เสรีพิศุทธ์ แนะก้าวไกลยอมเสียสละให้เพื่อไทย ถ้ายังไม่ได้ พร้อมเป็นนายกเอง

ล่าสุด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หนึ่งใน 8 พรรคร่วมของพรรคก้าวไกลออกมาให้สัมภาษณ์หลัง พิธา ชวดนายก เผยยังหนุนพิธา แต่ถ้าสุดทางแนะให้เสียสละดัน "เพื่อไทย" แล้วไปเป็นฝ่ายค้าน

วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ได้สัมภาษณ์ที่โรงแรมริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯถึงประเด็นการเสนอชื่อผู้จะเป็นนายกรัฐมนตรี หลัง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่านการโหวตนายกในรอบแรก โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันรอบ 2 ยังเสนอชื่อพิธาและยังคงสนับสนุน แต่ท้ายที่สุดแล้วถ้ายังไม่ได้ก็แนะนำให้เสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ต้องหนุนพรรคเพื่อไทยมาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย

 

เสรีพิศุทธ์ แนะก้าวไกลยอมเสียสละให้เพื่อไทย ถ้ายังไม่ได้ พร้อมเป็นนายกเอง

เสรีพิศุทธ์ แนะก้าวไกลยอมเสียสละให้เพื่อไทย ถ้ายังไม่ได้ พร้อมเป็นนายกเอง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า  จะเสนอชื่อกี่คนก็ได้ทั้งนั้น ไม่มีข้อบังคับมากำหนดไว้ สามารถเสนอได้ทั้งนั้น จะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อีกครั้งก็ได้

ส่วนความกังวลในเรื่องวันที่ 19 ก.ค.ที่จะเป็นการโหวตรอบที่ 2 ในเรื่องการอภิปราย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า ถ้าตนเป็นประธานสภา จะไม่ให้มีการอภิปราย เพราะอภิปรายไปหมดแล้ว แล้วก็พูดซ้ำๆวนๆ ที่สำคัญในกรณีวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา

เมื่อถามถึงเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เผยมีโอกาสไม่มากเพราะส่วนใหญ่จะปิดกั้นตัวเอง อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ ไปยกมาตรฐานเสียสูง ไม่จำเป็นต้องฟังเสียงกลุ่มคนที่สนับสนุนจนเกิดกว่าเหตุ จะกลายเป็นผลเสีย 

เสรีพิศุทธ์ แนะก้าวไกลยอมเสียสละให้เพื่อไทย ถ้ายังไม่ได้ พร้อมเป็นนายกเอง

 

การโหวตพิธารอบ 2 ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากเพราะเมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมาก็ได้เห็นคะแนนของส.ว. ที่ลงคะแนนให้กับทางนายพิธาเพียง 13 คนเท่านั้น สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลาตอนนี้ก็ต้องช่วยเดินหน้าประสานขอคะแนนเสียงมาช่วยนายพิธาเพิ่มเติม ส่วนตัวก็หนักใจแทน ก็ต้องดูว่าตัวนายพิธา อยากจะสู้ต่อไป ถ้าในกรณีโหวตครั้งที่ 2 ไม่ผ่าน

ด้าน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลก็จะยังสนับสนุนนายพิธา แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็ต้องเป็นพรรคเพื่อไทยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าก็จะต้องมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ด้วย แต่ถ้าในกรณีที่ยังมีความก้าวก่ายร่วมรัฐบาลกับทางเพื่อไทยแล้วไม่สามารถโหวตผ่านเสียงของส.ว.ไปได้ก็ต้องให้ทั้ง 2 พรรคไปพูดคุยตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร ซึ่งก็ต้องดูว่า "ก้าวไกลอาจจะต้องเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน" ซึ่งก็จะสามารถเปิดพื้นที่ให้เป็นอิสระมากขึ้น ในการไปเชิญพรรคการเมืองอื่นๆมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลเช่นพรรคภูมิใจไทยพรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น 

ส่วนตัวมองถึงการเสียสละของพรรคก้าวไกล ก็ต้องยอมที่จะไปเป็นฝ่ายค้านแต่ก็ต้องสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและในกรณีที่ถ้าไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสมตนเองก็พร้อมที่จะเป็นตัวเลือกในการเป็นนายกรัฐมนตรี