- 05 ก.พ. 2561
FB : DEEPS NEWS
มนต์ขลังแดนธรรมแห่งเทือกเขาภูพาน อันเปี่ยมไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ความสัปปายะ ที่พระธุดงค์กรรมฐานในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้บำเพ็ญภาวนาในสถานที่แห่งนี้มาแล้วนักต่อนัก อีกทั้งเทือกเขาภูพานยังมีสิ่งเร้นลับมากมายหลากหลายภพภูมิที่เล่าขานกันมา หนึ่งในนั้นคือเรื่องอัศจรรย์ของ “แก้วหยาดน้ำค้าง” หรือ “แก้วสารพัดนึก” ของวิเศษบนเทือกเขาภูพาน ที่ใครต่างอยากได้มาครอบครอง
เรื่องแก้วหยาดน้ำค้าง หรือ แก้วสารพัดนึก เรียบเรียงโดย ชุนคำ จิตจักร ลงพิมพ์ในนิตยสารมหามงคล ฉบับที่ 3, 4 และ 10 พ.ศ.2553 https://sites.google.com/site/khongriverso/home/aekaew-wises-haeng-theuxk-khea-phu-phan ใจความว่า
“ก่อนอื่นขอเรียนว่า เทือกเขาภูพาน นั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือสู่ตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มจากจังหวัดอุดรธานี ผ่านกาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร เป็นถิ่นภูเขาดั้งเดิมตามตำนานอันมีชื่อว่า ภูกูเวียน ซึ่งเกิดจากอานุภาพของ สุวรรณนาค ซึ่งมีลักษณะภูเขาเป็นวงใหญ่ ส่วนเทือกทิวเขาเล็กที่มีลักษณะเป็นวงก็ยังมีปลีกย่อยออกไปอีก เช่น บริเวณพื้นที่ อำเภอเขาวง ถ้ามองจากระดับสูงของภูพานไปทางเขตเชื่อมต่อระหว่าง จังหวัดมุกดาหาร กับ จังหวัดกาฬสินธุ์ จะเห็นทิวเขาลิบๆสุดสายตาที่ทอดตัวยาวเป็นแนวโค้งโอบล้อมออกไปทั้งสองด้านซึ่งแนวทิวเขานี้ในที่สุดก็จะกลายเป็นวงล้อมรอบอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ทั้งหมดของอำเภอเขาวงไว้ หากเดินทางตามถนนมิตรภาพจาก อำเภอสมเด็จ มุ่งหน้าไปทาง ภูพานราชนิเวศน์ พอถึง บ้านสร้างค้อ ตรงฝั่งขวาจะมีทางแยกไปอำเภอเขาวงได้
คำเล่าลือในเรื่องนี้เท่าที่ผู้เขียนคาดคะเนคงอยู่ในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๐๐ – ๒๕๒๐ เป็นช่วงเวลาที่ผู้เขียนยังเด็กและได้ยินเรื่องแก้วไปเล่นตามบ่อหินในคืนวันเพ็ญจากสามเณรอุปัฏฐากและลูกศิษย์พระป่า ในช่วงเวลานั้นมีพระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจาริกธุดงค์และจำพรรษาอยู่แถบเทือกเขาภูพานเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่เข้าใจกันอยู่ว่าแถวๆ ภูแฝก ภูค้อ ภูจ้อก้อ ภูผากูด และภูฮัง นั้น มีปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์เรื่องภพภูมิเกิดขึ้นมาก ขณะเดียวกันในวงการของผู้เสาะหาของวิเศษก็มีไม่น้อย จากนั้นก็มีคำร่ำลือเรื่อง “แก้วหยาดน้ำค้าง”
ผู้คนได้ร่ำลือว่าที่ภูเขาแถบนี้ในยามค่ำคืนวันเพ็ญ ๑๕ ค่ำ จะเกิดปรากฏการณ์คือมีดวงแก้วลอยลงมาฝนกับหินตามภูเขาเสียงดังกร่างๆๆ เกิดเป็นประกายสีขาวสดใสกระจายตัวออกมาทุกครั้งที่แก้วฝนกับหิน ต่างก็ตื่นเต้นเล่ากันเป็นตุเป็นตะ.. มีพระธุดงค์ได้รับทราบมาจากครูบาอาจารย์และผู้เฒ่าผู้แก่ว่าแก้วนี้ศักดิ์สิทธิ์นัก มีอานุภาพบันดาลได้ทั้ง เมตตามหานิยม ร่มเย็น แคล้วคลาด ปราศจากอุปสรรคและอันตราย ทำการสิ่งใดก็ประสบผลสำเร็จ
ผู้ที่สนใจทั้งนักบวชและฆราวาสผู้แสวงหาทั้งหลายต่างก็พยายามติดตามเสาะแสวงเพื่อให้ได้มา แม้พระธุดงค์ต่างๆที่ยังไม่ละวางเรื่องนี้ก็พากันไปนั่งสวดมนต์ภาวนาขอแก้วหยาดน้ำค้างในที่ต่างๆที่คิดว่าจะมี บางครั้งแก้วก็มาปรากฏลอยมาเป็นแสงวิ่งวนเวียนรอบๆตัว พอลุกขึ้นคว้าก็หนีไป
นับว่ายังโชคดีที่ผู้คนถิ่นนี้ได้รับการอบรมสั่งสอนจากพระปฏิบัติผู้มีภูมิธรรมสูงส่ง จึงรู้ว่าของศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีเทวดารักษา แม้ว่าจะขวนขวายใฝ่หาสักเท่าใดหากไม่ใช่บุญบารมีก็จะไม่ได้มา หรือแม้ได้มาก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้
เรื่องคำเล่าลือนี้แม้จะไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน แต่ หลวงปู่โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว ท่านเคยบอกเอาไว้ว่าแก้วที่ว่านี้เขาเรียกว่า “แก้วหยาดน้ำค้าง” หรือ “แก้วสารพัดนึก” ถ้ามีสองลูกครบตัวผู้ตัวเมียก็จะไม่ไปไหน จะทำอะไรก็ให้บอกเขาแล้วจะสำเร็จ
ในบันทึกตำนานท้องถิ่นของเทือกเขาภูพานนั้น ไม่มีอะไรบ่งบอกเป็นพิเศษว่าเป็นบ่อแก้วหรือถิ่นกำเนิดของแก้วรัตนชาติประเภทใด จะมีก็แต่เรื่องราวของพระสงฆ์องค์เจ้าซึ่งเสียสละทุ่มเททั้งชีวิตชนิดที่เรียกว่า ยอมสละชีวิตเพื่อบูชาธรรม รูปแล้วรูปเล่า แม้แต่ชาวบ้านเหล่าทายกทายิกาต่างก็ปฏิบัติศาสนาพร้อมเพรียงกันด้วยดี นี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่แก้ววิเศษซึ่งมีเทวดารักษาปรากฏขึ้นในช่วงประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๐ – ๒๕๒๐
ขอบคุณข้อมูลจาก : ชุนคำ จิตจักร https://sites.google.com/site/khongriverso/home/aekaew-wises-haeng-theuxk-khea-phu-phan ลงพิมพ์ในนิตยสารมหามงคล ฉบับที่ 3, 4 และ 10 พ.ศ.2553 และ http://www.khongriverso.com
เครดิตภาพ : เพจ : มหัศจรรย์สกลนคร https://web.facebook.com/มหัศจรรย์สกลนคร-382699768465653/
และ https://pixabay.com/th/users/Uki_71-1547363/



