ภารกิจยังไม่จบ!! ล่าสุด "อธิบดี DSI" แถลงแผนปฏิบัติการต่อจากนี้ หลังฝ่าธรรมกาย บุกจับ "พระธัมมชโย" ไม่สำเร็จ!!

 

วันที่ 10 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำโดยพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี สำนักงานพระพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมคณะทำงานได้แถลงข่าวที่ห้องประชุมที่อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังจากที่มีการเข้าขอตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายในวันนี้โดยมีเจ้าหน้าที่ dsi เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี แล้วตัวแทนสำนักพุทธ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจค้นวัดภายในวันนี้ไม่พบ พระธัมมชโย แต่อย่างใด

 

 

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ในการตรวจค้นวัดพระธรรมกายนั้น เพื่อจับกุม พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหาฟอกเงินและรับของโจร คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยมีความเสียหลายหมื่นล้านบาท เนื่องจากคดีสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นผู้ฝากเงินออมไว้เป็นทั้งข้าราชการและประชาชนเดือดร้อนจัดเป็นจำนวนมาก การตรวจค้นวัดพระธรรมกายนั้น ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทุกครั้งที่ทำไป ได้ยึดหลักกฎหมาย แล้วทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งเมื่อครั้งที่ 1 เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้นแล้ว แต่ไม่สามารถตรวจค้นได้นอกจากมีลูกศิษย์และสาวกวัดพระธรรมกาย ได้มานั่งขวาง 

 

การปฏิบัติหน้าที่  ครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่ขอการปฏิบัติการ 3 วัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการตรวจค้นได้และครั้งนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมีความจำเป็นขอกฎหมายพิเศษในการควบคุมพื้นที่แล้ววันที่16-17-18 มีนาคม 60 ด้านเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจค้นไปแล้วทั้งสามโซนซึ่งในการตรวจค้นแต่ละโซนนั้น ยังมีอุปสรรคที่ลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายยังขวางการปฏิบัติหน้าที่หากมีการกระทำผิดเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องขอตรวจค้นในวันนี้ และได้ตรวจค้นทั้ง 3 โซนแล้ว ก็ยังไม่พบบุคคลตามหมายจับ 

 

ในขณะที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ประสานงาน ด่านจุดตรวจ ด่านคนเข้าเมือง ในจังหวัดต่างๆแล้ว เพื่อป้องกันบุคคลตามหมายจับหนีออกประเทศ และในส่วนของวัดพระธรรมกายนั้น วันนี้มีข้อตกลงกันว่า ทางด้านตลาดกลางคลองหลวง พระภิกษุสงฆ์พร้อมด้วยศิษย์ยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย จะมีการรื้อเต็นท์และให้ตลาดอยู่ในสภาพเดิม พร้อมทั้งบริเวณ ถนนเลียบคลองแอล2-3 เปิดทางให้บุคคลสัญจรไปมาได้เหมือนตามปกติ

 

    
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่นั้น จะมีการลดกำลังลง แต่ยังคงตั้งด่านเพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนไว้เหมือนเดิม ในส่วนของมาตรา 44 ที่ใช้กับทางวัดพระธรรมกาย รวมทั้งการตัดสัญญาณโทรศัพท์ต้องอยู่ในช่วงพิจารณาอีกครั้งว่าจะนำกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมอีกเมื่อไหร่ ส่วนในการติดตามจับกุมตัวของพระธัมมชโยนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ยังติดตามจับกุมเหมือนเดิมพร้อมมีอายุความ 15 ปี พร้อมกันนี้วัดพระธรรมกาย ก็ยังให้บุคคลเข้าออกได้ตามปกติ แต่ยังมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบทุกประตูเพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อน ในการดำเนินขั้นตอนต่อไปจากนี้ จะได้มีทาง พระวินยาธิการ และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีมาร่วมการปฏิบัติการด้วยเพื่อ ติดตามจับกุมพระธัมมชโยมาคำเนินคดี

 

อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับว่าปฎิบัติการตรวจค้น วัดพระธรรมกาย 23 วันที่ผ่านมา มีแกนนำเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสถานการณ์ โดยได้ออกหมายเรียกแล้ว 316 คน ตามคำสั่งรายงานตัว 80คน และมีคดีอาญารวม 43 คดี

 

 

 

 

ภาพ / ข่าว : อนันต์ วิจิตรประชา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ปทุมธานี

เรียบเรียง เนื้อหา : พัทธนันท์ ทีนิวส์