หายสงสัย!! ทนายไฮโซหนุ่ม เคลียร์ชัดทุกประเด็น หลังเพจปลอมกุข่าว จัดฉากชนลัมโบร์กินี หวังผลธุรกิจ!!

 

จากกรณีมีการเผยแพร่ ภาพเหตุการณ์ ไฮโซหนุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ เป็นเอก ซังปาน  ทราบภายหลังว่าชื่อคุณโอ ธณเมศวร์ ซังปาน เป็นผู้บริหารระดับสูง ที่ บริษัท ธณเมศวร์ จำกัด , บริษัท ฟีโอร่า(ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท มายทัช ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ซูเปอร์คาร์ลัมโบร์กินีป้ายแดง ถูกพ่อค้าปลานึ่งขับรถกระบะชนท้าย แต่รถกระบะคันดังกล่าวไม่มีประกัน และได้คุยกับคนขับกระบะ บอกเพียงว่ามัวแต่ชื่นชมรถหรูคันดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้เกิดชนท้าย โดยในเหตุการณ์วันนั้นคนขับลัมโบร์กินี ไม่ใช่คุณโอเจ้าของรถลัมโบร์กินี แต่เป็นคนขับรถขับไปในวันนั้น พอเกิดเหตุทางคุณโอ เจ้าของลัมโบร์กินี ได้โทรเคลียร์กับเจ้าของรถกระบะ พ่อค้าขายปลานึ่งแจงว่าตนไม่เงินชดใช้ค่าเสียหายได้ทั้งหมด เพราะเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำเท่านั้น ทางคุณโอเจ้าของรถลัมโบร์กินี จึงให้ชดใช้เพียง 30,000 บาทโดยการผ่อนจ่ายเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 10 เดือน และ ให้เอาเงินที่จะผ่อนคืนให้เดือนละ 3,000 บาทไปทำบุญแทน  พร้อมทิ้งท้ายด้วยประโยคสุดโดนใจว่า "...ผมไม่ได้จะมาอวดความดีอะไรนะครับ แต่แค่อยากให้สังคมให้อภัยกัน ยิ้มให้กัน "รถแพงแล้วไง" ถ้าคนชนไม่ได้มีเจตนาก็ให้อภัยกันได้ครับพี่น้อง เราคนไทยด้วยกัน ให้กำลังใจกันดีกว่าครับ…"  จนชาวโซเชียลแห่ชื่นชมแชร์สนั่นโลกออนไลน์

 

 

แต่ก็ไม่วายโดนกระแสจากผู้ไม่ประสงค์ดีออกมาโจมตี หาว่าจัดฉากสร้างภาพหวังเรียกกระแสทางธุรกิจ พร้อมทั้งมีเพจปลอมลงข่าวมั่วหวังสร้างความเข้าใจผิด

 

 

ล่าสุด ทางด้านคุณโอ -ธณเมศวร์ ซังปาน เจ้าของรถลัมโบร์กินี ได้ส่งทนายคุณเอกสิทธิ์ ศรีสังข์ พร้อมทั้งคนขับรถลัมโบร์กินีในวันเกิดเหตุ คุณณัทธร รอดเปรี้ยวและคุณทิน มีโค่ม คนขับกระบะที่ขับมาชน ได้เดินทางมาที่ สถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับเพจและเว็บไซต์ที่ลงข่าวโจมตีบิดเบือนความจริงสร้างความเข้าใจผิดให้แก่เจ้าของรถลัมโบร์กินี อีกทั้งยังได้แถลงข่าวชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับบรรดาสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว

 

 

โดยทนายคุณเอกสิทธิ์ ศรีสังข์  ชี้แจงว่า "ยืนยันในกรณีดราม่าที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลและสื่อต่างๆ ระหว่างเจ้าของรถลัมโบร์กินี ถูกกระบะชน แล้วให้คู่กรณีนำเงินชดใช้ไปทำบุญแทน มีการเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริส่วนที่มีคนมองว่าจัดฉากเพื่อสร้างกระแสหาผลประโยชน์ทางธุรกิจนั้นไม่เป็นความจริง และไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนทำแบบนั้น เพราะรถลัมโบร์กินี คันนี้เพิ่งจะใส่ชุดแต่งมาใหม่มูลค่าล้านกว่าบาทเพียงไม่กี่วันคงไม่คุ้มที่จะเอามาจัดฉากเพียงเพราะเพื่อสร้างกระแส และเหตุการณ์ในวันนั้นเกิดในที่สาธารณะ ยากที่จะจัดฉาก พร้อมทั้งได้ตำรวจมายืนยันในวันเกิดเหตุอีกด้วย หากไม่จริง จะต้องมีความผิดทางกฎหมายแน่นอน ส่วนเว็บที่ปล่อยข่าวได้ทำการตรวจสอบแล้วไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีแหล่งที่มาที่แน่ชัดและเป็นของต่างประเทศอีกด้วย พร้อมดำเนินคดีจนถึงที่สุด เผยทางด้านคุณโอ ธณเมศวร์ ซังปาน เจ้าของรถลัมโบร์กินีเสียใจเป็นอย่างมากกับข่าวทำดีสร้างกระแสที่เกิดขึ้น"

 

 

 

 

ทางด้านคุณทิน มีโค่ม คนขับกระบะ ได้กล่าวว่า "วันนั้นระหว่างขับรถอยู่ดีๆ ก็เห็นรถลัมโบร์กินีคันดังกล่าว ก็บอกให้ภรรยาดู แล้วชื่นชมรถหรูตลอดทาง ซึ่งการจราจรขณะนั้นหนาแน่นมาก พอถึงจังหวะรถกระบะตนกำลังจะขึ้นที่สูงต้องเร่งเครื่องทำให้ไปชนเข้ากับรถลัมโบร์กินีคันดังกล่าว ในใจก็กลัวมากเพราะลำพังตนไม่มีปัญญาจ่ายค่าเสียหายแน่ๆ กังวลไปหมด จนได้คุยกับคุณโอ (เจ้าของรถลัมโบร์กินี) ทางโทรศัพท์ที่ คุณณัทธร รอดเปรี้ยว (คนขับรถ) ยื่นให้คุย โดยตนบอกกับคุณโอว่าตนขายของหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินจ่ายค่าเสียหายให้มากมายได้ แต่คุณโอก็เห็นใจ ไม่เอาผิดและให้จ่ายค่าเสียหายเพียง 30,000 บาท โดยกาผ่อนจ่ายเดือนละ 3,000 บาท เป็นเวลา 10 เดือน และ ให้เอาเงินที่จะผ่อนคืนให้เดือนละ 3,000 บาทไปทำบุญแทน ตนดีใจมากเพราะไม่เคยเจอคนดีขนาดนี้มาก่อน ถ้าเป็นคนอื่นตนคงแย่ไปแล้วแน่ๆ พอมีข่าวว่ามีการจัดฉาก โดนจ้างมาสร้างกระแสจากเพื่อนๆคนอื่นที่เอาข่าวมาให้ดู เพราะตนเป็นคนไม่เล่นโซเชียล เพราะเล่นไม่เป็น จึงไม่สบายใจ ไม่อยากให้คนดีๆอย่างคุณโอต้องมาโดนกระแสแบบนี้ เลยอยากออกมายืนยันแสดงความบริสุทธิ์ให้กับคุณโอว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความจริง ตนมีตัวตนจริงๆ ซึ่งเป็นพ่อค้าขายของตามตลาดนัดแถวจังหวัดนนทบุรี โดยเพื่อนแถวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าจะรู้จักตนดี พิสูจน์ได้"

 

 

ทั้งนี้ยังได้บอกว่าได้มอบพระเป็นของตอบแทนน้ำใจของคุณโอ อาจไม่มีค่ามากมาย แต่มีค่าทางจิตใจ ทั้งนี้ล่าสุดที่ได้คุยกับคุณโอ เขายังลดค่าเสียหายให้เหลือเพียง 10,000 บาท โดยการผ่อนจ่ายเดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 10 เดือน โดยการนำเงินไปทำบุญเหมือนเดิม สุดท้ายอยากฝากถึงผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่คิดโจมตีคุณโอให้หยุด เพราะตนทนไม่ได้ที่จะเห็นคนดีๆต้องโดนอะไรแบบนี้  คนขับกระบะ กล่าวทิ้งท้าย