ก้าวล่วงพระราชอำนาจ?!? พงศ์พร ไม่รายงานตัวก็ไม่ผิด!?! ไพศาล เปิดชัดคำสั่งย้ายไม่ชอบด้วยกม. พบละเมิดด้วยควรยำเกรงโทษคุก20ปี-ประหารชีวิต???

จากกรณีนายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา ยังไม่เดินทางมารายงานตัวว่า ตนได้รับหนังสือจากสำนักเลขาธิการนายกฯแจ้งคำสั่งของนายกฯที่ให้พ.ต.ท.พงศ์พร มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์ที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้สำนักเลขาธิการนายกฯ ยังมีหนังสือส่งไปถึงพศ.ด้วย เพื่อให้แจ้งต่อพ.ต.ท.พงศ์พร ให้ทราบเพื่อให้มารายงานตัวที่สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ อย่างไรก็ตาม คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ช้าเพราะพศ.กับสปน. คงจะไม่ไกลกันมากนัก เมื่อพ.ต.ท.พงศ์พร ได้รับทราบและได้รับมอบหมายงานเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะรีบเดินทางมารายงานตัว และตนได้เตรียมมอบหมายงานให้ทำแล้ว

       ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.พงศ์พร ยังไม่เดินทางมารายงานตัว ทั้งที่คำสั่งนายกฯผ่านมาหลายวันแล้ว จะถือเป็นการขัดคำสั่งหรือไม่ นายจิรชัย กล่าวว่า ยังๆ คิดว่าหนังสืออาจเพิ่งถึง อาจอยู่ระหว่างการมอบหมายงาน เมื่อถามว่า ตามกฎระเบียบแล้วมีกำหนดเวลาให้มารายงานตัวหรือไม่ ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในคำสั่งไม่มีระบุวัน เพียงแต่ว่าหน่วยงานที่รับคำสั่งมีความขัดข้องอะไรหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วรับคำสั่งแล้วก็จะต้องรีบเร่งดำเนินการ ถ้าไม่มารายงานตัวจะมีความผิดอะไรหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าเป็นการขัดคำสั่ง  มั่นใจว่าน่าจะไม่เกินสัปดาห์นี้ ซึ่งก็เหลือวันนี้(15 ก.ย.)อีกวันเดียว

       ล่าสุดนายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องดังกล่าวเอาไว้ผ่านการโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วย โดยชี้ให้เห็นว่า การออกคำสั่งย้ายนี้เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังขัดต่อมติคณะรัฐมนตรีด้วย ที่สำคัญเหนืออื่นใดการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการก้าวล่วงล่วงละเมิดพระราชอำนาจหรือไม่ ซึ่งหากดูตามลำดับขั้นตอนแล้ว เรื่องนี้เข้าข่ายอย่างชัดเจน ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดระบุไว้ดังนี้

 

“อ่านข่าวความกระเหี้ยนกระหือรือส่อเป็นเชิงเตือน ผอ.พศ. ว่าถ้าไม่ไปรายงานตัวในวันนี้จะมีความผิดฐานขัดคำสั่งแล้ว ก็รู้สึกสลดใจและสงสารข้าราชการน้ำดีจับใจ และอาจส่งผลให้ข้าราชการดีๆหมดกำลังใจหรือรู้สึกว่าบ้านเมืองนี้อยู่ยากลำบากขึ้นทุกทีแล้ว

รู้สึกในใจจริงๆว่าอุปมาเหมือนลูกแกะอยู่กลางดงกลางป่า ยืนอยู่เฉยๆก็จะถูกเสือหรือหมาป่ากัดตาย ลงไปชายแดนภาคใต้ก็อาจถูกจระเข้ที่ส่งสัญญาณกันเกรียวกราวให้เตรียมรุม กัดตาย แต่ก็ยังเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินนี้ตลอดจนพระสยามเทวาธิราชที่ทรงคุ้มครองบ้านเมืองและคนดีอยู่ ทั้งยังมั่นใจลุงตู่ว่าจะไม่ดูดายให้ลูกแกะตัวนี้มีอันเป็นไป

ทว่าจำเป็นต้องเตือนคนบางพวกสักหน่อยว่ากำลังทำผิดกฎหมาย!!

1 บรรดาคำสั่งย้าย คำสั่งตั้งคนใหม่ทับซ้อนคนเก่าที่ยังไม่ได้ย้าย ยังไม่มีผลตามกฎหมาย ยังไม่เป็นไปตามมติ ครม. ที่ระบุชัดว่าให้มีผลเมื่อมีพระราชโองการโปรดเกล้า

2 เมื่อยังไม่ทรงโปรดเกล้า ผอ.พศ.ก็ยังมีตำแหน่งเดิม ยังอยู่ที่เดิม การสั่งให้ไปช่วยราชการสำนักนายกครั้งแรกนั้นเป็นการกระทำโดยไม่มีอำนาจ เป็นผลให้นับเวลารับคำสั่งไม่ได้ และการมอบหมายงานก็ไม่มีผลตามไปด้วย ถึงไม่ไปรายงานตัวก็ไม่ผิด

3 จึงต้องตั้งเรื่องใหม่ให้นายกตู่ซึ่งกลับจากเขมรยังไม่ทันหายเหนื่อยออกคำสั่งให้ไปช่วยราชการเอง โดยมีคนอ้างเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของอำนาจบริหาร ก็เพราะที่ทำกันมาก่อนนั้นทั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบด้วยมติ ครม. และคิดกันบ้างไหมว่าได้ก้าวล่วงละเมิดพระราชอำนาจหรือไม่

4 หากจะเอากันฐานขัดคำสั่ง หรือจะเอากันให้ถึงตายก็รอให้ครบเวลานับแต่วันนายกตู่มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการก่อน ไม่งั้นเอาผิดไม่ได้หรอก

ตำแหน่ง ผอ.พศ. ไม่ได้ใหญ่โตมากนักก็จริง แต่ก็เป็นข้าราชการในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ระบอบการปกครอง รัฐธรรมนูญ กฎหมายและนิติราชประเพณีคุ้มครองอยู่ ควรที่จะยำเกรงกันบ้าง

อ่านดูกฎหมาย ปปช. ใหม่เสียบ้างนะว่าการใช้อำนาจโดยไม่ชอบมีโทษจำคุก20ปี ถ้าใช้อำนาจโดยทุจริตเช่นเพื่อปกปิดการทุจริตก็ประหารชีวิตนะครับ

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Paisal Puechmongkol