้ให้แล้ว ไม่มีแดด ลมเย็นพอสมควร และฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว จากนั้น พี่สตาฟฟ์ ก็แจกใบกำหนดการให้ ซึ่งมี 2 หน้า เป็นกระดาษแผ่นเล็กๆ ตามรูปด้านล่าง หน้าแรกซึ่งไม่ได้ถ่ายมาเป็นคำปฏิญาณตน ส่วนหน้านี้ เป็นตารางของพิธี ซึ่งพอได้รับมาผมก็สะกิดใจพอสมควร ว่าทำไมมีแค่ถวายบังคม 3 ครั้งละจบ สักพัก แถวของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ผมอยู่ก็ได้เข้าที่สนามตรงกลาง จุดที่ผมยืนคือฐานส่วนล่างสุด มองไปด้านหน้าจะเห็นพระบรมรูปของทั้ง 2 รัชกาล อยู่ตรงหน้าไม่มีใครบัง พิธีกรกล่าวซักซ้อม บอกกำหนดการ ขณะกำลังจะเริ่มซักซ้อม เมฆฝนก้อนมหึมาได้เคลื่อนตัวเข้ามาอยู่ด้านบนหัวผม ฝนเม็ดที่หนึ่ง หยดลงมา เป๊าะ ที่ขาผม และเพื่อนๆอีกกลุ่มหนึ่ง ขณะนั้นเป็นเวลา 16.10โดยประมาณ 

 

พี่สตาฟฟ์กลุ่มหนึ่งเริ่มวิ่งวุ่นกันไปทั่ว เพื่ออะไรผมก็ไม่ทราบ และแอบรำคาญหน่อยๆด้วย คือกำลังจะเริ่มพิธีจะทำให้อลหม่านกันทำไม แถมฝนก็หยดลงมาเม็ดสองเม็ด
แต่สิ่งที่พบคือ เขากำลังรีบแจกจ่าย "แผ่นกระดาษบางๆ" ไม่สิ ความจริง สิ่งๆนั้น คือ "เสื้อพลาสติกกันฝน" ให้กับนิสิต โดยจะเริ่มจากนิสิตหญิงก่อน ขณะที่ฝนเริ่มตกปรอยๆ แต่มีความถี่ที่เพิ่มขึ้น นิสิตหญิงเท่าที่ผมสังเกตได้รับเสื้อกันฝนอย่างรวดเร็วด้วยการประสานงานกันของทางสตาฟฟ์ เมื่อการแจกจ่าย "เสื้อพลาสติกกันฝน" ให้นิสิตหญิงเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงคราวของนิสิตชาย ขณะนั้นยังตกปรอยๆอยู่นะครับ แจกกันอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังไม่ได้ เพราะลำเลียงมาไม่ทัน ซึ่งก็เลยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปโดยฉีกพลาสติกแบ่งๆกัน หรือบางคนก็ไม่รับ เพราะฝนยังตกแบบ ปรอยๆ หนึ่งในนั้นก็คือผม


จุดที่ฝนเทกระจาดลงมาคือหลังเสร็จสิ้นพิธีแล้วแปปเดียวครับซึ่งคนส่วนมากเข้าไปหลบฝนในเต๊นท์กันแล้ว (พวกที่ยังอยู่กลางแจ้งคือ กำลังถ่ายรูปอยู่ -.-) ดังนั้น ผมขอชื่นชมพี่สตาฟฟ์ทุกคนครับ ที่ช่วยกันจ่ายเสื้อกันฝนให้ทุกคนอย่างเร่งรีบ และโดยเฉพาะนิสิตหญิงมีเสื้อกันฝนก่อนที่ฝนจะตกจริงๆ ซึ่งสามารถป้องกันการโป๊ได้อย่างดี
กลับมาที่พิธีกันต่อ พิธีกรจึงเริ่มพิธี (ซึ่งผมมารู้ทีหลังว่าไม่มีซ้อมละลุยจริงเลย) 

สัญญาณครั้งที่ 1 มารวดเร็วมากครับ ต่อด้วย 2-3-4 เสร็จภายใน 15 วินาที ซึ่งผมตามไม่ทัน จากนั้นสัญญาณครั้งที่ 5 ได้ดังขึ้นต่อทันที ทุกคนลุกขึ้นกล่าวคำปฏิญาณ ต่อทันที โดยที่พิธีนี้ ไม่มี " การหมอบกราบ" ใดๆ ทั้งสิ้น นะครับ คือถวายบังคมเสร็จลุกขึ้นปฏิญาณตน เสร็จเลยใน 1 นาที พอเสร็จแล้วก็เป็นอันยุติพิธีเลย ไม่มีการร้องเพลง เนื่องจากมีสัญญาณว่าฝนจะเทกระจาดลงมา ผมได้รับสัญญาณจากคนข้างหน้าว่า "เฮ้ย สลายตัว" ยังไม่ทันไร ทุกคนวิ่งไปเข้าเต๊นท์ทันที ส่วนผมก็ยังยืนงงๆอยู่ จนเพื่อนมาเรียก "เฮ้ย วิ่ง" ถึงได้สติว่าฝนกระหน่ำมาแล้ว ก็รีบวิ่งไปเข้าเต๊นท์ เป็นอันเสร็จพิธี

 

จากนั้นก็ได้รับเสื้อกันฝนจากพี่สตาฟฟ์ ก็ได้เสื้อตัวนี้แหละครับที่พาลุยจากศาลาพระเกี้ยวไปคณะอักษรศาสตร์ จากนั้นเดินอ้อมข้ามฝั่งไปหาข้าวทานที่คณะนิเทศศาสตร์
ส่วนผู้ใหญ่ในพิธีสิบกว่าท่าน ใจแข็งมากครับ ยืนทนฝนอย่างงั้นเลย ผมเห็นร่มกางแค่คันสองคันเอง


ที่มีข้อมูลขนาดนี้ได้เพราะจุดที่นั่งค่อนข้างโล่งและสามารถมองเห็นพิธีได้อย่างชัดเจนนะครับ


ทั้งหมดที่เขียนมาก็เพราะอยากจะมาเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในงานจริงๆนะครับ อยากให้อ่านให้จบนะครับ เพราะคุณจะได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริภายในงาน
งานอาจจะจบไม่สวยหรู แต่ทุกฝ่ายประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมครับ :)


วรวีร์ ธรรมพุฒิพงศ์ นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์
Edit : แก้คำผิดเล็กน้อยครับ


ขอบคุณข้อเขียนจาก : เฟซบุ๊ก "Worrawee Thamputthipong"