- 04 ก.ค. 2568
เสริมจมูกทรงไหนดี เจาะลึกทุกเทคนิคเสริมจมูก ทั้งแบบ Open และ Close พร้อมแนะนำทรงจมูกที่เหมาะกับรูปหน้า และซิลิโคนแต่ละประเภท เลือกยังไงให้สวยและดูเป็นธรรมชาติ
‘เสริมจมูก’ เป็นหนึ่งในการทำศัลยกรรมยอดฮิตที่ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติและสามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับใครหลาย ๆ คน แต่สิ่งสำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามคือการเลือกทรงจมูกและซิลิโคนที่เหมาะกับใบหน้า เพราะหากเลือกไม่เหมาะสม อาจทำให้จมูกดูแข็งทื่อ ดูหลอกตา หรือเสี่ยงต่อปัญหาซิลิโคนทะลุในอนาคต ในบทความนี้ เราจะพาไปทำความเข้าใจว่า ควรเสริมจมูกแบบไหนดี และเลือกซิลิโคนอย่างไรให้สวย เข้ากับใบหน้า และสามารถเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด
- อยากเสริมจมูก ต้องดูอะไรบ้าง
การเสริมจมูกไม่ใช่แค่เรื่องของความสวย แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสมกับโครงหน้าแต่ละคน หากกำลังตัดสินใจจะทำจมูก สิ่งที่ควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ และไม่ต้องแก้ในภายหลัง มีดังนี้
- โครงสร้างจมูกเดิมของตัวเอง เช่น ดั้งเดิมมีอยู่มากน้อยแค่ไหน ปลายจมูกสั้นหรือยาว มีเนื้อปลายจมูกมากพอหรือไม่ เพราะจะมีผลต่อการเลือกทรงและชนิดของซิลิโคน
- รูปหน้ารวมทั้งหมด การเลือกทรงจมูกควรดูให้เข้ากับสัดส่วนของใบหน้า เช่น หน้าผาก คาง โหนกแก้ม เพื่อให้จมูกใหม่ดูละมุน ไม่แข็งหรือแหลมจนเกินไป
- ประเภทของซิลิโคนที่ใช้ ซิลิโคนมีหลายแบบ เช่น ซิลิโคนสำเร็จรูป ซิลิโคนเหลาเอง ซิลิโคนพรีเมียม หรือแบบที่มีโครงเสริมปลาย ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของตัวเอง
- เทคนิคหรือวิธีการเสริมจมูก เช่น เสริมแบบโอเพ่น (เปิดแผลข้างใน) หรือแบบปิด เทคนิคโอเพ่นเหมาะกับเคสที่ต้องแก้ไขโครงสร้างหลายจุด ส่วนเทคนิคปิดเหมาะกับการเสริมทรงพื้นฐาน
- ประสบการณ์ของแพทย์ ควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีรีวิวดี ใช้ซิลิโคนที่มีคุณภาพ และมีศัลยแพทย์ที่สามารถออกแบบจมูกให้เหมาะกับใบหน้าและมีการดูแลให้ปลอดภัย
- การดูแลหลังผ่าตัด อย่าลืมสอบถามเรื่องการติดตามผลหลังทำ การรับประกัน และวิธีดูแลหลังเสริมจมูก เพื่อป้องกันปัญหาซิลิโคนเบี้ยว เอียง หรือทะลุในอนาคต
- เลือกเสริมจมูกทรงไหนดี ให้เหมาะกับใบหน้า
การเลือกทรงจมูกที่เหมาะสมเป็นหัวใจสำคัญของการเสริมจมูกให้ดูเป็นธรรมชาติ ทรงจมูกที่ดีไม่ใช่แค่สวยตามเทรนด์ แต่ต้องเข้ากับโครงหน้า เนื้อจมูกเดิม และความต้องการเฉพาะของแต่ละคน ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายทรงให้เลือก โดยแต่ละทรงก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ดังนี้
- ทรงสโลปปลายพุ่ง เป็นทรงยอดนิยมที่ให้ลุคหวานละมุน แต่ยังคงความคมชัด เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อปลายจมูกพอสมควร ช่วยปรับให้ใบหน้าดูมีมิติ แต่ยังไม่แหลมจนดูแข็งเกินไป
- ทรงหยดน้ำ (Teardrop Nose) มีลักษณะสันจมูกเรียวและปลายมนกลมคล้ายหยดน้ำ ช่วยเสริมความอ่อนหวาน เหมาะกับคนที่มีเนื้อปลายจมูกมาก และต้องการลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ทรงบาร์บี้ไลน์ (Barbie Line) ทรงนี้เน้นความโด่งคมของสันจมูก โค้งไล่ระดับจากหว่างคิ้วลงมาถึงปลายจมูก เหมาะกับคนที่ต้องการลุคสวย คม ชัด
- ทรงปลายเชิดเล็กน้อย (Upturned Tip) ปลายจมูกเชิดเล็กน้อย ช่วยเพิ่มความน่ารักสดใส เหมาะกับคนที่หน้าหวานอยู่แล้ว และต้องการเพิ่มความแบ๊วแบบสาวหวาน
- ทรงสันตรงปลายมน (Straight Bridge) ลักษณะสันจมูกเป็นเส้นตรง ปลายมนกลม ดูเรียบหรู เหมาะกับคนที่มีบุคลิกมั่นใจ และชอบความเรียบง่ายแต่ดูมีระดับ
- ใบหน้าแต่ละแบบ เหมาะกับการเสริมจมูกทรงไหน
ก่อนจะตัดสินใจเสริมจมูก การวิเคราะห์รูปหน้าของตัวเองคือขั้นตอนสำคัญ เพราะใบหน้าของแต่ละคนมีมุม ความยาว ความกว้าง และโครงกระดูกที่ไม่เหมือนกัน การเลือกทรงจมูกให้สอดคล้องกับรูปหน้า จะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูละมุน สมดุล และสวยอย่างดูเป็นธรรมชาติ โดยสามารถเลือกทรงจมูกให้เข้ากับแต่ละรูปหน้าได้ดังนี้
- ใบหน้ารูปไข่ เหมาะกับทรงจมูกสโลปหรือสโลปปลายพุ่งเล็กน้อย เพราะโครงหน้านี้ได้สัดส่วนอยู่แล้ว การเพิ่มความโด่งและมิติแบบพอดีจะช่วยขับความละมุนของใบหน้าให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
- ใบหน้ากลม เหมาะกับทรงจมูกที่มีสันคมชัด ปลายพุ่งเล็กน้อย เช่น ทรงสโลปปลายพุ่ง เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูยาวขึ้นและลดความกลมมน การเลือกทรงที่มีความสูงพอประมาณจะเพิ่มความมิติได้ดี
- ใบหน้าทรงหัวใจ เหมาะกับทรงสโลปปลายหยดน้ำ หรือทรงที่ช่วยปรับปลายจมูกให้ละมุนมากขึ้น เพื่อบาลานซ์ความกว้างของหน้าผากและคางที่แหลม จมูกที่โค้งเว้าพอดีจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนโยนขึ้น
- ใบหน้าทรงเหลี่ยม เหมาะกับจมูกทรงหยดน้ำ หรือทรงสโลปปลายมน ไม่ควรเลือกทรงที่แหลมเกินไป เพราะจะเน้นกรอบหน้าที่แข็ง ทรงที่เหมาะควรช่วยถ่วงความคมของกรามให้ดูละมุนขึ้นและใบหน้าดูสมดุล
- ใบหน้ายาว เหมาะกับทรงที่ดูเป็นธรรมชาติ ปลายมน ไม่พุ่งหรือแหลมจนเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้หน้าดูยาวกว่าเดิม การเสริมจมูกให้ได้ความโค้งกำลังดีจะช่วยลดความยาวของใบหน้า และดูสมดุลมากขึ้น
- ใบหน้ารูปเพชร เหมาะกับทรงสโลปปลายพุ่งระดับกลาง เน้นความโค้งเว้าของสันจมูกที่รับกับโหนกแก้ม เพื่อช่วยให้หน้าดูเรียวลงและลดความเด่นของส่วนกลางใบหน้า
- ซิลิโคนเสริมจมูก มีกี่แบบ อะไรบ้าง
การเลือกซิลิโคนถือเป็นขั้นตอนสำคัญของการเสริมจมูก เพราะวัสดุที่ใช้ส่งผลต่อการที่จมูกจะดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงความคงทนในระยะยาว ปัจจุบันซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมจมูกมีหลากหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
- ซิลิโคนสำเร็จรูป เป็นซิลิโคนที่ขึ้นรูปมาจากโรงงาน มีหลายขนาดให้เลือก แพทย์สามารถเลือกและปรับแต่งเล็กน้อยก่อนใส่ เหมาะกับผู้ที่มีโครงจมูกมาตรฐาน ข้อดีคือใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย ราคาไม่สูง แต่ข้อเสียคือต้องเลือกขนาดที่พอดีจริง ๆ ไม่เช่นนั้นอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ซิลิโคนเหลาเคสต่อเคส แพทย์จะทำการเหลาแต่งซิลิโคนให้เข้ากับโครงสร้างจมูกของผู้รับการเสริมอย่างละเอียด จึงให้ผลลัพธ์ที่พอดี ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการความเฉพาะตัวสูงหรือมีโครงหน้าที่ไม่มาตรฐาน เช่น หน้ากว้าง เนื้อจมูกน้อย
- ซิลิโคนหุ้มด้วยเนื้อเยื่อเทียม ซิลิโคนประเภทนี้จะมีการห่อด้วยเนื้อเยื่อเทียมหรือเนื้อเยื่อจริงเพื่อลดโอกาสที่ซิลิโคนจะทะลุ เหมาะกับผู้ที่มีผิวบางหรือเคยผ่านการเสริมจมูกมาก่อน
- ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู ใช้ซิลิโคนสำหรับสันจมูก และใช้กระดูกอ่อนหลังหูมารองปลายจมูก เพื่อป้องกันการทะลุและช่วยให้ปลายจมูกดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อปลายจมูกน้อย หรือกังวลเรื่องซิลิโคนทะลุในอนาคต
- เทคนิคเสริมจมูก มีอะไรบ้าง
การเสริมจมูกในปัจจุบันมีให้เลือกหลายเทคนิค ซึ่งแต่ละแบบจะเหมาะกับปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน บางคนอาจต้องการเพียงเพิ่มความโด่งของสันจมูกเล็กน้อย ขณะที่บางคนต้องการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด การรู้จักเทคนิคเสริมจมูกแต่ละแบบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เลือกได้เหมาะสมกับโครงหน้าและลดโอกาสในการแก้จมูกในอนาคต
- โปรแกรมเสริมจมูกเทคนิค Close
โปรแกรมเสริมจมูกเทคนิค Close เป็นการเสริมจมูกโดยเปิดแผลภายในโพรงจมูกเท่านั้น ไม่มีแผลภายนอก เหมาะสำหรับคนที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว ต้องการแค่เสริมสันจมูกให้โด่งขึ้นหรือแต่งรูปทรงเล็กน้อย ข้อดีคือไม่มีรอยแผลให้เห็นจากภายนอก บวมช้ำน้อย และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ไม่สามารถปรับแต่งโครงสร้างภายในจมูกได้มากนัก จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ทรงจมูกหรือมีปัญหาโครงสร้างซับซ้อน
- โปรแกรมเสริมจมูกเทคนิค Open
โปรแกรมเสริมจมูกเทคนิค Open เป็นการผ่าตัดโดยเปิดแผลบริเวณฐานจมูกและยกเนื้อจมูกขึ้นเพื่อให้เห็นโครงสร้างภายในทั้งหมด แพทย์สามารถปรับแต่งกระดูกอ่อน ปลายจมูก หรือแม้กระทั่งใช้กระดูกอ่อนหลังหูในการรองปลายเพื่อป้องกันการทะลุ เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างจมูกใหม่ทั้งหมด แก้ปัญหาทรงเดิมที่เบี้ยว เอียง หรือเสริมแบบมีรายละเอียดมาก ข้อดีคือผลลัพธ์สามารถออกแบบได้ทุกอย่าง แต่จะมีรอยแผลเล็ก ๆ ที่ฐานจมูก และต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเทคนิคอื่น
- โปรแกรมเสริมจมูกเทคนิค Semi-Open
โปรแกรมเสริมจมูกเทคนิค Semi-Open เป็นเทคนิคกึ่งกลางระหว่าง Close และ Open โดยจะมีการเปิดแผลภายในโพรงจมูกเหมือนเทคนิคปิด แต่จะเปิดเยอะกว่าทั่วไปเพื่อให้เห็นโครงสร้างมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับแต่งเฉพาะบางจุด เช่น ปลายจมูกหรือฐานจมูก โดยไม่ต้องเปิดทั้งหมดเหมือนเทคนิค Open ข้อดีคือให้ผลลัพธ์ที่สามารถออกแบบได้มากกว่าเทคนิคปิด แต่ยังคงมีแผลน้อยและใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าแบบเปิด เหมาะกับเคสที่ต้องการความละเอียดระดับปานกลาง
- เสริมจมูก ราคาเท่าไหร่
ราคาการเสริมจมูกขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือกและความซับซ้อนของเคส โดยที่ APEX จะมี 2 เทคนิคหลัก ได้แก่ โปรแกรมเสริมจมูกแบบ Close ราคาอยู่ที่ 35,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว ต้องการเพิ่มความโด่งหรือปรับรูปทรงเพียงเล็กน้อย โดยมีข้อดีคือแผลเล็ก และดูเป็นธรรมชาติ
ส่วนอีกหนึ่งเทคนิคคือ โปรแกรมเสริมจมูกแบบ Open ซึ่งมีราคาอยู่ที่ 120,000 บาท เหมาะสำหรับเคสที่ต้องการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด เช่น แก้จมูกเบี้ยว ปลายจมูกสั้น หรือเนื้อปลายน้อย เทคนิคนี้แพทย์จะสามารถเปิดเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ชัดเจน ทำให้สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียด
- สรุป เสริมจมูกแบบไหนดี
การเสริมจมูกที่ดีที่สุดคือการเลือกให้เหมาะกับตัวเรามากที่สุด ไม่ใช่ตามกระแสหรือตามแบบของคนอื่น เพราะแต่ละคนมีโครงหน้า เนื้อจมูก และปัญหาที่แตกต่างกัน หากคุณมีโครงสร้างจมูกดีอยู่แล้ว ต้องการปรับเล็กน้อย เสริมจมูกแบบ Close อาจเพียงพอและให้ผลลัพธ์ที่สวยละมุนเป็นธรรมชาติ แต่หากต้องการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด หรือมีปัญหาทรงจมูกเดิม การเลือกเทคนิค Open จะตอบโจทย์มากกว่า แต่ที่สำคัญที่สุดคือควรปรึกษาแพทย์ เพื่อวางแผนและออกแบบจมูกให้เหมาะกับรูปหน้า เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี
หากสนใจโปรแกรมเสริมจมูก ที่ APEX สามารถจองคิวเพื่อสอบถามและปรึกษากับศัลยแพทย์ หรือใครที่มีข้อสงสัยและคำถามเพิ่มเติม สามารถทักเข้ามาสอบถามได้เลยค่ะ
- ช่องทางการติดต่อ
Tel : 080-500-0123
Line : @apexbeauty
Tiktok : apexprofoundbeauty
Facebook : APEX Hospital & Beauty Clinic
Instagram : apexbeauty
Youtube : Apex Beauty Clinic
X (Twitter) : ApexProfound
Website : www.apexmedicalcenter.co.th






