ถาวร เกินทนเห็นม็อบถูกปั่นหนัก ซัดตรง ธนาธร - ปิยบุตร บ่มเพาะผู้คนชิงชังสถาบัน

กลายเป็นวิธีการที่ชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ กับท่าทีของกลุ่มมวลชนที่เริ่มต้นจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก เรียกร้องประชาธิปไตย แต่ท้ายสุดเป็นอย่างที่หลายคนคาดหมายว่า หนีไม่พ้นการปลุกระดมให้ทุกอย่างเดินไปตามแนวทางเดียวกับกลุ่มและพรรคการเมืองที่นิยมการปกครองแบบตะวันตก ล่าสุด วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม และ ส.ส.สงขลา เปิดแถลงข่าวประเด็นทางการเมือง สืบเนื่องมาจากการที่กลุ่มแกนนำม็อบคณะราษฎร มีการเคลื่อนไหวอย่างหนักเพื่อเป้าหมายคุกคาม โจมตีสถาบันเบื้องสูง เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบกษัตริย์ แม้จะมีการใช้คำอ้างว่าเป็นการปฏิรูป ไม่ใช่การโค่นล้มก็ตาม

ถาวร เกินทนเห็นม็อบถูกปั่นหนัก ซัดตรง ธนาธร - ปิยบุตร บ่มเพาะผู้คนชิงชังสถาบัน

กลายเป็นวิธีการที่ชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ  กับท่าทีของกลุ่มมวลชนที่เริ่มต้นจากกลุ่มเยาวชนปลดแอก เรียกร้องประชาธิปไตย  แต่ท้ายสุดเป็นอย่างที่หลายคนคาดหมายว่า  หนีไม่พ้นการปลุกระดมให้ทุกอย่างเดินไปตามแนวทางเดียวกับกลุ่มและพรรคการเมืองที่นิยมการปกครองแบบตะวันตก   ล่าสุด  วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่พรรคประชาธิปัตย์   นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม และ ส.ส.สงขลา  เปิดแถลงข่าวประเด็นทางการเมือง สืบเนื่องมาจากการที่กลุ่มแกนนำม็อบคณะราษฎร  มีการเคลื่อนไหวอย่างหนักเพื่อเป้าหมายคุกคาม โจมตีสถาบันเบื้องสูง เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบกษัตริย์  แม้จะมีการใช้คำอ้างว่าเป็นการปฏิรูป ไม่ใช่การโค่นล้มก็ตาม

ทั้งนี้ นายถาวร  กล่าวถึงเหตุผลและความจำเป็นต้องแสดงความเห็น  รวมถึงประกาศจุดยืนต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น  เพราะในฐานะคนไทยคนหนึ่ง  นานวันเข้ายิ่งไม่อาจยอมรับได้กับพฤติกรรมของกลุ่มบุคคล ที่ใช้สารพัดวิธีการโจมตีสถาบันฯ   ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังการชุมนุม จนชัดเจนว่าสิ่งที่กลุ่มเคลื่อนไหวกำลังทุกวิถีทาง คือการเปลี่ยนแปลงสถาบันฯแล้วสถาปนากลุ่มพวกตัวเอง เข้าสู่ฐานอำนาจการปกครองประเทศ  

 

"เหตุผลหลัก ๆ เลยที่ต้องออกมาแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์   ที่มีต่อพวกเราคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 800 ปี  โดยทุกพระองค์ต่างเสียสละนำพาชาติไทยให้  พ้นภัยทั้งการรุกรานจากชาติตะวันตกผ่านลัทธิล่าอาณานิคม ตลอดจนภัยจากลัทธิคอมมิวนิสต์  จนทำให้ชาติไทยยังคงเอกราชมาถึงปัจจุบัน  ไม่เท่านั้นด้วยการที่เป็นผู้แทนราษฎร  เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  ยิ่งต้องชัดเจนต่อทำหน้าที่    พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ซึ่งเชื่อว่าคนไทยกว่าร้อยละ 90  ต้องคิดเหมือนกับผม และมีเพียงคนส่วนน้อยและผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังม็อบเท่านั้นที่มีความคิดแตกต่าง"  

 

ขณะเดียวกันในการแถลงข่าวครั้งนี้  นายถาวร ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่  ในโอกาสไปกล่าวบรรยายที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ  เรื่อง Thailand in a Deeper State of Crisis?  แสดงใจความสำคัญตอนหนึ่ง  มีการกล่าวหา ใส่ร้าย  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9   ว่ามีอำนาจอิทธิพลเหนือผู้พิพากษา ทั้ง ๆ ที่นายปิยบุตรย่อมรู้แก่ใจ    ข้อมูลดังกล่าวมีความบิดเบือน  เพราะพระราชดำรัสที่ตรัสต่อศาลในวันที่ 24 เม.ย.2549 นั้น ในหลวง รัชกาลที่ 9 ไม่ได้รับสั่งอะไรที่ไม่มีหลักมีเกณฑ์ต่อศาล  และประการสำคัญพระองค์ ไม่เคยใช้พระราชอำนาจ  ตามใจชอบนอกเหนือที่รัฐธรรมนูญกำหนด  รวมถึงทรงย้ำว่าไม่เคยใช้อำนาจของพระองค์ ในเรื่องอื่นใดตามที่นายปิยบุตรบิดเบือน

 

 

ถาวร เกินทนเห็นม็อบถูกปั่นหนัก ซัดตรง ธนาธร - ปิยบุตร บ่มเพาะผู้คนชิงชังสถาบัน

 

นอกจากนี้  นายถาวร  ยังได้มีการพูดถึงประเด็นการกล่าวร้ายต่อสถาบันฯ  ของนายนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า ว่าด้วยทฤษฎีสมคบคิด  ตามคำพูดของนายธนาธรที่ปรากฎอยู่ในหนังสือ  "Portrait ธนาธร"  ซึ่งมีการถูกตีพิมพ์ตั้งแต่  เมื่อเดือน พ.ย. 2561 ระบุข้อความตอนหนึ่ง ปรากฎอยู่ในหน้า 277  ว่า  “...วิธีการของเราคือต้องมีอำนาจและต่อรอง (กับ) ×××× นี่ต่างหากคือเป้าหมาย   ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ได้  เอาทหารออกจากการเมืองไม่ได้หรอก จัดการเรื่องนี้ไม่ได้ จัดการเรื่องศาลไม่ได้หรอก จัดการเหี้ยห่าอะไรไม่ได้...” 

ไม่เท่านั้น นายธนาธรยังได้ไปพูดในงานวิชาการหลายแห่ง  แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ ด้วยเจตนาให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกคล้อยตาม  เพื่อสื่อความไปถึงมวลชนว่าถึงเวลาต้องฏิรูปสถาบันฯ  อาทิ   เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562    นายธนาธร ไปพูดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า มี 2 ทางเลือกในการแก้รัฐธรรมนูญ คือ ยินยอมพร้อมใจกันทุกฝ่าย หรือ แก้ด้วยเลือด   พร้อมมีการชูป้ายมิบังควร  ประกอบบรรยากาศการเสวนาวิชาการ 


ส่วน นายปิยบุตร ก็มีการโพสต์ข้อความหลายต่อหลายครั้งพาดพิงสถาบันกษัตริย์ของไทยในเชิงลบ  หรือ แม้แต่มีการหยิบยกสถานการณ์การเมืองในต่างประเทศมาเปรียบเทียบ   ทั้งอ้างอิงการปฏิวัติฝรั่งเศส กับการเปลี่ยนเป็นระบอบกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ   โดยเฉพาะช่วงหลังที่พรรคอนาคตใหม่ถูกวินิจฉัยว่ากระทำผิดถูกยุบพรรค ดูเหมือนว่าทั้่งนายธนาธรและนายปิยบุตร  ยิ่งโหมกระแสเกลียดชัง ผ่านการให้ข้อมูลบิดเบือน มากขึ้นเรื่อย ๆ จนมาถึงยุคของแกนนำม็อบ  ที่มีการใช้สื่อโซเซียลสร้างวาทกรรม ทำให้เกิดความเกลียดชัง (Hate Speech) 


ซึ่งแม้กลุ่มคนเหล่านี้จะอ้างว่าการปฏิรูปสถาบันฯ   ไม่ใช่การล้มล้าง    แต่พฤติกรรมต่างๆแสดงออกมากลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม อาทิ การมุ่งอาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ การโฆษณาชวนเชื่อ การโจมตีฝ่ายตรงข้าม การบังคับให้เลือกข้าง รวมถึงมีการยกระดับการชุมนุมประท้วงไปเป็นการก่อจลาจล โดยมุ่งหวังให้เกิดการก่อวินาศกรรมและสงครามประชาชน เช่น การเปลี่ยนการ์ดอาชีวะมาเป็นการ์ดรบพิเศษ เป็นต้น


"ในวันพรุ่งนี้  (25 พ.ย.)   ผู้ชุมนุมนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง เพื่อตอบโต้การบังคับใช้กฎหมายมาตรา 112 โดยประกาศแผนการเข้าบุกล้อม เพื่อยึดสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์  โดยแบ่งกำลังออกเป็น 4 กลุ่มบุกเข้าโจมตีทั้ง 4 ด้าน ซึ่งผู้ก่อการเตรียมยกระดับสถานการณ์ให้ไปสู่ความรุนแรง โดยเปลี่ยนการ์ดอาชีวะมาเป็นการ์ดรบพิเศษ เพื่อรับสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรงให้ได้ตามยุทธศาสตร์สงครามประชาชน  ผมจึงมีความเป็นห่วงหลายประเด็น และฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพระราชทาน จึงห้ามเข้าใกล้ในระยะ 150 เมตร พร้อมฝากไปยังการ์ดผู้ชุมนุม ขอให้ดูแลการชุมนุมโดยยึดหลักสงบ สันติอาหิงสา ปราศจากอาวุธ ดูแลผู้ชุมนุมไม่ยั่วยุ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเหมาะสม ก่อนที่สภาวะความขัดแย้งต่าง ๆ จะนำไปสู่จุดแตกหักในรูปของสงครามกลางเมือง"

 

ถาวร เกินทนเห็นม็อบถูกปั่นหนัก ซัดตรง ธนาธร - ปิยบุตร บ่มเพาะผู้คนชิงชังสถาบัน

 

ถาวร เกินทนเห็นม็อบถูกปั่นหนัก ซัดตรง ธนาธร - ปิยบุตร บ่มเพาะผู้คนชิงชังสถาบัน

ช้อปปิ้งออนไลน์ ลาซาด้า ดีลดี ส่งฟรีทุกวัน​ ลดต่อเนื่องจาก11.11​  >> กดช้อปเลย <<