- 12 พ.ย. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม www.tnews.co.th
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส ,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) เผยผลสำรวจความรับรู้ของประชาชนทั่วไปในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกี่ยวกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 6-11 พ.ย.59 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,189 คน
ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความรับรู้เกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ร้อยละ 27.42 ระบุว่า ตนเองรู้จักเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเพลงสายฝนเป็นเพลงแรก
ร้อยละ 20.02
ขณะที่ร้อยละ 14.38 รู้จักเพลงใกล้รุ่งเป็นเพลงแรก
ร้อยละ 10.93 รู้จักเพลงยามเย็นเป็นเพลงแรก
ร้อยละ 9.17 รู้จักเพลงแสงเทียนเป็นเพลงแรก
ร้อยละ 5.47 รู้จักเพลงแสงเดือน
ร้อยละ 4.37 รู้จักพรปีใหม่
ร้อยละ 3.78 รู้จักเราสู้
และร้อยละ 2.61 รู้จักความฝันอันสูงสุดเป็นเพลงแรกตามลำดับ
ร้อยละ 1.85 รู้จักเพลงอื่นๆ
สำหรับเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่กลุ่มตัวอย่างชอบมากที่สุด 5 อันดับได้แก่
ร้อยละ 86.54 สายฝน
ร้อยละ 84.95 ชะตาชีวิต
ร้อยละ 82.51 ใกล้รุ่ง
ร้อยละ 80.15 ยามเย็น
ร้อยละ 76.87แสงเทียน
ส่วนสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างได้รับจากการฟังเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมากที่สุด 3 อันดับคือ
ได้ความสุข/ความเพลิดเพลินคิดเป็นร้อยละ 84.52
ได้รู้สึกใกล้ชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์คิดเป็นร้อยละ 82.42
ได้ทราบถึงพระปรีชาสามารถด้านดนตรีคิดเป็นร้อยละ 79.65
ในด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ร้อยละ 79.48 มีความคิดเห็นว่าหากสถานศึกษาจัดให้เด็กนักเรียนได้ขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นประจำทุกสัปดาห์จะมีส่วนช่วยให้เด็กเยาวชนรุ่นหลังให้ความสนใจศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมากขึ้นได้
ขณะเดียวกันร้อยละ 76.87 มีความคิดเห็นว่าเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีส่วนช่วยให้ผู้คนในชาติเกิดความรักสามัคคีกันได้
ร้อยละ 86.04 เห็นด้วยหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดทำเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นแถบบันทึกเสียงเพื่อแจกให้กับทุกครัวเรือนได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระปรีชาสามารถด้านดนตรีทั้งด้านการทรงเครื่องดนตรี การพระราชนิพนธ์เนื้อเพลงและทำนอง รวมถึงการเรียบเรียงเสียงประสาน ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่ทั้งผสกนิกรไทยโดยทั่วไปตลอดจนชาวต่างชาติ ทั้งนี้พระองค์ทรงมีความสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับดนตรีมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์และทรงเริ่มเรียนดนตรี เมื่อมีพระชนมายุ 13 พรรษา ขณะประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กับครูชาวอัลซาส ชื่อ นายเวย์เบรชท์ โดยทรงเรียนการเป่าแซกโซโฟน วิชาการดนตรี การเขียนโน้ต และการบรรเลงดนตรีสากลต่าง ๆ จนทรงมีความเชี่ยวชาญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเริ่มพระราชนิพนธ์เพลง เมื่อมีพระชนมพรรษาได้ 18 พรรษา
โดยมีบทเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งสิ้น 48 เพลง เพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง และคำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เอง มี 5 เพลง คือ "Echo", "Still on My Mind", "Old-Fashioned Melody", "No Moon" และ "Dream Island" นอกจากนี้ มีเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองขึ้นภายหลังใส่ในคำร้องที่มีผู้ประพันธ์ไว้แล้ว คือ ความฝันอันสูงสุด เราสู้ และ รัก
ผู้ที่โปรดเกล้าฯ ให้แต่งคำร้องประกอบเพลงพระราชนิพนธ์มีหลายท่าน ได้แก่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์, ศาสตราจารย์ ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา, ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร, ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา, นายจำนงราชกิจ (จรัล บุณยรัตพันธุ์), ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ม.ล.ประพันธ์สนิทวงศ์ และท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค เป็นต้น
ในยุคแรก หลังจากที่เพลงพระราชนิพนธ์มีทำนองและคำร้องสมบูรณ์แล้ว จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน นำไปบรรเลงในวงดนตรีกรมโฆษณาการหรือวงกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้แพร่หลายทั่วไป และโดยพระองค์ท่านเองทรงดนตรีร่วมกับวงดนตรี วง อ.ส. วันศุกร์ ออกอากาศ ปรากฏว่าหลายเพลงกลายเป็นเพลงยอดนิยมทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ในระยะหลังพระองค์มีพระราชกรณียกิจมากมาย ทำให้พระองค์ทรงไม่มีเวลาที่จะทรงพระราชนิพนธ์เพลงใหม่ๆออกมา เพลงสุดท้ายที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ออกมาคือเพลง "เมนูไข่" เป็นเพลงแนวสนุกสนาน เนื้อร้องโดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเป็นของขวัญวันพระราชสมภพครบ 72 พรรษาแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2538
เพลงพระราชนิพนธ์
- แสงเทียน (Candlelight Blues)
- ยามเย็น (Love at Sundown)
- สายฝน (Falling Rain)
- ใกล้รุ่ง (Near Dawn)
- ชะตาชีวิต (H.M. Blues)
- ดวงใจกับความรัก (Never Mind the Hungry Men’s Blues)
- มาร์ชราชวัลลภ (Royal Guards March)
- อาทิตย์อับแสง (Blue Day)
- เทวาพาคู่ฝัน (Dream of Love Dream of You)
- คำหวาน (Sweet Words)
- มหาจุฬาลงกรณ์ (Maha Chulalongkorn)
- แก้วตาขวัญใจ (Lovelight in My Heart)
- พรปีใหม่
- รักคืนเรือน (Love Over Again)
- ยามค่ำ (Twilight)
- ยิ้มสู้ (Smiles)
- มาร์ชธงไชยเฉลิมพล (The Colours March)
- เมื่อโสมส่อง (I Never Dream)
- ลมหนาว (Love in Spring)
- ศุกร์สัญลักษณ์ (Friday Night Rag)
- Oh I say
- Can’t You Ever See
- Lay Kram Goes Dixie
- ค่ำแล้ว (Lullaby)
- สายลม (I Think of You)
- ไกลกังวล (When), เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย
- แสงเดือน (Magic Beams)
- ฝัน (Somewhere Somehow), เพลินภูพิงค์
- มาร์ชราชนาวิกโยธิน (Royal Marines March)
- ภิรมย์รัก (A Love Story)
- Nature Waltz
- The Hunter
- Kinari Waltz
- แผ่นดินของเรา (Alexandra)
- พระมหามงคล
- ยูงทอง
- ในดวงใจนิรันดร์ (Still on My Mind)
- เตือนใจ (Old-Fashioned Melody)
- ไร้เดือน (No Moon), ไร้จันทร์
- เกาะในฝัน (Dream Island)
- แว่ว (Echo)
- เกษตรศาสตร์
- ความฝันอันสูงสุด (The Impossible Dream)
- เราสู้
- เรา-เหล่าราบ ๒๑ (We-Infantry Regiment 21)
- Blues for Uthit
- รัก
- เมนูไข่
ที่มา สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา)
เรียบเรียงโดย : วัสดา สำนักข่าวทีนิวส์