ติดตามรายละเอียด FB : DEEPS NEWS

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์ อัญเชิญดินพระราชทาน และพวงมาลาพระราชทาน วางหน้าศพ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ที่ถึงแก่อนิจกรรม สิริอายุ 68 ปี เนื่องจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา

ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี , สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้พระราชทานพวงมาลา เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.สุรินทร์ อีกด้วย

ส่วนที่มัสยิดท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพของ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ได้มีบุคคลสำคัญทั้งแวดวงการเมือง นักธุรกิจ รวมถึงคนใกล้ชิด คณะทูตประเทศต่างๆ และสมาชิจากพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมงานจำนวนมาก อาทิ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี , นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ , นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายศุภชัย พานิชภักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาเคารพศพ ดร.สุรินทร์ จากนั้น นายชวน ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้ทุกคนนำการปฏิบัติของ ดร.สุรินทร์ ไปเป็นแบบอย่างกับคนไทย ในเรื่องของความขยัน ความตั้งใจ และการไต่เต้าหน้าที่การงาน ที่เริ่มต้นจากลูกชาวบ้านธรรมดา ใน จ.นครศรีธรรมราช แต่ด้วยความมุ่งมั่นและอุตสาหะ ทำให้ประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องการเรียนและการทำงาน รวมถึงทางการเมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีบทบาทสำคัญในงานการต่างประเทศระดับอาเซียน และนานาชาติ ซึ่งได้รับการยกย่องจากต่างชาติ รวมถึงมีส่วนช่วยให้รัฐบาลไทยได้ส่งทหารเจ้าร่วม รักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก โดยไทยไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย แต่อย่างใด ขณะที่งานทางการเมืองได้ละทิ้งความก้าวหน้าในอาชีพราชการ เพื่อมารับใช้ประชาชน และทุกคนที่ได้รู้จักจะรู้สึกรักและชื่นชม ซึ่งต่างชาติที่ได้รู้จักและพูดคุยต่างยกย่อง และขนานนามให้เป็น "Prince Surin"