เดินหน้าโรดแมปก้าวไกล "พิธา"กาง 6 เป้าหมายสำคัญ ดันกฎหมาย 47 ฉบับเข้าสภา

25 ม.ค.2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล และ สส.แบบบัญชีรายชื่อ นำทีมแถลงโรดแมปแผนการทำงาน เป้าหมายของพรรคก้าวไกล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกหลังจากพ้นจากคดีถือหุ้นสื่อไอทีวี 

นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเคยหาเสียงไว้ 300 นโยบายของพรรคก้าวไกลจะทำให้เป้าหมาย 6 วาระสำคัญที่จะทำให้พี่น้องประชาชนเห็นในแบบฉบับของก้าวไกล ดังนี้ ประชาธิปไตยเต็มใบ ยกระดับคุณภาพชีวิต หยุดแช่แข็งชนบทไทยปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ เรียนรู้ทันโลก เติบโตแบบมีคุณภาพ

คำถามคือเราจะทำอะไร และจะทำอย่างไร ถ้าจะปฏิรูปตั้งแต่สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และการเมือง ได้ตกผลึกออกมา 4 ปัจจัยความสำเร็จที่ต้องทำให้กลายเป็นความจริง
เรื่องแรกผลักดันกฎหมาย 47 ฉบับ อีก 17 บรรจุเข้าวาระสภา เช่น พ.ร.บ จัดสรรที่ดิน เหลือ 26 ฉบับที่ยังไม่เข้าวาระการประชุมสภา และที่มีการพิจารณาบางฉบับ เช่น พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.ฝุ่นพิษ พ.ร.บ.เครื่องดื่ม 

แผนการปฏิบัติการ เช่น กมธ.การทหารโดย วิโรจน์ ลักขนาอดิศร กมธ.พัฒนาการเมืองและสื่อสารมวลชนของ พริษฐ์ วัชรสินธุ กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ ของนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล กมธ.การสวัสดิการสังคม ของนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และยังมีอีก 4 ชุดคณะกรรมาธิการงบประมาณ ที่ต้องปรับเพื่อให้วาระของพรรคไม่มีข้อติดขัดทางงบประมาณ ปฏิรูปอำนาจเงินด้วย 5 ก้าวจัดทำ โปร่งใส ประชาชนมีส่วนร่วม อนุมัติ ตามหลัก ประชาชนได้ประโยชน์มาตรการ หัวจักรของเงินในงบประมาณ ฐานศูนย์ ทำได้ ถ้าทำเป็นภารกิจนำ ไม่ใช่ยุทธศาสตร์(ชาติ)นำ

บุคลากร เตรียมทีมงานให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์รองรับเนื้อหาที่ตามมา ปฏิรูปโครงสร้างพรรคให้สมาชิก-ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น สร้างความเข้มแข็งจากรากฐาน (คน-ความคิด-เครือข่าย) เชื่อมโยง สส. - กลไกในสภา - ทีมงานพื้นที่ สมาชิกพรรค - ท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพ

นายพิธา กล่าวอีกว่า หมุดหมายสำคัญของก้าวไกลคือการทำงานนอกพรรคเน้นเรื่องในสภาโดยวางแผนแต่ละเดือนซึ่งช่วงเดือน เม.ย.จะมีการประชุมใหญ่สามัญซึ่งกรรมการบริหารทำงานมาครบ 4 ปีจะคุยและพูดคุยเรื่องการปรับโครงสร้าง ทบทวนแกนนำการทำงาน เป็นต้น 

ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนการทำงานในฐานะฝ่ายค้าน การตรวจสอบรัฐบาลว่า นายพิธา ระบุว่า จะมีการทำงานร่วมกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนต้องมีแผนประจำปี การทำงานการเมืองของตนไม่ได้มีแค่ รัฐบาล และ ฝ่ายค้าน แต่มี ประชาชน ข้าราชการ NGO องค์กรระหว่างประเทศ ถ้าตนไม่พูดอย่างโปร่งใส การทำงานกับทุกภาคส่วนก็จะมองไม่เห็นว่าเขาจะทำงานกับใครได้บ้าง

ขณะที่รูปแบบฝ่ายค้านที่จะเห็นจากก้าวไกลจะไม่เหมือนกับฝ่ายค้านเก่าๆ ตอนนี้เราอยู่ในฝ่ายนิติบัญญัติ เป็น Law maker แน่นอนว่าเราต้องตรวจสอบ และเรียนรู้ไปในตัวเมื่อวันที่เราเป็นรัฐบาลทำงานต่อได้โดยไม่ติดขัดเราทำงานอย่างตรงไปตรงมา แม้กระทั่งเรื่องการตรวจสอบเรื่องของคุณทักษิณ เราก็มองว่า คุณทักษิณก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง และก็ได้รับอภิสิทธิ์เช่นเดียวกัน เรามองว่าเป็นเรื่องของระบบ ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง ไม่ได้ทำให้เป็นเรื่องของสะใจ แต่ต้องการทำให้ครอบคลุมกับผู้ลี้ภัยอีกหลายๆ คน และคนที่ยังติดอยู่ในคุก

เมื่อถามถึงปัญหาศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมวินิจฉัยแก้ไขมาตรา 112 ในวันที่ 31 มกราคมที่จะถึงนี้ มีการประเมินฉากทัศน์อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า มีการคิดเป็นฉากทัศน์ไว้ แม้แต่ฉากทัศน์แย่ที่สุดแต่เชื่อว่าพรรคก้าวไกลก็ยังบริหารจัดการได้ และคงไม่ทำให้แผนของพรรคก้าวไกลสะดุดได้