อาการล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร น่าห่วง  แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยเพิ่งตรวจปอด-หัวใจ

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ อัปเดตอาการล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร ตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า ตรวจปอด และหัวใจ ยังมีอาการน่าเป็นห่วง

   เกาะติดความคืบหน้าอาการป่วย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากเดินทางกลับประเทศไทย มาตั้งแต่วันที่ 22ส.ค.66 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ซึ่งก็มีการเผยกำหนดให้เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ไดัในวันที่ 28 ส.ค.นี้ โดยมีรายชื่อคนเข้าเยี่ยมแล้ว 10คน  ล่าสุดวันที่ 25 ส.ค.66  พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ  ได้มาอัปเดตอาการล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร 

อาการล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร น่าห่วง  แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยเพิ่งตรวจปอด-หัวใจ
  โดยที่ รพ. ตำรวจ ทางกรุงเทพธุรกิจ มีรายงานว่า  พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เปิดเผยภาย หลังจากได้ไปตรวจอาการของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ

 

อาการล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร น่าห่วง  แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยเพิ่งตรวจปอด-หัวใจ


  ซึ่งเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66ที่ผ่านมา ได้ทำการตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้านายทักษิณ โดยใช้เครื่องแอคโค่ โมบาย วันนี้ใช้เครื่องแอคโค่ใหญ่ พบว่าจากการตรวจปอด และหัวใจ ยังมีอาการน่าเป็นห่วง ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการรักษา ยังไม่สามารถระบุได้ ขณะที่ความดันยังทรงตัว ไม่ถึงกับทรุด ยังมีสติสามารถพูดคุยกับแพทย์ได้ 


    อาการทั้งหมดได้รายงานไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้ว ส่วนห้องที่ใช้รักษาตัวนายทักษิณ ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาได้ดัดแปลงห้องพักของนายทักษิณให้เป็นกึ่ง ICU หรือที่เรียกว่า IMCU ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์รักษาได้ทันที

อาการล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร น่าห่วง  แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยเพิ่งตรวจปอด-หัวใจ

   สำหรับการรักษาของนายทักษิณ ทางโรงพยาบาลไม่ได้เป็นผู้ร้องขอ แต่ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นผู้ร้องขอให้ส่งตัวมาแบบเร่งด่วน โดยไม่มีเวลาให้ตั้งตัว ซึ่ง รพ.ตำรวจ รับตัวมาเป็นกรณีเดียวกับผู้ป่วยฉุกเฉินทั่วไป โดยห้องไหนว่างก็ให้เข้าไปอยู่ห้องนั้น

อาการล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร น่าห่วง  แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยเพิ่งตรวจปอด-หัวใจ

  ส่วนกรณีญาติประสานเข้ามาเยี่ยม นายทักษิณ นั้น ตรงนี้ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ รพ.ตำรวจ  ด้านทางการแพทย์ยังไม่พ้นเวลาการกักตัวที่เป็นไปตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ส่วนเรื่องการเปิดเผยรายละเอียดในการรักษาของผู้ป่วยไม่ได้นั้น เพราะมีกฎหมายคุ้มครองผู้ป่วยในเรื่องการเปิดเผยรายละเอียดอยู่แล้ว ต้องขออนุญาตทั้งตัวผู้ป่วย และญาติของผู้ป่วยด้วย