- 30 พ.ค. 2562
1. ชื่อเดิม คือ Animal Farm: A Fairy Story แต่ในการพิมพ์ฉบับอเมริกัน ตัดชื่อรองออกเหลือแค่ Animal Farm (เหลือเพียงฉบับเดียวที่ใช้ชื่อรองนี้) 2. ชื่อรองอื่นๆคือ เรื่องเสียดสี (แซะ) "A Satire" และ เรื่องเสียดสีร่วมสมัย "A Contemporary Satire"
จากกรณีพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.โดยช่วงหนึ่งระบุว่านายกฯฝากแนะนำให้อ่านหนังสือ Animal Farm ซึ่งเป็นหนังสือน่าอ่านที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี สำหรับหนังสือ Animal Farm การเมืองเรื่องสรรพสัตว์ เขียนโดย จอร์จ ออร์เวลล์ นักเขียนชาวอังกฤษ และต่อมาเป็นประเด็นร้อนแรงเมื่อโลกโซเชียลฯและสังคม ได้พูดถึงหนังสือเล่มดังกล่าว โดยเฉพาะฝ่ายต่อต้านรัฐประหารที่มองว่าวรรณกรรม ที่กล่าวกันนี้เสียดสีโจมตีการยึดอำนาจทั้งยังเชื่อมโยงมาถึงพล.อ.ประยุทธ์ด้วย
1. ชื่อเดิม คือ Animal Farm: A Fairy Story แต่ในการพิมพ์ฉบับอเมริกัน ตัดชื่อรองออกเหลือแค่ Animal Farm (เหลือเพียงฉบับเดียวที่ใช้ชื่อรองนี้)
2. ชื่อรองอื่นๆคือ เรื่องเสียดสี (แซะ) "A Satire" และ เรื่องเสียดสีร่วมสมัย "A Contemporary Satire"
3. สิ่งที่ George Orwell ต้องการแซะจากปากคำของเขาเองคือ การปฏิวัติรัสเซีย ในปี 1917 และ สตาลิน ดังปรากฏในจดหมายที่ Orwell เขียนถึง Yvonne Davet ซึ่งอธิบายว่า Animal Farm คือ นิทานเรื่องแซะ (a satirical tale)ที่ต่อต้านสตาลิน เปรียบเทียบ การลุกฮือของสัตว์ต่อนายโจนส์เจ้าของฟาร์ม = การปฏิวัติบอลเชวิก ตุลาคม 1917 สงครามที่ Cowshed = การบุกรัสเซียในปี 1918 และการพ่ายแพ้ของ รัสเซียขวา (White Russians) ในสงครามกลางเมือง (เป็นรัสเซียฝ่ายที่เป็นปฏิคอมมิวนีสต์)
หมู = ผู้มีอำนาจในระบบสตาลิน
หมูนโปเลียน = สตาลิน
หมูสโนว์บอล = ทรอตสกี้
แผนการสร้างกังหันลม = แผนการห้าปี (Five Years Plan)
ลูกสนัขของหมูนโปเลียน = ตำรวจลับของสตาลิน
4. หนังสือพิมพ์ครั้งแรกในอีงกฤษ 17 สิงหาคม 1945 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติในวันที่ 2 กันยายน 1945 ประมาณ 15 วัน
5. Orwell เขียนเรื่องนี้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 1943 ถึงเดือน กุมภาพันธ์ 1944 ใช้เวลา 4 เดือน ในช่วงนั้นอังกฤษ อเมริกา ยังเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ซึ่งนำโดยสตาลิน ในการต่อสู้กับฮิตเล่อร์และกองทัพนาซี
6. หลายสำนักพิมพ์ในอังกฤษและอเมริกาปฏิเสธต้นฉบับของ Animal Farm แม้แต่สำนักพิมพ์เอียงซ้ายของเซอร์ Victor Gollancz ที่ตีพิมพ์งานเขียนของ Orwell อยู่แล้วก็เลื่อนการตีพิมพ์ให้ล่าช้า
7. ในตอนนั้น กองทัพและผู้มีอำนาจในอังกฤษในขณะนั้นยังยกย่องสตาลินในฐานะพันธมิตรร่วมรบกับฝ่ายอักษะ
8. Orwell เป็นสังคมนิยมสายประชาธิปไตย และเป็นความเชื่อของ Orwell ในขณะนั้นเองว่าสหภาพโซเวียตจะกลายเป็น "รัฐเผด็จการ" ภายใต้ "ลัทธิบูชาตัวบุคคล" และเกิด "ยุคทมิฬ" ภายใต้การเข่นฆ่าทำลายล้างคนที่เห็นต่างอย่างรุนแรง
9. หนังสือประสบความสำเร็จอย่างทันที เพราะความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรที่กลายมาเป็นการแบ่งขั้วระหว่างโลกเสรี กับ โลกสังคมนิยม และนำพาโลกเข้าสู่ยุค "สงครามเย็น"
10. Orwell กล่าวไว้ในปี 1946 ว่า "แน่นอนผมตั้งใจแต่แรกที่จะให้หนังสือเสียดสี (แซะ)การปฏิวัติรัสเซีย และ การปฏิวัติในรูปแบบนั้น (คือการปฏิวัติที่สบคบคิดกัน(ล้มเจ้า?)โดยใช้ความรุนแรงที่นำโดยอำนาจของคนยากคนจนที่พวกเขาไม่ตระหนักว่าตนเองมี) จะนำไปสู่การเปลี่ยนแบบแผนการปฏิวัติทั้งมวลที่จะส่งผลของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อมวลชนมีความตื่นตัว (ไม่ถูกผู้นำขบวนการหลอกใช้?) เท่านั้น"
(การปฏิวัติล้มเจ้าของพรรคบอลเชวิกคือการปฏิวัติที่ฉ้อฉล และ ระบบสังคมนิยมรัสเซียคือระบบที่เน่าใน)
11 (แถม)และในคำนำ ฉบับภาษายูเครน 1947 ว่า
"สิบปีที่ผ่านมา (หลังจากกลับมาจากสเปน) ผมมั่นใจว่าการทำลายล้าง "ภาพมายาของการปฏิวัติรัสเซีย" (Russians Myth) เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดถ้าเราต้องการรื้อฟื้นการเคลื่อนไหวของขบวนการสังคมนิยม"