กำนันสนอง รับงานฆ่าสาวทอม คสช.สอบตกปราบผู้มีอิทธิพลหรือไม่!?(รายละเอียด)

จากกรณีที่นายสนอง สมสิทธิ์ อายุ 54 ปี กำนันตำบลลาดบัวขาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวตามหมายศาลจังหวัดตลิ่งชัน ในข้อหาใช้จ้างวานให้ผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น , หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น,ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย

ทั้งนี้ยังมีการให้การด้วยว่า ตนนั้นรู้จักกับ พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เพียงไม่นานมากนัก จากนั้นช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พ.ต.อ.อำนวยได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาพร้อมเล่าว่าไม่พอใจ น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง หรือหญิง ในเรื่องของการพูดจาเหยียดหยามเรื่องชู้สาวผ่านทางเฟซบุ๊กในลักษณะพูดถึงอวัยวะเพศของตน และขณะที่ น.ส.กรรณิกา กรุมรัมย์ หรือดาว อยู่กับ พ.ต.อ.อำนวยนั้น น.ส.สุภัคสรณ์ก็จะโทรศัพท์มาหา พ.ต.อ.อำนวย พร้อมระบุว่า “เอาเมียกูคืนมา” รวมถึงเรื่องเงินจำนวน 4-5 ล้านบาทจึงได้สั่งให้นายสนองฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ และติดต่อไปทางนายนิวัฒน์ สวยทอง หรือโจ๊ก อายุ 32 ปี ให้จัดการเรื่องดังกล่าว

สำหรับนายสนอง สมสิทธิ์  ถือเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่เดิมทำธุรกิจสีเทา ทั้งค้ายา ปล่อยเงินกู้ และทำหวยเถื่อน โดยเปิดกิจการรับซื้อของเก่าบังหน้า  (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมhttp://77jowo.tnews.co.th/contents/220507/ เปิดประวัติ "กำนันสนอง" รับงานฆ่าสาวทอม เหตุเพียงเพราะ เรื่องของสงวน !?!)

ซึ่งหากดูจากข้อมูลข้างต้นนั้นก็พบว่านายสนองนั้นมีส่วนเกี่ยวพันกับการรับจ้างฆ่าคนหรือมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล ซุ้มมือปืน ซะเอง  ซึ่งเมื่อเราตรวจสอบ ซุ้มมือปืนหรือมือปีนในประเทศไทย พบข้อมูลที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง

 

ซึ่งกลุ่มมือปืนมีหลากหลายอาชีพ ส่วนใหญ่เป็นตำรวจ ทหาร ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านเข้ามาเป็นมือปืนโดยอาชีพ การรับงานจะได้รับการติดต่อจากผู้ว่าจ้าง ว่ามีงานฆ่าใคร ตกลงเรื่องเงิน โดยทั่วไปคิดอัตราค่าจ้าง 1 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท โดยวางเงินก่อนลงมือ 50% ส่วนใหญ่แล้วจะมีการว่าจ้างกันมาเป็นทอดๆ และจัดหาปืนมาให้พร้อมสรรพครั้งละ 2 กระบอกเป็นอย่างต่ำ เพื่อป้องกันการผิดพลาด หลังจากงานเสร็จจ่ายส่วนที่เหลือ บางคนพลาดก็ยอมยิงตัวตาย หรือไม่ก็ติดคุก 4-5 ปีก็ออกมา หรือ 10 ปีขึ้นไป บางคนหลังออกจากคุกก็วางมือเลิกเป็นมือปืน บางคนรับงานแต่ส่งต่อให้มือปืนรุ่นใหม่ก็มี" มือปืน อธิบายวงจรรับจ้างฆ่า

มือปืนรับจ้างรุ่นเก๋ายังเปรียบเทียบถึงมือปืนรับจ้างรุ่นใหม่กับรุ่นเก่าว่า เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุช่วง 20-45 ปี ส่วนที่อายุ 50-60 ปีวางมือไปแล้ว เพราะคนรุ่นใหม่รับงานง่าย ลงมือโฉ่งฉ่าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ติดยาเสพติด กลุ่มยาบ้า ที่ผันตัวมาเป็นมือปืน รับงานฆ่าหาเงินซื้อยาเสพติดเสพ หรือนำเงินไปซื้อยาบ้าขาย พวกนี้ไม่คิดอะไร ใจถึงเท่านั้นพอ งานที่รับตอนนี้ เท่าที่ดูกระแส จะเป็นงานเก็บกลุ่มข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ส่วนนักการเมืองไม่ค่อยมี การลงมือสำหรับนักการเมืองใหญ่ๆ มือปืนจะต้องวางแผนเป็น 1-2 ปี หรืออย่างน้อยต้อง 3-4 เดือน ต้องวางแผนเข้ามาสัมผัสชีวิตบุคคลที่จะเราลงมือฆ่า ดูทางหนีทีไล่ จังหวะการลงมือ การทำงานต้องไม่ทิ้งหลักฐาน ส่วนใหญ่ถ้าเป็นมืออาชีพ ตำรวจจับกุมตัวไม่ได้ ทำงานคนเดียวชัวร์สุด แต่มือปืนรุ่นใหม่มักใจร้อน พวกนี้จะเป็น ทหาร ตำรวจ ความแม่นยำในการทำงานต่างกัน สำหรับกลุ่มคนรุ่นเก่า ที่ผ่านศึกสงครามสมรภูมิเวียดนาม และการสู้รบที่ลาว กลุ่มนี้ใจเย็นทำงานไตร่ตรองอย่างดีไม่มีพลาด บางคนรับงานกว่า 30 ครั้ง

ยกตัวอย่างซุ้มมือปืนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง มีซุ้มมือปืนเพชรบูรณ์ แต่มีมือปืนรับจ้างอยู่ในพื้นที่เกือบทุกจังหวัด จังหวัดละ 1-2 คน ส่วนการรับงานมือปืนทางภาคเหนือจะไปทำงานทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ไม่รับทำงานคนจังหวัดเดียวกันหรือจังหวัดใกล้เคียง กลุ่มซุ้มมือปืนที่จะเข้ามาทำงานทางจังหวัดภาคเหนือตอนล่างส่วนใหญ่ เป็นซุ้มมือปืน นครปฐม ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบูรณ์ เป็นต้น

ข้อมูลปี 2554  สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดรายชื่อมือปืนรับจ้าง ซึ่งก็มือปืนที่มีประวัติก่อเหตุมานานแล้วหลบหนีคดี มีรางวัลนำจับ 1 แสนบาท รวม 112 ราย และมือปืนที่เพิ่งเริ่มต้นก่อเหตุประเภทดาวรุ่งอีก 126 ราย

โดย14 พ.ค.54  ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ภาณุพงศ์  สิงหรา  ณ อยุธยา  รองผบ.ตร. พล.ต.ต.ประวุฒิ  ถาวรศิริ    โฆษก ตร. พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รองผบช.ก. และ พ.ต.อ.ประสพโชค   พร้อมมูล  รองผบก. ป. ยศขณะนั้น ได้ร่วมกันเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหาที่เป็นมือปืนรับจ้างที่ถูกจัด ทำขึ้นใหม่ในปี 2554 จำนวน 43 ราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติประเมินสถานการณ์ได้ว่า แนวโน้ม ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ จะมาจากความขัดแย้งของตัวนักการเมือง พื้นที่ที่การแข่งขันกันสูง เพราะฉะนั้น เหตุต่าง ๆ  จะเกิดขึ้นได้

ศูนย์บริการสถานการณ์ร้ายแรง ตร. ซึ่งดำเนินมาตรการเชิงรุก กับบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีไว้ว่าเป็นบุคคลที่เป็นมือปืน รับจ้างไปยิงคนและมีหมายจับ  นอกจากนี้ยังมีการขึ้นบัญชีของบุคคลที่เป็นผู้สนับสนุน  พวกดาวรุ่งจำนวน 126 ราย    เหล่านี้  สตช. ให้ใช้ปฏิบัติการเชิงรุก เข้าตรวจค้นทุกรูปแบบ เพื่อป้องกันไม่ให้คนต่าง ๆ เหล่านี้ คิดจะกระทำผิดหรือคิดจะกระทำผิดในช่วงนี้   สรุปได้ว่า บุคคลที่ถูกขึ้นหมายจับเป็นมือปืนรับจ้าง ขณะนี้มีทั้งหมด 112 ราย  เราดำเนินการประกาศสืบจับ ไปทั่วประเทศ

พบว่า ในมือปืนที่จัดทำปฏิทินนี้พบว่าสำหรับบัญชี 50 มือปืนรับจ้างนั้น ถูกจับกุมไปแล้ว 6 ราย ประกอบด้วย   นายไพศาล  ปั้งเล่ง มือปืนลำดับที 2  นายณรงค์  เหมเดโช ลำดับที่ 4 นายวุฒิชัย  หรือ เอ็ก  มาศปิ่น  ลำดับที่ 5  นายเสวง  สุวรรณวงศ์ ลำดับที่ 24 นายสมจิตร  แผดสุระ ลำดับที่ 39  นายไพศาล   กลาแต ลำดับที่ 42  และเสียชีวิต 1ราย คือ นายปราโมทย์  ทองจันทร์  มือปืนลำดับที 1  โดยพบว่าในบรรดารูปมือปืนรับจ้างที่ เหลือ มี หมายจับจ.ส.อ.ปัญญา  ศรีเหรา   และ ส.อ.สมชาย บุนนาค  มือปืนยังนายสนธิ ลิ้มทองกุลด้วย อยู่ในลำดับที่ 13 และ 14 ตามลำดับ.

ยกตัวอย่าง ประวัติมือปืน หมายจับหมายเลข 1 ที่มีประวัติสุดโชกโชน หมายจับ มือปืนเบอร์ 1 ของประเทศไทย คือ ส.อ.บุณย์ตรี มุสะกะ   หรือจ่าบึ้ง หรือ จ่าเหนียว หมายจับข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันปล้นทรัพย์,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง,ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา      

หมายจับจำนวน 4 หมาย  : 1.สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ อ.ธัญบุรี ปทุมธานี ลง 4 เม.ย.2545 อายุความ 20 ปี ครบกำหนด 7 ธ.ค.2564

       2.กก.1 ป.ลง 15 พ.ค.2545 ที่ 121/2545 อายุความ 20 ปี ครบกำหนด 16 พ.ย.2564

       3.สภ.อ.นครหลวง อยุธยา 37/2545 ลง 28 ต.ค.2545 อายุความ 20 ปี ครบกำหนด 1 มี.ค.2565

       4.ศาลอาญา ที่ 389/2546 ลง 10 ม.ค.2546 อายุความ 20 ปี ครบกำหนด 16 พ.ย.2564

     

พฤติการณ์ ส.อ.บุณย์ตรี หรือจ่าบึ๋ง หรือจ่าเหนียว มุสะกะ เคยรับราชการเป็นทหาร สังกัดกรมทหารม้า กรุงเทพฯ มีนิสัยเป็นนักเลง จึงเข้าไปมั่วสุมอยู่ในวงการ ทั้งวงการพนันและสถานบันเทิง โดยเฉพาะย่านถนนรัชดา ซึ่งจะมีทหารและตำรวจนอกแถวไปเดินแผ่บารมีเรียกผลประโยชน์โดยอาศัยเครื่องแบบ

 

จากนั้นไม่นาน จ่าบึ๋ง ได้ผันตัวเข้าสู่วงการนักฆ่า โดยตั้งกลุ่ม รับทำงาน ข่มขู่ ทวงหนี้ อุ้มคนไปกักขัง ต่อมาได้เปลี่ยนวิธีการเป็นการอุ้มฆ่านักธุรกิจ ที่ถูกผู้ว่าจ้าง จ้างให้ไปทำร้ายร่างกายหรือข่มขู่ โดยมีคดีอุกฉกรรจ์ ที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องกับจ่าบึ๋ง จำนวนมาก

 

1. คดีอุ้ม นายชาคริต ปุราธณานนท์ บริเวณสี่แยกไฟแดง ใกล้ห้างดิเอ็มโพเรียม ถนนสุขุมวิท และนำตัวไปฆ่ารัดคออย่างโหดเหี้ยม และทิ้งศพเปลือยในป่าริมถนนรังสิต องค์รักษ์ จากนั้นได้เอาทรัพย์สินเงินสด 3 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆไปแบ่งปันกันและหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อ 6 ธ.ค. 2544 เวลาประมาณ 22.00 น. โดยมีผู้ร่วมกระทำผิด ได้แก่นายบุญชู, นายต้อย, บังมัด, นายโต้ง, นายหาญณรงค์ ใช้รถยนต์เก๋งทะเบียน 9393 กทม. เป็นพาหนะ

 

2. คดีอุ้มนางนัยนา โคตรานนท์ ไปจากห้องเช่า ซอยตากสิน 4 แล้ว ควบคุมตัวไปขณะอยู่บนรถได้ใช้เข็มขัดรัดคอ จนนางนัยนาเสียชีวิต แล้วนำศพเปลือยไปทิ้งไว้ ใกล้น้ำตกเจ็ดสาวน้อย อำเภอโมกเหล็ก สระบุรี โดยมี ผู้ร่วมกระทำผิด พลทหารยักษ์, นายจั๋ว, นายโต้ง, นายมาโนช ซึ่งบังหมัดเป็นผู้ติดต่อประสาน รับว่าจ้างมาจากทีมงานจังหวัดอุทัยธานี กลุ่มของ เปี๊ยก พงศ์เพชร หมวดตั๋น เหตุเกิดเมื่อ 14 พ.ย. 2544

 

3. คดีอุ้มฆ่านายเชิดชัย พิกุลสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายตรวจสอบบัญชี บริษัทน้ำมันเอ็มพีปิ โตรเลี่ยมจำกัด แล้วนำเงินสดไป 57 ล้านบาท นำศพไปทิ้งไว้ท้องที่ สภ.อ.โพธิ์ทอง มีผู้ร่วมกระทำผิดคือ หมวดนรเศษฐ์, จ่าพงษ์สิริ, จ่านพดล, จ่าเหลิม, สิบเอกอภิชาติ

 

4. คดีใช้อาวุธปืนยิง นางสาวบุญส่ง นาคดี แม่ค้าขายปลาหมึก เหตุเกิดที่ถนนเรียบคันคลองอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยได้รับว่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 2 แสนบาท โดยสาเหตุเกิดจาก นางสาวบุญส่ง ทะเลาะกับผู้ว่าจ้าง คดีนี้มีผู้ร่วมกระทำผิดคือ นายอร่าม, นายสุชาติ, นางเพ็ญรุ่ง, นายสุเทพ, นายลาด เหตุเกิดเมื่อ 16 ม.ค. 2544

 

5. คดีร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายประวิทย์ รัตติรัชน์ เหตุเกิดปากซอยแสงสหาย ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ ผู้ร่วมกระทำผิดประกอบด้วย จ่ากฤษดา, จ่าดำรง, ผู้กองกฤษณะ, นายบุญชู

 

นอกจากนี้ยังมีคดีอุ้มฆ่าอื่นๆ อีกหลายคดีที่จ่าบี๋งและพวกรับงานซึ่ง บางคดีไม่มีพยานหลักฐานยืนยันได้เพียงพอ จ่าบึ๋งเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ส่งดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ และหลบหนี ในช่วงระหว่างประกันตัว ขณะนี้ ข่าววงในทราบว่า หลบหนีเข้าไปอยู่ตามบ่อนประเทศเพื่อนบ้าน นานๆ จะกลับเข้ามาในเขตกรุงเทพมหานคร ถือว่าเป็นบุคคลที่ก่อคดีอุกฉกรรจ์ มากที่สุดในบรรดาเหล่ามือปืน ในประเทศไทย

 

เรียบเรียงโดย วัสดา สำนักข่าวทีนิวส์