ความลับแห่งเทือกเขาภูพาน? เรื่องเล่า “แก้วหยาดน้ำค้าง” ของวิเศษซ่อนเร้นในภูพาน หลวงปู่โชติเคยบอกไว้ ใครได้ครอบครองจะบันดาลความสำเร็จมาให้

FB : DEEPS NEWS

มนต์ขลังแดนธรรมแห่งเทือกเขาภูพาน อันเปี่ยมไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ความสัปปายะ ที่พระธุดงค์กรรมฐานในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้บำเพ็ญภาวนาในสถานที่แห่งนี้มาแล้วนักต่อนัก อีกทั้งเทือกเขาภูพานยังมีสิ่งเร้นลับมากมายหลากหลายภพภูมิที่เล่าขานกันมา  หนึ่งในนั้นคือเรื่องอัศจรรย์ของ “แก้วหยาดน้ำค้าง” หรือ “แก้วสารพัดนึก” ของวิเศษบนเทือกเขาภูพาน ที่ใครต่างอยากได้มาครอบครอง

ความลับแห่งเทือกเขาภูพาน? เรื่องเล่า “แก้วหยาดน้ำค้าง” ของวิเศษซ่อนเร้นในภูพาน หลวงปู่โชติเคยบอกไว้ ใครได้ครอบครองจะบันดาลความสำเร็จมาให้

เรื่องแก้วหยาดน้ำค้าง หรือ แก้วสารพัดนึก  เรียบเรียงโดย ชุนคำ จิตจักร ลงพิมพ์ในนิตยสารมหามงคล ฉบับที่ 3, 4 และ 10 พ.ศ.2553 https://sites.google.com/site/khongriverso/home/aekaew-wises-haeng-theuxk-khea-phu-phan ใจความว่า

“ก่อนอื่นขอเรียนว่า เทือกเขาภูพาน นั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก  เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือสู่ตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มจากจังหวัดอุดรธานี ผ่านกาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร  เป็นถิ่นภูเขาดั้งเดิมตามตำนานอันมีชื่อว่า ภูกูเวียน ซึ่งเกิดจากอานุภาพของ สุวรรณนาค ซึ่งมีลักษณะภูเขาเป็นวงใหญ่  ส่วนเทือกทิวเขาเล็กที่มีลักษณะเป็นวงก็ยังมีปลีกย่อยออกไปอีก เช่น บริเวณพื้นที่ อำเภอเขาวง  ถ้ามองจากระดับสูงของภูพานไปทางเขตเชื่อมต่อระหว่าง จังหวัดมุกดาหาร กับ จังหวัดกาฬสินธุ์  จะเห็นทิวเขาลิบๆสุดสายตาที่ทอดตัวยาวเป็นแนวโค้งโอบล้อมออกไปทั้งสองด้านซึ่งแนวทิวเขานี้ในที่สุดก็จะกลายเป็นวงล้อมรอบอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ทั้งหมดของอำเภอเขาวงไว้  หากเดินทางตามถนนมิตรภาพจาก อำเภอสมเด็จ มุ่งหน้าไปทาง ภูพานราชนิเวศน์  พอถึง บ้านสร้างค้อ ตรงฝั่งขวาจะมีทางแยกไปอำเภอเขาวงได้

คำเล่าลือในเรื่องนี้เท่าที่ผู้เขียนคาดคะเนคงอยู่ในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๐๐ – ๒๕๒๐  เป็นช่วงเวลาที่ผู้เขียนยังเด็กและได้ยินเรื่องแก้วไปเล่นตามบ่อหินในคืนวันเพ็ญจากสามเณรอุปัฏฐากและลูกศิษย์พระป่า  ในช่วงเวลานั้นมีพระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจาริกธุดงค์และจำพรรษาอยู่แถบเทือกเขาภูพานเป็นจำนวนมาก  จึงเป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าแถวๆ ภูแฝก ภูค้อ ภูจ้อก้อ ภูผากูด และภูฮัง นั้น มีปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์เรื่องภพภูมิเกิดขึ้นมาก  ขณะเดียวกันในวงการของผู้เสาะหาของวิเศษก็มีไม่น้อย  จากนั้นก็มีคำร่ำลือเรื่อง “แก้วหยาดน้ำค้าง”

 

ผู้คนได้ร่ำลือว่าที่ภูเขาแถบนี้ในยามค่ำคืนวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ จะเกิดปรากฏการณ์คือมีดวงแก้วลอยลงมาฝนกับหินตามภูเขาเสียงดังกร่างๆๆ  เกิดเป็นประกายสีขาวสดใสกระจายตัวออกมาทุกครั้งที่แก้วฝนกับหิน  ต่างก็ตื่นเต้นเล่ากันเป็นตุเป็นตะ..  มีพระธุดงค์ได้รับทราบมาจากครูบาอาจารย์และผู้เฒ่าผู้แก่ว่าแก้วนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก  มีอานุภาพบันดาลได้ทั้ง เมตตามหานิยม ร่มเย็น แคล้วคลาด ปราศจากอุปสรรคและอันตราย  ทำการสิ่งใดก็ประสบผลสำเร็จ

 ผู้ที่สนใจทั้งนักบวชและฆราวาสผู้แสวงหาทั้งหลายต่างก็พยายามติดตามเสาะแสวงเพื่อให้ได้มา  แม้พระธุดงค์ต่างๆที่ยังไม่ละวางเรื่องนี้ก็พากันไปนั่งสวดมนต์ภาวนาขอแก้วหยาดน้ำค้างในที่ต่างๆที่คิดว่าจะมี  บางครั้งแก้วก็มาปรากฏลอยมาเป็นแสงวิ่งวนเวียนรอบๆตัว  พอลุกขึ้นคว้าก็หนีไป

นับว่ายังโชคดีที่ผู้คนถิ่นนี้ได้รับการอบรมสั่งสอนจากพระปฏิบัติผู้มีภูมิธรรมสูงส่ง  จึงรู้ว่าของศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีเทวดารักษา  แม้ว่าจะขวนขวายใฝ่หาสักเท่าใดหากไม่ใช่บุญบารมีก็จะไม่ได้มา  หรือแม้ได้มาก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้

เรื่องคำเล่าลือนี้แม้จะไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน  แต่ หลวงปู่โชติ  อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว ท่านเคยบอกเอาไว้ว่าแก้วที่ว่านี้เขาเรียกว่า “แก้วหยาดน้ำค้าง” หรือ “แก้วสารพัดนึก”  ถ้ามีสองลูกครบตัวผู้ตัวเมียก็จะไม่ไปไหน  จะทำอะไรก็ให้บอกเขาแล้วจะสำเร็จ

ในบันทึกตำนานท้องถิ่นของเทือกเขาภูพานนั้น  ไม่มีอะไรบ่งบอกเป็นพิเศษว่าเป็นบ่อแก้วหรือถิ่นกำเนิดของแก้วรัตนชาติประเภทใด  จะมีก็แต่เรื่องราวของพระสงฆ์องค์เจ้าซึ่งเสียสละทุ่มเททั้งชีวิตชนิดที่เรียกว่า ยอมสละชีวิตเพื่อบูชาธรรม รูปแล้วรูปเล่า  แม้แต่ชาวบ้านเหล่าทายกทายิกาต่างก็ปฏิบัติศาสนาพร้อมเพรียงกันด้วยดี  นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่แก้ววิเศษซึ่งมีเทวดารักษาปรากฏขึ้นในช่วงประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๐ – ๒๕๒๐

 

ความลับแห่งเทือกเขาภูพาน? เรื่องเล่า “แก้วหยาดน้ำค้าง” ของวิเศษซ่อนเร้นในภูพาน หลวงปู่โชติเคยบอกไว้ ใครได้ครอบครองจะบันดาลความสำเร็จมาให้

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก :  ชุนคำ จิตจักร https://sites.google.com/site/khongriverso/home/aekaew-wises-haeng-theuxk-khea-phu-phan ลงพิมพ์ในนิตยสารมหามงคล ฉบับที่ 3, 4 และ 10 พ.ศ.2553 และ http://www.khongriverso.com

เครดิตภาพ :  เพจ : มหัศจรรย์สกลนคร https://web.facebook.com/มหัศจรรย์สกลนคร-382699768465653/

และ https://pixabay.com/th/users/Uki_71-1547363/