ส่องประวัติ Rolex Deep Sea เพื่อนคู่ใจนักดำน้ำ พาสำรวจท้องทะเลลึกระดับหมื่นฟุต!

ส่องประวัติ Rolex Deep Sea ไอเทมคู่ใจของนักท่องใต้ทะเลลึก พาสำรวจท้องทะเลลึกระดับหมื่นฟุต! ด้วยกลไกการผลิตที่พิถีพิถัน การเลือกใช้วัดุคุณภาพสูง

ในบรรดาแบรนด์นาฬิการะดับโลกที่ทุกคนรู้จัก แบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ Storytelling แต่ละรุ่นที่โดดเด่น น่าสนใจ เป็นที่ต้องการของนักสะสม คงหนีไม่พ้นแบรนด์ Rolex แน่นอน ด้วยกลไกการผลิตที่พิถีพิถัน การเลือกใช้วัดุคุณภาพสูง พร้อมด้วยฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เหล่ามืออาชีพเฉพาะในด้านต่างๆ อย่างรุ่น Rolex Deep Sea ไอเทมคู่ใจของนักท่องใต้ทะเลลึก ทนทานต่อแรงดันในน้ำลึก ผ่านการท่องใต้ทะเลมากกว่าพันเมตร! ในการเดินทางของ Rolex Deep Sea มาพร้อมกับประวัติศาสตร์การท่องท้องทะเลลึกจะมีความเป็นมาอย่างไรบ้าง บทความนี้จะพาไปย้อนอดีต ท่องกาลเวลาไปกับ Rolex Deep Sea เพื่อนคู่ใจนักสำรวจแห่งท้องทะเลสู่ร่องลึกก้นสมุทรมาฝากกัน!

ส่องประวัติ Rolex Deep Sea เพื่อนคู่ใจนักดำน้ำ พาสำรวจท้องทะเลลึกระดับหมื่นฟุต!

  • ต้นกำเนิด กว่าจะเป็น Rolex Deep Sea

จากความมุ่งมั่นของ Rolex ในการสร้างนาฬิกาที่สามารถทนทานต่อแรงดันมหาศาลใต้ทะเลลึกได้ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 Rolex ได้ริเริ่มพัฒนานาฬิกาดำน้ำที่แข็งแรงทนทาน เดิมเคยมีรุ่นต้นแบบอย่าง Rolex Submariner ที่สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร ต่อมาจึงพัฒนาเป็น Rolex Deep Sea และถูกนำไปติดตั้งภายนอกเรือดำน้ำ Trieste เพื่อดำดิ่งสู่จุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรแปซิฟิกที่ระดับ 10,916 เมตร (35,797 ฟุต)

 

การทดลองครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันขีดจำกัดความสามารถของนาฬิกาในการทนแรงดันน้ำลึก และผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าพอใจ Rolex จึงได้นำจุดแข็งด้านกลไก วัสดุเกรดพรีเมียม และหน้าปัดมาผสมผสานกัน จนกระทั่งในปี 2008 Rolex Deep Sea ก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ด้วยความสามารถที่เหนือชั้นในการทนแรงดันน้ำได้ลึกถึง 3,900 เมตร (12,800 ฟุต)

 

  • ฟังก์ชันที่ออกแบบมาเพื่อการดำน้ำโดยเฉพาะ

Rolex Deep Sea ได้รับการออกแบบมาเพื่อการดำน้ำโดยเฉพาะ พร้อมด้วยระบบ Ringlock ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของตัวเรือน ทำให้นาฬิกาสามารถทนทานต่อแรงดันมหาศาลใต้ทะเลลึกได้ดี ตัวเรือนขนาด 44 มม. ผลิตจาก Oystersteel หรือทองคำ 18 กะรัต พร้อมคริสตัลแซฟไฟร์ทรงโดมที่หนาเล็กน้อย เพื่อทนต่อแรงกดดันอย่างสูง หน้าปัดมีโครมาไลท์สารเรืองแสงที่พัฒนาโดย Rolex ช่วยให้อ่านเวลาในความมืดได้อย่างชัดเจนในน้ำลึก ขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียวมาพร้อมขอบหน้าปัด Cerachrom ที่ทำจากเซรามิกเทคโนโลยีสูง มีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและไม่ซีดจางจากรังสี UV ช่วยให้นักดำน้ำสามารถควบคุมเวลาใต้น้ำได้อย่างปลอดภัย

Deep Sea Challenge กับการเดินทางสู่ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนาในปี 2012
ในปี 2012 Rolex Deep Sea Challenge ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสำรวจความลึกของมหาสมุทรที่ร่องลึกมาเรียนา โดยเป็นการร่วมมือกับ James Cameron ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังที่ดำดิ่งลงสู่ความลึก 10,908 เมตร (35,787 ฟุต) ด้วยเรือดำน้ำ Deepsea Challenger ภารกิจนี้ถือเป็นการดำน้ำลึกเดี่ยวครั้งแรกและใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ซึ่งมีส่วนที่อยู่ใต้ทะเลลึก 3 ชั่วโมงเพื่อถ่ายทำและเก็บตัวอย่าง Scientific โดย Rolex ได้พัฒนานาฬิกา Deep Sea Challenge ที่สามารถทนแรงกดดันได้ถึงระดับ 15,000 เมตร (49,200 ฟุต) และถูกติดตั้งที่แขนของเรือดำน้ำและต้องเผชิญกับสภาวะแรงดันน้ำมหาศาล แต่ Rolex Deep Sea ยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์ตลอดจนจบภารกิจ ทำให้ Rolex Deep Sea กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความพยายามที่ไม่หยุดยั้งในการสำรวจใต้ทะเลไปอีกขั้น

จากความพยายามของ Rolex สู่เพื่อนคู่ใจของนักดำน้ำ ที่พัฒนาจากความมุ่งมั่นต้องการสร้างนาฬิกาทนทานต่อแรงดำน้ำมหาศาลต่อยอดจาก Rolex Submariner ทำให้ในปี 2008 Rolex Deep Sea จึงได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมความสามารถในการทนแรงดันน้ำได้ถึง 3,900 เมตร (12,800 ฟุต) และยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งการสำรวจใต้ทะเลอย่างไม่หยุดยั้ง โดยนาฬิกาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของ James Cameron ในการสำรวจร่องลึกมาเรียนาที่ความลึก 10,908 เมตร และยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์

 

ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความแข็งแกร่งและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของ Rolex ได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่กำลังมองหาเพื่อนคู่ใจที่พร้อมเดินทางไปกับคุณ Pendulum ตัวแทนจำหน่าย Rolex อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำ Rolex ที่ตอบโจทย์สไตล์และความเป็นคุณ เพื่อให้การใส่นาฬิกาเป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลา แต่เป็นตัวตนของคุณ!