- 02 มี.ค. 2560
แชร์ |
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ เพจ ข่าวภูมิภาค 77 จังหวัด Tnews
วันที่ 2 มี.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเฟสบุ๊ก "Phra Sanitwong Charoenrattawong" ได้โพสR.I.P ศพที่ 2 ของ ม.44 เวลา 11.29 น. ได้รับแจ้งจากผู้ป่วยโรคหอบหืด ต้องการยาพ่น ซึ่งพักอยู่ที่หลังวัด ( 58ไร่) ซึ่งปกติจากจุดรับเรื่องถึงที่พักผู้ป่วยใช้เวลาเดินทางเลียบคลองแอน 10 นาที แต่ทางหน่วยกู้ชีพรัตนเวช ติดด่านตำรวจทหาร เพราะตัดสินใจไม่ได้ ต้องถามสอบเจ้าหน้าที่ DSI เท่านั้น หน่วยฯรัตนเวชที่รับเรื่องจึงได้ประสานงานให้รถหน่วยกู้ชีพ 1669 ให้ไปรับคนไข้แทน แต่รถ 1669 มาตามเส้นทางไม่ถูก และไม่ได้รับอนุญาตให้รับคนไข้ที่อื่น นอกจากประตู 7 เท่านั้น
อาสาสมัครรัตนเวช แจ้งว่า ต้องเสียเวลา ย้อนไปที่ประตู 7 เพื่อทำเรื่องขออนุญาต และนำทางให้รถ 1669 ไปรับผู้ป่วย เมื่อไปถึงในเวลา 12.39 น. พบผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว เสียเวลาในการติดต่อและผ่านเจ้าหน้าที่ ทั้งหมด 1 ชั่วโมง 10 นาที ระหว่างประสานงานติดต่อผู้ป่วยไม่ได้ เพราะสัญญาณโทรศัพท์ขาดๆ หายๆ (ชื่อผู้เสียชีวิต น.ส.พัฒนา เชียงแรง อายุ 48 ภูมิลำเนาจังหวัดพะเยา เป็นลูกศิษย์วัด ช่วยงานพยาบาลศูนย์รัตนเวช)
ต่อมา พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึงข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ น.ส.พัฒนา ว่าเมื่อเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณประตู 6 วัดพระธรรมกาย มีเจ้าหน้าที่หญิงของวัดสองคนมาขอความช่วยเหลือโดยบอกว่ามีคนป่วย จึงได้รีบประสานมายังประตู 7 และได้ขับรถพาผู้หญิงสองคนนั้นมาที่ประตู 7 และรีบนำมูลนิธิเข้าไปเพื่อทำความช่วยเหลือ จนไปถึงจุดเกิดเหตุเพียง 20 นาทีเท่านั้น ไม่มีการติดด่านอะไร พอไปถึงเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตนานแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้พยายามกู้ชีพแต่สัญญาณชีพไม่กลับมาก็เป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งก็ประมาณช่วงบ่ายแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเดินทางกลับมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตามกฎหมาย แต่ในช่วงเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่เรียกท่านหนึ่งได้รับการประสานจากพระมหานพพร ปุญญชโย ว่ามีคนป่วยอยู่และให้เข้าไปอีก ตนจึงไม่เข้าใจว่าทางวัดได้มีการประสานกันเองหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เราก็ไปให้ แต่เมื่อไปถึงก็พบว่ามีพนักงานสอบสวนและแพทย์อยู่แล้ว
โดยรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยังได้ฝากเตือน ประชาชนที่ได้รับข้อมูลตามโซเชียลต่างๆ ให้ระมัดระวังในการส่งต่อข้อมูลข่าวสาร หากส่งข้อมูลเท็จก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้ยังเตรียมเข้าจับกุมพระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ภายหลังไม่มารายงานตัวตามหมายเรียกของดีเอสไอ และอาจจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง รวมทั้งมีการแถลงข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง
ขณะที่ ล่าสุดแพทย์นิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์ ได้ลงในหนังสือรับรองการเสียชีวิตของนางสาวพัฒนา เพียงแรง อายุ 48 ปี ผู้ช่วยเภสัชกรสถานพยาบาลของวัดพระธรรมกาย เสียชีวิตเกิดจากอาการปอดติดเชื้ออักเสบ หรือโรค Pneumonia
เรียบเรียง เนื้อหา : พัทธนันท์ ทีนิวส์