- 10 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสำนักข่าวทีนิวส์ เพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
กลายเป็นกระแสฮือฮามาชั่วข้ามคืน หลังจากที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จากผลของที่ประชุม กสทช. วันที่ 8 พฤศจิกายน มีมติให้บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด หรือ ช่องสปริงนิวส์ ระงับการออกอากาศ รายการ "สนธิญาณฟันธงตรงประเด็น" เป็นระยะเวลา 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามข้อ 19 ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 เนื่องจากพบว่า
การออกอากาศรายการสนธิญาณฟังธงตรงประเด็น เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม มีเนื้อหาซึ่งนำเสนอเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้คำพูดในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาชีพและจริยธรรมของสื่อ เป็นการขัดต่อ ข้อ 14 (10) ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 และเห็นสมควรส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทันทีที่มีการเผยแพร่ข่าวออกมา จนกระแสสังคมเกิดการตั้งคำถามกลับไปว่า คนอย่างสนธิญาณ นี่หรือ ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งที่ผ่านมาปรากฏผ่านสื่อมาในทุกช่วงเหตุการณ์ การดำเนินชีวิต การบริหารองค์กรข่าว ชื่อสำนักข่าวทีนิวส์ ซึ่งก็ประกาศตัวชัดเจน ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และต่อสู้กับกลุ่มบุคคลที่เป็นคิดล้มล้างสถาบันฯ
อย่างกรณีการเกิดเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ที่ คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กรรมการผู้อำนวยการสำนักข่าวทีนิวส์ ได้เห็นถึงสถานการณ์ของกลุ่มบุคคลที่โจมตี จ้องล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างรุนแรงในโลกออนไลน์ ในเครือข่ายวิทยุชุมชน ทั้งการเผยแพร่ออกอากาศ และบนโลกออนไลน์ ซึ่งก็ได้มีประชาชนแจ้งเบาะแส ผ่านทาง รายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ของสำนักข่าวทีนิวส์ ทีเผยแพร่ ทางช่อง NBT. เป็นจำนวนมาก
จนคุณสนธิญาณ จึงมีดำริ ให้จัดตั้ง เครือข่ายเฝ้าระวัง พิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ขึ้นเปิดรับสมัครสมาชิกจากประชาชนคนไทยทั่วประเทศ เพื่อเป็นหูเป็นตา ในการเฝ้าระวัง กลุ่มคนที่มีความเคลื่อนไหวในการ จาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบันฯ เก็บรวบรวมและส่งต่อข้อมูล มายังเครือข่ายฯ เพื่อส่งต่อข้อมูล ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กระทรวงเทคโนโลยีและการสื่อสาร หรือไอซีที (ในขณะนั้น) ,กรมสอบสวนคดีพิเศษ , หน่วยงานความมั่นคงของทหาร เป็นต้น
ที่ผ่านมา ทางเครือข่าย ได้มีการนำ ข้อมูล เวปไซด์ , เฟซบุ๊ก ของ กลุ่มบุคคลที่มีการจาบจ้วง โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ กว่า 3,000 Url. ไปแจ้ง ICT เพื่อให้ดำเนินการปิด
การที่เครือข่าย จากทั่วประเทศได้มีการ แจ้งความเอาผิด กลุ่มนักแสดง ที่ได้มีการแสดงละครเวลา เรื่องเจ้าสาวหมาป่า ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พบการกระทำความผิด ม.112 จนมีการจับกุมผู้กระทำความผิด ดำเนินคดี
สมาชิกแจ้งความที่ กองปราบปราม ในการเอาผิด นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แดงล้มเจ้า หลังจากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ จาบจ้วงหมิ่นสถาบันเบื้องสูง
ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงบางส่วนที่ ทางเครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ได้ดำเนินกิจกรรมจนมาถึงในสถานการณ์ปัจจุบัน หลังจากที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้เข้ามาบริหารประเทศ เครือข่ายก็ได้มีกิจกรรมในการรณรงค์ ปลูกจิตสำนึกให้คนไทยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่อย่างต่อเนื่อง
และนี่ก็คงจะเป็นคำตอบ ให้ กสทช. ได้เป็นอย่างดีว่า กรณีที่ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ดำเนินรายการนั้น เจตนาในการนำเสนอเป็นการนำเสนอเพื่อจาบจ้วง ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเป็นการพูดในสิ่งที่กลั่นออกมาจากหัวใจ จากความรู้สึกรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของชายที่ชื่อ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
เรียบเรียงโดย อุดร แสงอรุณ สำนักข่าวทีนิวส์