ถูกตะเพิดจากปธ.สภานิสิตฯนั่นเป็นผล! เหตุคือ"เนติวิทย์" จงใจฉีกทึ้งสังคมเรื่องนี้ แถลงการณ์จุฬาฯ ยันชัด"เขาเจ้าเล่ห์-สับปลับ ไม่เคารพคนอื่น" 

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


ถูกตะเพิดจากปธ.สภานิสิตจุฬาฯ นั่นเป็นผล! เหตุคือ "เนติวิทย์" จงใจฉีกทึ้งสังคมเรื่องนี้ และคาดว่าสังคมคงได้รับรู้ความจริงข้อนี้ไปแล้ว เพราะในวันพิธีถวายสัตย์ฯ ประจำปี 2560 เมื่อเดือนก่อน เขาและพวกในกลุ่มที่มีแนวคิดคล้ายกัน และเห็นต่าง จากนิสิตฯ ส่วนใหญ่ ได้ตกลงจากฝ่ายจัดการว่า "จะอยู่ในที่ที่ควรอยู่" แต่เอาเข้าจริงเขากลับแสดงความเจ้าเล่ห์ และฉีกข้อตกลงนั้น และพาพวกเดินออกกลางคัน จนเป็นข่าวใหญ่โต ซึ่งแม้แต่ "อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์" ที่ถือหางเขามาตลอดยังยอมรับเองว่า...ศิษย์รักพลาดเต็ม ๆ ในเรื่องนี้ กระทั่งท้ายที่สุดความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฏออกมา...จากปากผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายต่อหลายท่าน...และนั่นเป็นเหตุให้ "นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล" ถูกกระชากหน้ากากเผด็จการน้อยในคราบนักประชาธิปไตยหัวก้าวหน้าวัยละอ่อนในทันที พร้อมถูกทางจุฬาฯ ตั้งกรรมการสอบวินัยในฐานะประธานสภานิสิตฯ ที่เป็นหัวโขนที่เขาใช้มัน เพื่อละเมิดกติกาของทางจุฬาฯ ในเวลาต่อมา

 

ล่าสุดวานนี้  ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีคำสั่งตัดคะแนนความประพฤติ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล และเพื่อนในกลุ่มอีก 4 คนคนละ 25 คะแนน ส่งผลให้นายเนติวิทย์ ต้องพ้นจากประธานสภานิสิตจุฬาฯ และเพื่อนในกลุ่มอีก 4 คนก็พ้นจากตำแหน่งรองประธานฯ ฯลฯ และตำแหน่งอื่น ๆ อีก 3 ตำแหน่งไปด้วย

 

อย่างไรก็ดี การกระทำของนายเนติวิทย์ ถูกลอกคราบอีกครั้งในวันนี้ เมื่อทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีนี้อีกครั้ง โดยจั่วหัวว่า "ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ความไม่เรียบร้อยในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตชั้นปีที่หนึ่ง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560 (ฉบับที่ 3)"

ซึ่งในแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ระบุชัดว่า นายเนติวิทย์ และเพื่อนการกระทำผิดวินัยนิสิต เพราะเป็นตัวแทนสภานิสิตฯ แต่มิได้ประพฤติตัวตามบทบาทหน้าที่ที่พึงจะเป็น โดยทางจุฬาฯ ระบุว่า นิสิตกลุ่มนี้มีทัศนะที่ไม่ตรงกับขนบธรรมเนียมของมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยตระหนักถึงเสรีภาพทางความคิดจึงได้จัดพื้นที่พิเศษสำหรับนิสิตกลุ่มนี้ไว้แล้ว นิสิตก็ยังแสดงความจำนงเข้าร่วมพิธีในฐานะสภานิสิต แต่ไม่ยืนอยู่ในแถวตามที่ผู้เป็นผู้แทนสภานิสิตพึงกระทำจนกว่าพิธีการจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย กลับนัดหมายกันเดินออกจากแถวเพื่อไปทำความเคารพพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ด้วยการโค้งคำนับเพื่อให้แตกต่าง และปรากฏภาพที่ขัดแย้งกับนิสิตคนอื่น จนนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่เรียบร้อย ส่งผลทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อมหาวิทยาลัย อีกทั้งนิสิตยังได้เผยแพร่ข้อมูลที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อสร้างให้เรื่องราวที่ดูเสมือนความขัดแย้งนี้เป็นประเด็นในสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชื่อเสียงมหาวิทยาลัย และสะท้อนถึงการไม่เคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นที่มีทัศนะแตกต่างจากตน โดยเฉพาะของประชาคมทั้งนิสิต บุคลากร และนิสิตเก่าอื่นๆ ที่ให้คุณค่าและมีศรัทธาต่อพิธีถวายบังคมเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระผู้พระราชทานกำเนิดและพระผู้ทรงสถาปนามหาวิทยาลัย

 

 โดยแถลงการณ์ฉบับเต็มที่ทาง จุฬาลงกรณ์ฯ ระบุไว้ คือ

 

"ความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ความไม่เรียบร้อยในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตชั้นปีที่หนึ่ง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560 (ฉบับที่ 3)"

 

 สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่เรียบร้อยในพิธีถวายสัตย์ฯของนิสิตชั้นปีที่หนึ่งเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีกระบวนการดำเนินการทั้งในส่วนของอาจารย์และนิสิตที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยปกติมหาวิทยาลัยจะไม่เปิดเผยการลงโทษนิสิต หากแต่ขณะนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น มหาวิทยาลัยจึงมีความจำเป็นต้องสื่อสารกับสาธารณะถึงกรณีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจน

 

ในกรณีนี้ คณะกรรมการส่งเสริมวินัยนิสิตในการประชุมครั้งที่ 5/2560 เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนิสิตทั้ง 8 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่เรียบร้อยดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดวินัยนิสิต เนื่องจากนิสิตทั้ง 8 รายซึ่งเป็นตัวแทนสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มิได้ประพฤติปฏิบัติตัวตามบทบาทหน้าที่ที่พึงจะเป็น โดยทั้งๆ ที่ทราบอยู่แล้วว่า ตนมีทัศนะที่ไม่ตรงกับขนบธรรมเนียมประเพณีของมหาวิทยาลัยในการถวายสักการะและถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อแสดงตนเป็นนิสิตใหม่ และมหาวิทยาลัยซึ่งตระหนักถึงเสรีภาพทางความคิดของนิสิตได้จัดพื้นที่พิเศษสำหรับนิสิตกลุ่มนี้ไว้แล้ว นิสิตก็ยังแสดงความจำนงเข้าร่วมพิธีในฐานะสภานิสิต แต่ไม่ยืนอยู่ในแถวตามที่ผู้เป็นผู้แทนสภานิสิตพึงกระทำจนกว่าพิธีการจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย กลับนัดหมายกันเดินออกจากแถวเพื่อไปทำความเคารพพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ด้วยการโค้งคำนับเพื่อให้แตกต่างและปรากฏภาพที่ขัดแย้งกับนิสิตคนอื่นที่เข้าร่วมถวายสักการะด้วยการถวายบังคม จนนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่เรียบร้อยส่งผลทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อมหาวิทยาลัย 
อีกทั้งนิสิตยังได้เผยแพร่ข้อมูลที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อสร้างให้เรื่องราวที่ดูเสมือนความขัดแย้งนี้เป็นประเด็นในสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อชื่อเสียงมหาวิทยาลัยและสะท้อนถึงการไม่เคารพต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นที่มีทัศนะแตกต่างจากตน โดยเฉพาะของประชาคมทั้งนิสิต บุคลากร และนิสิตเก่าอื่นๆ ที่ให้คุณค่าและมีศรัทธาต่อพิธีถวายบังคมเพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระผู้พระราชทานกำเนิดและพระผู้ทรงสถาปนามหาวิทยาลัย และพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนอันเป็นที่หล่อหลอมนิสิตใหม่เข้าสู่การเป็นสมาชิกใหม่ตามประเพณีและขนบธรรมเนียมของมหาวิทยาลัย จึงเสนอมหาวิทยาลัยให้ลงโทษนิสิตทั้ง 8 รายด้วยการตัดคะแนนความประพฤติ

 

อนึ่ง ในส่วนของการสอบสวนและประมวลข้อเท็จจริงในส่วนของอาจารย์ ได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน แต่ยังขาดผลการให้ข้อเท็จจริงในส่วนของนิสิตที่เกี่ยวข้องซึ่งไม่ว่างมาให้ข้อเท็จจริง แต่ได้นัดหมายจะมาในวันที่ 4 ก.ย. ที่จะถึงนี้ จึงคาดว่าน่าจะสามารถสรุปผลได้ในเวลาอันใกล้