วังช้างกรุงเก่า ยอมให้ตรวจ DNA "พลายเกาะพยาเพ็ชร-พลายทีจี" ลบข้อครหา ช้างป่าสวมสิทธิ์ช้างบ้าน

 

จากกรณีนายชัยวัฒน์   ลิ้มลิขิตอักษร  ผู้อำนวยการส่วนต้นน้ำสำนักอนุรักษ์ ที่ 1 (ปราจีนบุรี)  หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ "พญาเสือ"  กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นชุดตรวจสอบ "หัวหินทีค" แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเมืองหัวหิน เลขที่ 99/9 หมู่ 3 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์    ซึ่งเปิดสวนสัตว์ขนาดเล็กโชว์การแสดงสัตว์ต่างๆ บนเนื้อที่ราว 45 ไร่ ภายในซอยหัวหิน 112   แล้วมีการอายัดช้าง "พลายเกาะพยาเพ็ชร" และ "พลายทีจี"     ไว้เพื่อตรวจสอบห้ามขนย้าย   โดยอ้างว่าเป็นช้างป่ามาสวมทะเบียนเป็นช้างบ้าน    เมื่อมาตรวจสอบอีกครั้ง แล้วไม่พบช้างทั้ง 2 เชือก   ได้ถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านช้างเพนียดคล้องช้างอยุธยา  จนนายชัยวัฒน์   ลิ้มลิขิตอักษร  ผู้อำนวยการส่วนต้นน้ำสำนักอนุรักษ์ ที่ 1 (ปราจีนบุรี)  หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ "พญาเสือ"  กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช   ออกโรงเอาผิดผู้เคลื่อนย้ายช้าง  จนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวช้าง ออกมาตอบโต้ว่าช้างทั้งสองเชือก ไม่ใช่ช้างป่า แต่เป็นช้างที่เกิดในเพนียด  ท้าให้มีการตรวจดีเอ็นเอ  แล้วจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่ทำให้เสียชื่อเสียง  111 ล้านบาท

 

 

นายอดิสร  นุชดำรงค์   รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  พร้อมด้วย  นายชัยวัฒน์   ลิ้มลิขิตอักษร  ผู้อำนวยการส่วนต้นน้ำสำนักอนุรักษ์ ที่ 1 (ปราจีนบุรี)  หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ "พญาเสือ"  กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางมาที่หมู่บ้านช้างเพนียดหลวง   ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาตรวจช้างทั้งสองเชือกที่เคลื่อนย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านช้างเพนียดหลวงแห่งนี้  โดยทางเจ้าของวังอยุธยาแลเพนียดและควาญช้างได้น้ำช้างพลายสยามอายุ27 ปีและพลายงาทอง อายุ 30 ปี มายืนขวางทางที่ปากทางเข้าหมู่บ้านช้างเพนียดหลวง โดยนายอดิสร  นุชดำรงค์   รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  ได้เรียกนางร่มทองทราย   มีพันธ์ เพื่อขอคุยทำความเข้าใจเป็นการส่วนตัวก่อนที่จะเข้าตรวจสอบ    ซึ่งนางร่มทองทราย ยังคงยืนยันว่าช้างทั้งสองเชือกที่มีปัญหาเป็นช้างบ้านที่เกิดในเพนียด  ไม่ใช่ช้างป่ามาสวมทะเบียนอย่างที่ทางนายชัยวัฒน์ฯ  กล่าวอ้าง 

 

 

 

จากนั้น  ชัยวัฒน์ฯ ได้นำเอกสารหลักฐานในการตรวจสอบรูปพรรณช้างมาชี้แจงให้กับนายลายทองเหรียญ  มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยาแลเพนียด นายเรียงทองบาท  มีพันธ์ ผู้จัดการวังช้างฯและกลุ่มคนเลี้ยงช้างทราบถึงเหตุผลที่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  ต้องตรวจสอบช้างทุกเชือกให้ถูกต้องเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์การนำช้างป่ามาสวมทะเบียนเป็นช้างบ้าน  สำหรับกรณี "พลายเกาะพยาเพ็ชร" และ "พลายทีจี" อยู่ในข่ายแค่ต้องสงสัย หากมีเอกสารหลักฐานการขึ้นทะเบียน มายืนยันหรือมีการตรวจสอบดีเอ็นเอ ตรงกันก็จะถอนอายัด

 

นายลายทองเหรียญ  มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยาแลเพนียด   กล่าวว่า ทางวังช้างอยุธยาแลเพนียด ยินดีและให้ความร่วมมือเสมอ  ในการตรวจสอบดีเอ็นเอ  เพื่อความถูกต้อง และความบริสุทธิ์ใจ แต่อย่ามากล่าวหากันลอยๆว่าเอาช้างป่ามาสวมสิทธ์เป็นช้างบ้าน อันนี้ตนเสียหาย

 

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าได้นำช้าง "พลายเกาะพยาเพ็ชร" และ"พลายทีจี"  พังน้ำหวาน ซึ่งเป็นแม่ พลายทีจี และ พลายงาทอง ซึ่งเป็นพ่อพันธ์ มาทำการตรวจไมโครชิฟ และ เจาะเลือด เพื่อนำเลือดไปตรวจดีเอ็นเอ อีกครั้ง น่าจะรู้ผลไม่เกิน 2 อาทิตย์

 

 

 

นายอดิสร  นุชดำรงค์   รองอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  กล่าวว่า ในการตรวจสอบช้าง ตามคำสั่ง คสช. ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะดำเนินการตรวจสอบทั่วประเทศ ให้เสร็จสิ้นภายในเดือน มีนาคม 2560  หากเจ้าหน้าที่มีการอายัดไว้ตรวจสอบ  เจ้าของช้างสามารถนำเอกสารตั๋วรูปพรรณ ผลการตรวจดีเอ็นเอ มายีนยันได้ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้ความเป็นธรรมในการถอนอายัด  แต่ถ้าไม่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

 

 

 

สำหรับ "พลายทีจี  และ พลายเกาะพยาเพ็ชร" ที่มีปัญหาเกิดจากความเข้าใจกันคนละความหมาย โดยเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบในครั้งแรก ไม่พบตั๋วรูปพรรณเพราะช้างมีอายุไม่ถึง 8 ปีจึงไม่มีตั๋วรูปพรรณ จึงต้องมีการอายัดไว้ตรวจสอบ แต่หลังจากที่มีการนำเลือดไปตรวจดีเอ็นเอ "พลายทีจี" และ  พังน้ำหวาน ซึ่งเป็นแม่ พลายทีจี ผลเลือดตรงกัน จึงไม่ถือว่าเป็นช้างป่ามาสวมสิทธิ์   ส่วน  "พลายเกาะพยาเพ็ชร" ต้องนำผลเลือดไปตรวจสอบอีกทีว่าตรงกับพังปุ๊กกี้ซึ่งตอนนี้อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่งว่าผลตรวจดีเอ็นเอตรงกันหรือไม่อีกครั้งหนึ่ง  จึงให้ทางหมู่บ้านช้างอยุธยาเพนียดหลวงดูแลไปชั่วคราวก่อนแทนการอายัด    ทั้งสองฝ่ายได้ทำความเข้าใจกัน และเข้าใจตรงกันช่วยกันสร้างช้างบ้านให้อยู่ในบรรทัดฐานถูกก็ว่าถูกผิดก็ว่าผิด ตามคำสั่ง คสช.ตรวจDNAวิเคราะห์เหลือช้างอีกประมาณ 1,000 เชือกต้องนำหลักฐานมาตรวจให้เสร็จก่อนวันที่ 28 มีนาคม 2560

 

 

 

ทางด้านนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ "พญาเสือ" กล่าวว่า ผมดีใจและภูมิใจที่สมาคม มูลนิธิ ชาวช้างไม่มีอะไรแอบแฝงให้ความร่วมมือ ขอบคุณชาวช้างอยุธยาและทั่วประเทศ ร่วมมือพ.ร.บ.2 ฉบับ ช้างบ้านและช้างพาหนะ หาทางแก้ไขประมาณ 1 เดือนชื่อเสียงประเทศไทยและการท่องเที่ยว ผมก็รักประเทศ ส่วนขบวนการปลอมเอกสารเอาสำเนามาแก้ชื่อมีมานาน 10 ปีแล้วผมจะเดินให้สุดทางกับบุคคลกลุ่มนี้

 

 

 

ภาพ / ข่าว : เกียรติยศ  ศรีสกุล  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.พระนครศรีอยุธยา

 

เรียบเรียง : พัทธนันท์ สำนักข่าวทีนิวส์