เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

ฉบับล่าสุด ราชกิจจาฯเผยแพร่ประกาศ ข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-โอมิครอน เริ่มมีผลบังคับใช้ 1 มี.ค.นี้เป็นต้นไป

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา  เผยแพร่ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19 ) ที่  ๕/ ๒๕๖๕   เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๓) ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติในการประชุมเมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้ขยายระยะเวลา การบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ 

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๔๐) ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ กำหนดประเภทของผู้เดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 และสอดรับกับนโยบาย การเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล และออกคำสั่งเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่นำไปดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค โดยเคร่งครัด

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

โดยมีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ที่ ๒๔/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๙) ลงวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด -19) ที่ ๒๕/๒๕๖๔ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๐) ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ คำสั่งศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19 ) ที่ ๒/๒๕๖๕ เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๑) ลงวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ และคำสั่ง ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19 ) ที่ ๔/๒๕๖๕

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๒) ลงวันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นั้น
 

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

อย่างไรก็ดี ด้วยพบว่าไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ สายพันธุ์โอมิครอน ไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อเกิดอาการป่วยที่รุนแรง จึงเห็นควรปรับมาตรการป้องกันโรคให้มีความเหมาะสม

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

เพื่อให้การดำเนินการตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและการขยายระยะเวลา การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว และตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๕/๒๕๖๓ เรื่อง การจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๔ (๒) ของคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ๔/๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับ การปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

จึงมีคำสั่งให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค   ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นดังต่อไปนี้ 

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

เริ่ม 1 มี.ค.นี้ ราชกิจจาฯ ออกข้อกำหนดปรับมาตรการควบคุมเชื้อโควิดโอไมครอน

เพิ่มเติม