จนท.สาวโรงพยาบาลดังภูเก็ต โชว์สันดานหยาบพ่นคำเหยียดผู้ป่วยรอตรวจ CT scan อ่านแล้วจุกหัวใจรู้ทีหลังเกิดเรื่องเศร้า ประวัติคนพูดก็ไม่ธรรมดา

กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวอุทาหรณ์ที่ได้รับการแชร์ส่งต่ออย่างมากมายในโลกโซเชียลขณะนี้ สำหรับกรณีเมื่อสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นกับครอบครัวตนเอง เมื่อคุณพ่อของเธอต้องเข้ารักษาอาการป่วยภายในโรงพยาบาล แต่กลับถูกทำร้ายจิตใจอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ และกลายเป็นเรื่องเศร้าที่ครอบครัวของเธอไม่อยากพบเจอ

ทั้งนี้ รายละเอียดดังกล่าวระบุเอาไว้ว่า...#แชร์ไปให้ถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต วันที่ 13 ก.พ 2561 เวลา 23.00 น. โดยประมาณ มีพี่พยาบาลออกมาเรียกญาติของนายสุวรรณ จันทร์ศรี (พ่อเราเอง) และแจ้งว่าหมอมีคำสั่งให้ทำ CT SCAN (เอ็กซเรย์สมอง) ด่วน เรากับพี่สาวจึงตามพยาบาลไปห้องเอ็กซเรย์ โดยมีพี่เวรเปลเข็นพ่อเราล่วงหน้าไปก่อน เมื่อไปถึงห้องเอ็กซเรย์ ในขณะที่พี่เวรเปลกำลังเข็นพ่อเข้าไปในห้องเราได้ยินพนักงานหญิงในนั้นตะโกนออกมา (เสียงดังมาก) #พวกมึงนี่หางานมาให้กูอีกแล้วเอามาทำไมเยอะแยะเดี๋ยวก็มาตายคาเครื่องกูอีก ลำไย!! พูดปุ๊บ ก็ปิดห้องปั๊บ

 

 

เรารีบชะเง้อหน้าไปดู อยากรู้ว่าคนไหนที่พูดทำร้ายจิตใจทั้งเราและพ่อได้มากขนาดนี้ พอเวรเปลออกมา เราถามว่าคนที่พูดเมื่อกี้ชื่ออะไร เค้าบอกไม่ทราบชื่อเพราะรู้จักกันเฉพาะกลุ่มของเวรเปลเท่านั้น เราเลยบอกว่า นี่ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือแม่เราล่ะ แม่เป็นโรคหัวใจ ถ้าเค้ามาได้ยินอะไรแบบนี้แล้วทรุดไปอีกคนใครจะรับผิดชอบ!! รู้ว่าเหนื่อย แต่นี่คืองานของคุณ คุณทำงานคุณได้เงินเดือนเป็นค่าตอบแทน ถ้ามันฝืนนักก็ออกไปขายปลาในตลาดนัดโน่น วันไหนอยากขายก็ขาย วันไหนม่มีอารมณ์ก็ปิดไป คุณจะพูดจาหมาๆ ยังไง มากสุดก็แค่ไม่มีคนเข้าร้านคุณ 

 

แล้วพ่อเราไม่ได้หมดสตินะ แกรับรู้และได้ยินทุกอย่างที่มันพูด!! เวรเปลบอกเราว่า "พนักงานคนนี้พูดจาไม่ดีกับคนไข้เกือบทุกเคส รวมถึงเพื่อนร่วมงานด้วย จนตอนนี้ก็ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย ที่ออกมาโพสต์ในครั้งนี้ ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไร หรือประจานใครทั้งนั้น (เพราะรูปที่เห็นหน้าชัดกว่านี้ก็มี) แต่แค่อยากเตือนสติ คนที่ทำงานบริการ กำลังใจของคนไข้ ส่วนหนึ่งก็มาจากคำพูด รอยยิ้มและการบริการจากเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน..ขอบคุณคุณหมอ พี่พยาบาลในห้องฉุกเฉิน ห้องไอซียู และพี่เวรเปลทั้งสองคน

 

โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมจากเจ้าของโพสต์อีกว่า พ่อจากไปอย่างสงบแล้ว จริงๆ ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไรเลย แต่ในฐานะของคนเป็นลูก สิ่งที่เจอมันรุนแรงมากจริงๆ ช่วยกันแชร์นะคะ อย่างน้อยก็ขอให้เหตุการณ์แบบนี้้ไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่นอีก

 

 

ขณะที่มีรายงานอีกว่า ขอแชร์ต่อมาตั้งเป็นกระทู้ใหม่ เนื่องจากได้ทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลว่าห้อง CT scan จริงๆ แล้วเป็นแผนกที่ทางรพ.วชิระจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาดำเนินการโดยการสัมปทาน เครื่อง CT Scan นั้นก็เช่าของบริษัทเอกชนมา กระทั่งพนักงานก็เป็นของบริษัทเอกชนทั้งนั้น สำหรับพนักงานที่พูดจากไม่ดีนั้น ได้ข่าวมาว่า ไม่ได้จบและมีใบประกอบวิชาชีพด้านรังสี ทั้งนี้จึงอยากจะให้ทางโรงพยาบาลหรือสภาแพทย์เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย

 

*****โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข่าว

 

 

 

 

ขอบคุณที่มา : Jureerat Jansri