- 23 ต.ค. 2560
ติดตามรายละเอียด Facebook : Deeps News
เส้นทางแห่งธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย อันมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัส ซึ่งในปี พ.ศ.2560 นี้ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมธรรมชาติ ค้างคืนอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560 - 31 พฤษภาคม 2561 แต่ใครจะรู้บ้างว่า ภายใต้สถานที่อันโอบล้อมไปด้วยขุนเขา ความสวยงามจากธรรมชาติ ย่อมมีตำนานที่มาอันลึกลับ! ที่เรียกกันว่า มิติซ้อนมิติ?!
มีตำนานเล่าขานก่อนที่จะมาเป็นภูกระดึง ว่า สมัยก่อนชาวบ้านมักจะได้ยินเสียงกระดึงแว่วดังมาจากยอดภู ซึ่งคำว่ากระดึง มาจากคำว่า “กระดิ่ง” หรือที่ชาวจังหวัดเลยเรียกว่า “ระฆังใหญ่” ด้วยเสียงกระดึงนั้น ก้องกังวานมาแต่ไกลในทุกคืนวันพระ เชื่อว่าบริเวณนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเมืองลับแล หรือเป็นหมู่บ้านบังบด
ปู่ย่าตายายของชาวภูกระดึง ได้บอกเล่ากับลูกหลานว่า เสียงระฆังใหญ่ที่ได้ยินกันนั้นเป็นเสียงระฆังของพระอินทร์ ส่วนหมู่บ้านเมืองลับแล คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะอยู่คนละมิติ หากใครเดินเข้าใกล้เมื่อไหร่ หมู่บ้านแห่งนั้น ก็จะอันตรธานหายไปทันที และจะกลายเป็นป่าแทน ด้วยเสียงกระดึงที่กล่าวมานี้ จึงเป็นเหตุให้เรียกว่า “ภูกระดึง”
และอีกหนึ่งสาเหตุคือ เมื่อเดินขึ้นไปบนยอดเขาบางส่วนด้วยการลงแรงที่เท้าหนักๆ หรือบางคนก็ใช้ไม้เพื่อกระทุ้งพื้นดิน ก็จะมีเสียงก้องกังวานดังขึ้น คล้ายกับเสียงของระฆัง ซึ่งเกิดจาก โพรงข้างใต้ ทำให้เรียกว่า “ภูกระดึง”
เมื่อประมาณปี 2348 มีพรานป่าคนหนึ่ง ได้ออกล่าสัตว์ไปจนถึงภูเขาลูกหนึ่งในเขตตำบลศรีฐาน เขาได้พบกับผืนป่าที่กว้างใหญ่ สัตว์ป่าหลากหลายชนิดที่ต่างพากันหากินอาหาร โดยไม่มีอาการตกใจกลัวเมื่อเห็นนายพราน จึงรู้สึกว่าผิดวิสัยของสัตว์ป่า เขาจึงไม่กล้าล่าสัตว์ เพราะเชื่อว่า ภูเขาแห่งนี้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเป็นต้นมา เรื่องราวบนภูเขาแห่งนี้ก็ได้ถูกเปิดเผย นั่นคือ “ภูกระดึง”
ทั้งนี้ยังมีเรื่องเล่าอีกมากมายซึ่งคนในพื้นที่ประสบพบเจอ ทั้งเรื่องเล่าเมืองลับแลที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นจุดก่อนที่จะขึ้นภูกระดึง และอื่นๆอีกมาก ตลอดจนนักท่องเที่ยวเองก็อาจเจอเหตุการณ์ลึกลับบนภูกระดึงได้เช่นกัน?!!!
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : https://sites.google.com/site/saranyu999/tanan-phukradung
เครดิตภาพ : ก.นัยจัน , บอม บางขุนศรี