"เมโสเทอราปี"ช่วยฟื้นฟูผิวและขับสารพิษจากใบหน้าได้อย่างไร

เมโสหน้าใสช่วยอะไร ปัจจุบันเทคนิคการมีผิวหน้าที่เรียบเนียน ขาวใส ที่ให้ผลลัพธ์ไวชัดเจน และปลอดภัย ก็คือ Mesotheraphy อีกหนึ่งทางเลือกที่ดี และได้รับความนิยม


ไม่ว่าใครก็อยากที่จะมีผิวหน้าเนียนใสด้วยกันทั้งนั้น เพราะนอกจากจะทำให้ผิวดูมีสุขภาพที่ดี ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในการทำกิจวัตรประจำวันด้วย และสำหรับสาวๆการมีผิวหน้าทีเรียบเนียนยังช่วยให้ทุกการแต่งหน้าง่ายยิ่งขึ้น ลดเมคอัพบางตัวที่ต้องใช้เพื่อกลบเกลื่อนปัญหาผิวบนใบหน้า เรียกได้ว่าประหยัดค่าใช้จ่ายเครื่องสำอางในหมวดปกปิดปัญหาผิวได้ด้วยนั่นเอง 
 


ปัจจุบันเทคนิคการมีผิวหน้าที่เรียบเนียน ขาวใส ที่ให้ผลลัพธ์ไวชัดเจน และปลอดภัย ก็คือ การฉีดสารบำรุงที่มีประโยชน์คืนสู่ผิว หรือที่เรียกกันว่า Mesotheraphy เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี และได้รับความนิยม วันนี้จะมาทำความรู้จักว่าการฉีดเมโสหน้าใสช่วยอะไร เพื่อที่จะได้เลือกแก้ปัญหาของแต่ละคนได้อย่างถูกจุด


เมโสหน้าใส คืออะไร 

 

"เมโสเทอราปี"ช่วยฟื้นฟูผิวและขับสารพิษจากใบหน้าได้อย่างไร

เมโสหน้าใส คือการฉีดสารบำรุงที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวหนัง ฉีดลงไปที่ชั้นผิวหนังชั้นกลางของผิวหน้า เพื่อไปเสริม เติมระดับวิตามินต่างๆ ที่มีอยู่ในระดับน้อยให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เพื่อไปผลักดันกระบวนการทำงานของเซลล์ผิวให้ทำงานได้ดีขึ้น ทั้งกลไกการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม ไปจนถึงช่วยซ่อมแซมขับของเสีย มลภาวะต่างๆ ที่สกปรกออกจากเซลล์ผิว ส่งผลให้ผิวสุขภาพดีขึ้นกระจ่างใสขึ้น และชั้นผิวหน้าค่อยๆ เรียบเนียนขึ้น

 

ฉีดเมโสหน้าใส อันตรายหรือไม่


สำหรับการฉีดเมโสหน้าใส หรือชื่อเต็มคือ เมโสเทอราปี (Mesotherapy) ลงไปที่ผิวหนังชั้นกลางที่ผิวหน้า หากฉีดโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ด้วยคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่สะอาด ทันสมัย ก็จะลดความเสี่ยงในการเจอตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือตัวยาปลอม ที่อาจไม่ได้มีสารประโยชน์โดยตรงกับผิว หรือให้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม อาจทำให้แพ้ ระคายเคืองได้

ฉีดเมโสหน้าใส เจ็บหรือไม่


การฉีดเมโสหน้าใส เป็นการทำหัตถการโดยไม่ใช้ยาชา คือใช้เข็มทิ่มลงไปที่ผิวหนังใบหน้า ซึ่งลงลึกไปถึงผิวชั้นกลาง หรือประมาณ 8 - 10 มิลลิเมตรเท่านั้น จะให้ความรู้สึกเจ็บนิดเดียวเพียงเท่านั้น หรือร้อนๆ เพียงนิดเดียว ฉะนั้นแล้วไม่ต้องกังวลว่าจะให้ความรู้สึกเจ็บจนทนไม่ได้ 


ฉีดเมโสหน้าใส ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

เพราะการฉีดเมโสหน้าใส คือการนำเอาวิตามิน หรือสารอาหารอันมีประโยชน์ต่อผิวและร่างกายเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยการฉีดเข้าสู่ผิวหนังชั้นกลางของผิวหน้า ฉะนั้นแล้วคุณประโยชน์ที่ได้จากการฉีดเมโสหน้าใสจะช่วยได้ในหลายด้านปัญหาผิวหน้า ดังต่อไปนี้

 

  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งแตกลาย อันเป็นต้นเหตุการเกิดริ้วรอยได้ในอนาคต
  • ช่วยลดการเกิดริ้วรอยใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นผลมาจากผิวถูกกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น
  • ช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าที่กว้างให้เล็กและกระชับลง ลดปัญหาผิวหน้ามันระหว่างวันได้ดี ซึ่งผิวมันเป็นต้นเหตุการเกิดสิวด้วย
  • ช่วยปรับความสว่างให้ผิวที่หมองคล้ำไปพร้อมๆ กับสร้างความเรียบเนียนให้ผิวชั้นหน้า 
  • ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าเดิม อันเนื่องมาจากได้รับวิตามินและสารประโยชน์ต่อผิวหน้าอย่างพอดี
  • ช่วยลดรอยกระ จุดด่างดำ รอยแดง อันเนื่องมาจากปัญหาสิว หรือภาวะแพ้ อาการระคายเคืองต่างๆ บนใบหน้า

เมโสหน้าใส ฉีดจุดใดได้บ้าง


หากต้องการแก้ไขปัญหาผิวบนใบหน้า ด้วยการฉีดเมโสหน้าใส สามารถฉีดได้ทุกจุดบนใบหน้า หรือหากมีปัญหาในจุดในจุดหนึ่งของใบหน้า ก็สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และปลอดภัยที่สุด 

เมโสหน้าใส มีกี่ยี่ห้อ ใช้แก้ปัญหาต่างกันอย่างไร

"เมโสเทอราปี"ช่วยฟื้นฟูผิวและขับสารพิษจากใบหน้าได้อย่างไร

สำหรับการฉีดเมโสหน้าใส ปัจจุบันมีหลากหลายสูตร เพื่อปรับใช้ให้เข้ากับปัญหาผิวหน้าของแต่ละคน แต่หลักๆ แล้ว ปัญหาผิวหน้าที่เจอก็จะแบ่งได้ดังนี้

  • แก้ปัญหาผิวแพ้ง่าย อยู่ในภาวะภูมิแพ้ เป็นผื่น สำหรับการทำเมโสหน้าใส เพื่อแก้ปัญหาผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย จำเป็นต้องใช้วิตามินและสารอาหารดูแลผิวที่เหมาะสม อย่างเช่น มาเด้ คอลลาเจน

 

  • แก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ให้กลับมากระจ่างใส การฉีดเมโสหน้าใสเพื่อแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ขาดการดูแลไม่ว่าจะด้วยการเจอมลภาวะต่างๆ การใช้ชีวิตประจำวัน นอนดึก รับประทานอาหารไม่เพียงพอที่จะไปซึมซับผิว สามารถฉีดวิตามินต่างๆ ได้ตามที่แพทย์วิเคราะห์ เช่น vitamin A B C E, Transamin หรือ Glutathione เป็นต้น

 

  • แก้ปัญหาผิวมีรอยกระ จุดด่างดำ รอยแดง อันเนื่องมาจากการเกิดสิว สำหรับการดูแลผิวที่เกิดจากการหมองคล้ำ ดำด่างไม่สม่ำเสมอกัน หรือเป็นรอยแดงอันเนื่องมาจากผลของการอักเสบหลังเกิดสิว อาจฉีดวิตามินต่างๆ ได้อย่างเดียวกับการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ นั่นก็คือ vitamin A B C E เป็นต้น

 

  • แก้ปัญหาผิวไม่เนียนใส ให้กลับมาขาวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์ การฉีดโสหน้าใส เพื่อให้ผิวขาวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังป้องกันการเกิดริ้วรอยอันเกิดขึ้นได้ในอนาคต แพทย์พิจารณาฉีดคอลลาเจน หรือ และโคเอนไซม์ เป็นหลัก เพื่อแก้ไขจุดนี้ได้ดีที่สุด

เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใส มีกี่แบบ

"เมโสเทอราปี"ช่วยฟื้นฟูผิวและขับสารพิษจากใบหน้าได้อย่างไร

สำหรับการฉีดเมโสหน้าใส ในเชิงเทคนิคจะมีการฉีด 2 แบบ ดังนี้


1.ฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด


เป็นการฉีดโดยจิ้มเข็มไปทั่วทั้งใบหน้า เพื่อไปกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังของผิวหน้าโดยทั่วถึง
 

  • ข้อดีของการฉีดแบบสะกิด

ให้ความรู้สึกเจ็บน้อย เพราะใช้เพียงเข็มที่สะกิดที่ชั้นผิวหนังเบาๆ 

  • ข้อเสียของการฉีดแบบสะกิด

ตัวยาออกฤทธิ์ได้น้อย เนื่องจากไม่ได้ลงถึงชั้นผิวลึก และหลังเข้ารับบริการมีอาการบวมแดงทั่วหน้าอย่างเห็นได้ชัด

2.ฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด
เป็นการฉีดเมโสหน้าใส โดยยึดทิศทางของต่อมน้ำเหลืองเป็นหลัก โดยฉีดไปถึงระบบไหลเวียนเพื่อให้วิตามินและสารประโยชน์ร่างกายและผิวหนังได้ซึมลึกลงไป

  • ข้อดีของการฉีดแบบ 16 จุด

ตัวยาออกฤทธิ์ได้นานและลงลึกถึงชั้นผิวหนังได้ดี ทำให้ลงไปฟื้นฟูปัญหาผิวได้ลึกกว่าแบบสะกิด อีกทั้งยังเกิดรอยแดงบนใบหน้าหลังเข้ารับบริการได้น้อยกว่าด้วย

  • ข้อเสียของการฉีดแบบ 16 จุด

มีราคาค่อนข้างสูงกว่า และให้ความรู้สึกเจ็บมากกว่าการฉีดแบบสะกิด

 

ผลข้างเคียงของการฉีดเมโสหน้าใส มีอะไรบ้าง

 

"เมโสเทอราปี"ช่วยฟื้นฟูผิวและขับสารพิษจากใบหน้าได้อย่างไร

หากฉีดกับคลินิกที่น่าเชื่อถือ เครื่องมือทันสมัย ยาถูกต้องทุกอย่างตามอย.กำหนด และแพทย์ประจำคลินิกเป็นผู้เชี่ยวชาญในการฉีด แทบจะไม่มีอะไรน่ากลัวหรือต้องกังวลเลย แต่ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ตามปกติหลังฉีดเมโสหน้าใส จะมีเพียงรอยแดงและผิวหนังนูนขึ้นมาในบริเวณที่ฉีด แต่จะหายได้เองเป็นปกติ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 - 3 วัน

อาการอันตรายหลังฉีดเมโสหน้าใส ที่ควรเฝ้าระวัง มีอะไรบ้าง
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการอันตรายที่เกิดหลังเข้ารับบริการฉีดเมโสหน้าใส จะเกิดจากการเข้ารับบริการจากคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องมือไม่สะอาด แพทย์ไม่เชี่ยวชาญมากพอ หรืออาจเจอหมอเถื่อน และส่งผลเสียตามมาสู่ผิวหนังของเราในที่สุด นั่นก็คือ ผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ ซึ่งจะมีอาการคัน ผื่นขึ้น และบวมแดงแบบไม่มีทีท่าจะยุบลง จนอาจเกิดเป็นตุ่มน้ำหนองได้ ซึ่งหากพบอาการผิดปกติเพียงแค่คัน และเป็นผื่นคล้ายลมพิษ ก็เดินทางกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็วจะดีเป็นที่สุด

เมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง
แต่ละคนมีปัญหาผิวหน้าคนละอย่าง บางคนมีมาก บางคนมีน้อย แต่รู้หรือไม่ว่าการทำเมโสหน้าใส แท้จริงแล้ว เหมาะกับใครบ้าง และเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าแบบไหนบ้าง ลองมาเช็กกันก่อนเข้ารับบริการฉีดเมโสหน้าใส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดกับปัญหามากที่สุด
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น 

  • เหมาะกับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยผิวบนใบหน้า อันเนื่องมาจากผิวแห้งกร้านหรืออยากป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต
  • เหมาะกับผู้ที่มีรอยกระดำ สีผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ อันเกิดจากรอยสิว นอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย อ่อนไหวต่อมลภาวะต่างๆ ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาแข็งแรง เสริมภูมิต้านทานให้ผิว

เมโสหน้าใส ไม่เหมาะกับใคร


แม้ว่าการฉีดเมโสหน้าใสจะเป็นการฉีดเอาวิตามิน และสารจำเป็นที่เป็นประโยชน์กับร่างกายและผิว แต่ยังก็มีข้อจำกัดในกลุ่มคนบางกลุ่มดังนี้ ที่ไม่เหมาะและยังต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับบริการ

  • ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ หรือคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังมีผิวหนังหน้าอักเสบ หรืออยู่ในภาวะติดเชื้อ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาของเลือด เช่น เลือดแข็งตัวช้า รวมถึงผู้ที่มีโรคความดันโลหิตไม่ปกติ
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ป่วยโรคเบาหวาน
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้วิตามิน หรือสารบำรุงต่างๆ
  •  

เมโสหน้าใส ฉีดได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่


สำหรับการฉีดเมโสหน้าใส สามารถฉีดเอาสารบำรุงและวิตามินเข้าสู่ร่างกายและผิวหน้าได้ตั้งแต่วัยรุ่น อายุ 16 ปีเป็นต้นไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยอยู่ในการควบคุมดูแลรวมถึงพิจารณาโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ชำนาญการหัตถการความงามโดยเฉพาะ
 
เมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดเมโสหน้าใส จะคงผลลัพธ์ หรือมีระยะการแสดงผลให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีของผิวประมาณ 1 -2 เดือน  โดยที่ร่างกายจะซึมเอาสารประโยชน์ และวิตามินที่ฉีดไปใช้ฟื้นฟูดูแลผิวจนหมด  ไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆ ไว้ในร่างกาย

ฉีดเมโสหน้าใส ต้องฉีดบ่อยไหม
สำหรับการฉีดเมโสหน้าใส ในเดือนแรก จะฉีดอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และเดือนถัดไป จะฉีดทุก 2 อาทิตย์ เพื่อรักษาสมดุลสภาพผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ

เมโสหน้าใส ต้องฉีดกี่ครั้ง ถึงจะเห็นผล
สำหรับผลลัพธ์การฉีดเมโสหน้าใส เพียงฉีดไป 1 ครั้ง ก็เห็นผลได้ทันทีแล้ว และจะค่อยๆ เก็นผลชัดเจนมากที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 7- 14 วัน

 

"เมโสเทอราปี"ช่วยฟื้นฟูผิวและขับสารพิษจากใบหน้าได้อย่างไร

ฉีดเมโสหน้าใส อยู่ได้ถาวรหรือไม่
สำหรับการฉีดเมโสหน้าใส ไม่สามาถให้ผลลัพธ์ในการฉีด 1 ครั้ง แล้วจะอยู่ได้ถาวรตลอดไป แต่จำเป็นต้องฉีดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ผลลัพธ์ดี ผิวสุขภาพดี แข็งแรงไปนานๆ 

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสหน้าใส
ก่อนเข้ารับวิตามิน หรือสารประโยชน์ด้วยการฉีดเมโสหน้าใสให้กับผิวหน้า สิ่งที่ผู้เข้ารับบริการหัตถการความงามประเภทนี้ต้องเตรียมตัวเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายให้ซึมซับดูดสารวิตามินได้ดีที่สุด นั่นก็คือการเตรียมร่างกายให้สุขภาพแข็งแรงก่อนเข้ารับบริการ และปรึกษาคุณหมอถึงโรคประจำตัว หรือยาที่กินอยู่ ณ ขณะนั้น

 

การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสหน้าใส


หลังจากเข้ารับการฉีดเมโสหน้าใสไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้เข้ารับบริการควรดูแลตัวเองในทันที เพื่อให้ผลลัพธ์ผิวที่ดี และกระตุ้นสารวิตามินต่างๆ ให้เข้าสู่ชั้นผิวและให้คุณประโยชน์กับผิวเรามากที่สุด 

"เมโสเทอราปี"ช่วยฟื้นฟูผิวและขับสารพิษจากใบหน้าได้อย่างไร

  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรงๆ และทาครีมกันแดด SPF 50+

เพื่อให้ผิวหน้าที่เพิ่งเข้ารับการฉีดเมโสหน้าใสไม่เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม โดยเฉพาะความร้อนจากแสงแดด ใน 2 วันแรกหลังเข้ารับบริการควรงดเจอแสงแดดแรงๆ หรือหากต้องออกกลางแจ้งควรทาครีมกันแดด SPF 50+

  • งดทาครีมบำรุงต่างๆ หลังเข้ารับบริการฉีดเมโสหน้าใส 1 คืน

เพื่อไม่รบกวนสารบำรุง และวิตามินต่างๆ ที่เพิ่งฉีดเข้าสู่ผิวหน้า ควรงดทาครีมบำรุงต่างๆ ที่เคยใช้ไปก่อน เป็นระยะเวลา 1 คืน

  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ 8 ชั่วโมงต่อวัน

เพราะการนอนหลับพักผ่อน เป็นช่วงที่ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แน่นอนว่าจะยิ่งไปช่วยกระตุ้นการทำงานของสารวิตามินให้เข้าสู่เซลล์ผิวหนังได้ดีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ฟื้นฟูผิวที่ต้องการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เห็นผลไวขึ้นด้วย

  • ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ และเพียงพอต่อวัน

เพราะการดื่มน้ำมากๆ นอกจากจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายแล้ว ในกรณีที่เพิ่งเข้ารับการฉีดเมโสหน้าใส จะยิ่งไปช่วยให้สารวิตามินต่างๆ ที่เพิ่งฉีดไป ดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่

เพราะในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ที่มีผลเสียต่อร่างกาย รวมถึงทำให้ผิวพรรณไม่เปล่งปลั่ง ผิวขาดน้ำ แห้งกร้าน เกิดริ้วรอย และหมองคล้ำได้ แน่นอนว่าหากงดได้ควรงดไปตลอดจะดีที่สุด

สรุป
แม้ว่าการฉีดเมโสหน้าใส จะดูเป็นหัตถการที่ไม่ต้องยุ่งยาก แทบไม่ต้องมีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ หรือดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการมากเป็นพิเศษเหมือนกับการทำหัตถการประเภทอื่น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงมากถึงมากที่สุด นั่นก็คือการเลือกเข้ารับทำหัตถาการความงาม ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามแต่ ต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ ให้คำปรึกษาและติดตามผลการรักษาอย่างใส่ใจ และต่อเนื่อง