- 12 ส.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดเชียงใหม่กว่า 100 นาย นำหมายค้นที่ ค.473/2560 ลงวันที่ 12 ส.ค.60 เข้าค้นบ้านเลขที่ 13 ถนนเกาะกลาง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของนายราชิน ตันตรานนท์ อายุ 38 ปี สมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ แขวงเม็งราย และเป็นลูกชายของนายวรกร ตันตรานนท์ นักธุรกิจตระกูลดังของเชียงใหม่ และอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่นั้น
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจค้นพบอาวุธปืนยาว 1 กระบอก และอาวุธปืนสั้น 2 กระบอก พร้อมกระสุนอีกกว่า 100 นัด คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสมุดธนาคารและอื่นๆ ก่อนควบคุมตัวนายราชิน ไปสอบสวนปากคำ ซึ่งนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจค้นบ้านในพื้นที่เป้าหมายอีก 4 จุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีกลุ่มคนได้นำโคเคนจำหน่ายตามสถานบันเทิงหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ จึงสืบสวนพฤติกรรมของแก๊งค้าโคเคนในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นพบว่ากลุ่มผู้ค้าใช้รถหรูนำยามาจำหน่ายตามสถานบันเทิง
เจ้าหน้าที่ได้ติดตามนายศุภโชติ มัทซึบารา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 443 หมู่ 4 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ใช้รถ ฮอนด้า เอชอาร์วี สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ5568 เชียงใหม่ ลำเลียงส่งไปขายตามสถานบันเทิง ก่อนจับกุมได้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาในรถก็พบโคเคนบรรจุอยู่ในซองพลาสติกน้ำหนักรวม 3.5 กรัม และก็ให้ยอมรับสารภาพ โดยโคเคนถูกส่งมาจากกรุงเทพ มีนายบัญชา ลออชัยรังษี อายุ 38 ปี นายกานต์ กันทาธรรม อายุ 38 ปี ร่วมเป็นหุ้นส่วน จึงติดตามจับกุมทั้งสองคนได้
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่า ได้ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมาโดยมีสมาชิก 4 คน ลงขันกันสั่งซื้อโคเคนจากกรุงเทพ ครั้งละ 53,000 บาทได้โคเคนมา 20 กรัม จากนั้นนำไปผสมกับยาพารา แล้วนำแบ่งเป็นถุงๆละครึ่งกรัมขายทางออนไลน์ โดยทำมานานเกือบ 1 ปี ก่อนถูกจับกุมตัวได้ ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าค้นบ้านนายราชิน เพราะถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซัดทอดว่าเป็นสมาชิกในกลุ่มไลน์ที่ร่วมกันค้าโคเคน อีกทั้งรถที่ใช้ขนยาคือรถยนต์ ฮอนด้า เอชอาร์วี ก็เป็นรถของนายราชิน ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาทั้งหมด “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” สำหรับนายราชิน ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้าและจับไม่ได้ ของกลางทางตำรวจจึงขอศาลออกหมายจับในข้อหาเดียวกัน ตามคำซัดทอดของผู้ต้องหาอื่น



