นายกฯโพสต์แจงชัดๆ คำนึงเสรีภาพ ให้ทบทวนคำสั่ง ระงับสื่อออนไลน์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเพลง"อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี" พร้อมยืนยันไม่มีการแทรกแซงสื่อ เว้นกรณีมีการละเมิด บิดเบือน ปลุกระดม จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย

ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งทางการเมือง ที่ถูกปลุกระดมอย่างต่อเนื่อง  ในการเดินหน้าขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี   พร้อม ๆ กับการเดินหน้ากดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันกษัตริย์  ผ่านข้อมูลบิดเบือนในหลากหลายรูปแบบ จนวันนี้มีผู้กระทำผิดจำนวนมาก  รวมถึงสื่อบางแขนงที่ใช้ช่องทางสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม  และมีการกระทำผิด โดยการละเมิดพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง  

ล่าสุด ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)  ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการแถลงนายกฯได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลน.)ที่ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอดและเครื่องเสียง ทำการเปิดเพลง  "อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี"  เพียงสั้นๆในช่วงที่นายกฯเดินมายังโพเดียมแถลงข่าว โดยนายกฯกล่าวว่า  ฟังเพลงแล้วรู้สึกอะไรขึ้นมาบ้างไหม เราลูกหลานไทย คนไทย อยู่กันอย่างจงรัก ตายอย่างภักดี ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน หน้าที่ของรัฐบาล แต่ตนก็ไปบังคับใครไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของพวกเราทุกคน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์  ได้กล่าวว่า สวัสดีสื่อมวลชนทุกท่าน ตนมีประเด็นสำคัญที่ต้องการพูดกับสื่อมวลชนทุกท่านทุกคน พูดผ่านสื่อมวลชนที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลวันนี้ และส่งผ่านไปยังสื่อออนไลน์ต่างๆ สื่อทุกประเภท เรื่องสำคัญเรื่องที่มีเอกสารคำสั่งจากผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เรื่องการตรวจสอบและระงับการออกอากาศรายการของสื่อ รวมถึงสื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาสาระกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของประเทศเมื่อวันก่อน 
        
"ผมขอพูดอีกครั้งว่าสื่อมวลชนนั้น เป็นภาคส่วนสำคัญของสังคมไทย สื่อคือพลังที่จะสร้างความชอบธรรม สร้างสรรค์ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับประเทศได้ บทบาทของสื่อต้องทำหน้าที่อย่างมีสิทธิเสรีภาพ และมีความเป็นกลาง สร้างคุณประโยชน์กับประเทศของเรามากมายมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ด้วยการเฝ้าระวังตรวจสอบส่ิงต่างๆในสังคม การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ 

วันนี้ผมได้สั่งการมอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจออกคำสั่งเพื่อดำเนินการดังกล่าว โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนคำสั่งระงับการออกอากาศต่างๆ โดยคำนึงสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสำคัญ ยกเว้นบางกรณีที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จบิดเบือน ยุยงปลุกปั่น ล้ำเส้น ก้าวล่วง ละเมิดสิทธิ ของผู้อื่นตามกฎหมายมาตลอด ที่มีความชัดเจน 

ซึ่งวันนี้จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินการเฉพาะเป็นเรื่องๆไป​ โดยขอให้ครั้งนี้เป็นการทำความเข้าใจ ส่วนบางอันที่จำเป็นต้องปิดตามคำสั่งก็ต้องปิด และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ได้ไปละเมิดใครทั้งสิ้น"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 
        

พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า  หน้าที่ของตนและพวกเราทุกคนต้องช่วยกันป้องกั น กำจัดการกระทำที่มีเจตนาร้าย ความพยายามยุยงปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย ความแตกแยก สับสนอลหม่านภายในประเทศ นั้นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับไม่ให้เกิดขึ้น ต้องขอความร่วมมือจากพวกเราทุกคน จากประชาชนด้วย ตนไม่ต้องการละเมิดสิทธิของใคร แต่ท่านจะต้องระมัดระวังการละเมิดสิทธิผู้อื่นด้วย
        
อย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงข่าว  พล.อ.ประยุทธ์  นายกรัฐมนตรี   ไม่ได้ตอบคำถามใดๆทั้งที่สื่อส่งผ่านทีมงานไป รวมถึงไม่ตอบคำถามภายในห้องแถลงที่ถามต่อเนื่อง  ถึงคำสั่งศาลมีคำสั่งปิดแพลตฟอร์มของสื่อบางสำนักแล้วว่าถือว่าสิ้นสุดแล้วหรือยัง นายกฯกล่าวเพียงว่า ได้พูดครบไปแล้ว 

 

นายกฯโพสต์แจงชัดๆ คำนึงเสรีภาพ ให้ทบทวนคำสั่ง ระงับสื่อออนไลน์

 

ขณะที่ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ค "ประยุทธ์ จันทร์โอชา"   ได้โพสต์ข้อความย้ำประเด็นที่ต้องการสื่อสาร ว่า  "ประเด็นสำคัญที่ผมพูดกับสื่อมวลชนหลังการประชุม ครม เมื่อสักครู่ เป็นประเด็นที่ผมต้องการพูดกับสื่อมวลชนทุกท่านโดยตรง

ดังที่ได้เห็นว่ามีเอกสารคำสั่ง จากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เรื่องการตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการ ของสื่อ และสื่อออนไลน์ ที่มีเนื้อหาสาระกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของประเทศ เมื่อวันก่อน
 
ผมขอพูดอีกครั้งในสิ่งที่ผมเชื่อ  และได้พูดมาตลอดว่า  สื่อมวลชน คืออีกหนึ่งภาคส่วนที่สำคัญของสังคมไทย สื่อคือพลังสำคัญที่สร้างความเป็นธรรม และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับประเทศได้ บทบาทของสื่อที่ทำหน้าที่ อย่างมีสิทธิ เสรีภาพ และมีความเป็นกลาง ได้สร้างประโยชน์มากมายต่อประเทศไทยของเรามาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ ด้วยการเฝ้าระวังและตรวจสอบสิ่งต่างๆ ในสังคม การตรวจสอบ และการถ่วงดุลย์อำนาจ
 
วันนี้ ได้มีการสั่งการ และมอบแนวทางให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นผู้ตัดสินใจออกคำสั่งเพื่อดำเนินการดังกล่าว ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนคำสั่ง ระงับการออกอากาศต่างๆ โดยขอให้พิจารณาใหม่ โดยต้องคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสำคัญ ยกเว้นหากมีบางกรณี ที่เป็นเผยแพร่ข้อมูลเท็จ หรือ fake news ชัดเจน หรือนำเสนอข่าวที่ตั้งใจบิดเบือน ล้ำเส้น ก้าวล่วง หรือ ละเมิดสิทธิตามกฏหมายของผู้อื่น ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหลักการตามกฏหมาย และดำเนินการเฉพาะ เป็นเรื่องๆ ไป โดยขอให้ครั้งนี้เป็นการไปพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อน
 
หน้าที่ของผม และหน้าที่ของพวกเราทุกคนคือ เราต้องช่วยกันป้องกัน และกำจัดการกระทำที่มีเจตนาร้ายกับประเทศ ความพยายามที่จะยุยง ปลุกปั่น สร้างวุ่นวายและความแตกแยกในประเทศ คือสิ่งที่เราต้องไม่ยอมรับให้เกิดขึ้น ขอบคุณครับ"

 

นายกฯโพสต์แจงชัดๆ คำนึงเสรีภาพ ให้ทบทวนคำสั่ง ระงับสื่อออนไลน์