พิธา เปิดใจก่อนสู้ศึกรอบ 2 ลั่น ผมสู้ยิบตาและไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมือง

พิธา เปิดใจก่อนสู้ศึกประชุมสภาโหวตนายกฯรอบ2 ลั่น “ผมสู้ยิบตาและไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมืองอยู่มา 20 ปี ผ่านอะไรมาเยอะ ”...

วันที่ 19 ก.ค. 66 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ เป็นครั้งที่ 2 โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรเพื่อไทย เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ โดยมีผู้รับรองด้วยการยกมือโดยไม่ตรงตามข้อบังคับ
 

พิธา เปิดใจก่อนสู้ศึกรอบ 2 ลั่น ผมสู้ยิบตาและไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมือง

ด้านนายพิธา ได้เปิดใจก่อนประชุมสภาว่าผมสู้ยิบตา ถ้ามันบิดเบือนขนาดที่ว่า ชนะเป็นพรรคอันดับ 1 แต่ผมยังหาประเทศที่อยู่ในระบบเดียวกับเรา ที่ชนะเลือกตั้งแล้วต้องไปเป็นไปฝ่ายค้าน ผมยังหาไม่เจอ ผมไม่ได้ ไร้เดียงสาทางการเมือง อยู่ในการเมืองมา 20 กว่าปี ก็เห็นความโหดร้ายของการเมืองไทยมาหลายครั้ง โดนทั้งนิติสงคราม โดนยุบพรรค มาหลายครั้ง  ผมคิดว่า มันถึงเวลาที่เราต้องยืนหยัดด้วยกัน 

 

พิธา เปิดใจก่อนสู้ศึกรอบ 2 ลั่น ผมสู้ยิบตาและไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมือง
 

เราต้องเตรียมพร้อมไว้ทุกสถานการณ์ ถ้ามันพิสูจน์แล้วว่า 14 พ.ค. เราชนะมาครึ่งทางได้ แต่เรายังเหลืออีกครั้งทาง ถ้าจะให้สื่อสารกับ ส.ว. ตอนนี้ ก็ต้องขอขอบคุณในความกล้าหาญที่ออกเสียง และสำหรับคนที่คิดว่าจะงดออกเสียง หรือไม่มาประชุม ผมก็อยากให้มาคุยกัน มาโหวตในตรงไปตรงมา แสดงความคิดเห็นตรงๆ

ผมคิดว่า ถ้าไม่มีแรงสนับสนุนเพิ่ม อย่างมีนัยยะสำคัญ ครั้งนี้ถ้าได้เพิ่มมากว่า 13 เสียง ผมก็คิดว่ามีความชอบธรรมพอที่จะเสนอชื่อตัวเองอีกครั้ง หรือถ้าได้เสียงน้อยกว่าเดิม หรือมีคนลาประชุมมากกว่าเดิม ผมก็จะเสียสละให้พรรคอันดับสอง ให้เพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลครับมันมีกี่ประเทศในโลกนี้ครับ ที่ชนะการเลือกตั้งแล้วต้องไปเป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่ถ้าต้องไปเป็นฝ่ายค้าน ผมก็จะทำหน้าที่ผมให้ดีที่สุด นายพิธา กล่าว

 

พิธา เปิดใจก่อนสู้ศึกรอบ 2 ลั่น ผมสู้ยิบตาและไม่ได้ไร้เดียงสาทางการเมือง