- 14 มี.ค. 2560
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ (14 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสิทธิพงษ์ ใจตรง ผู้อำนวยการโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ว่ามีเด็กนักเรียนที่เรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา สามารถสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ไม่มีทุนศึกษาต่อ เพราะฐานะยากจน อาศัยอยู่กับตายาย เกรงว่าเด็กจะไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ
หลังจากทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 เด็กนักเรียนคนดังกล่าว อยู่บ้านแบ่งเช่าห้องเล็กๆ ในราคาเดือนละ 150 บาท เลขที่ 44 ม.10 บ้านโนนสว่าง ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร บ้านที่พักอาศัย มีลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียวแบ่งห้องเพื่อให้เช่า หลังคาด้านบนมุงด้วยสังกะสี
จากการสอบถามนายจีระศักดิ์ ใจช่วง อายุ 19 ปี นักเรียนโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เปิดเผยว่า หลังจากที่ทราบว่า ตัวเองสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก็รู้สึกดีใจมาก แต่พอมาคิดๆดู ระยะเวลาที่จะต้องเรียน นานถึง 4 ปี ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนเรียนและอาก็ไม่มีเงินทางบ้านฐานะยากจน จึงรู้สึกท้อแท้บ้าง แต่ก็ไม่ได้สิ้นหวัง เมื่อนำเรื่องไปบอกคุณครูที่โรงเรียน ต่างก็ให้กำลังใจ บอกจะพยายายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นายจีระศักดิ์ ใจช่วง ชื่อเล่น สีแหล่ เล่าว่า เดิมเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนนาโปน้อย อ.เมือง จ.มุกดาหาร มีน้องสาว 1 คน ชื่อนางสาวจุฑารัตน์ ใจช่วง พ่อชื่อนายจันทร์ ใจช่วง ซึ่งพิการเนื่องจากประสบอุบัติเหตุตั้งแต่ผมเรียนอยู่ชั้น ป.2 ส่วนแม่นั้นหลังจากที่พ่อประสบอุบัติเหตุไม่นานแม่ก็หนีไปทิ้งให้ผม พ่อและน้องสาวอยู่กันตามลำพัง ผมต้องทำหน้าที่ดูแลครอบครัวตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยรับจ้างแบกกระสอบอาหารปลากระชังในแม่น้ำโขงเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวมีรายได้ตั้งแต่ 10 บาท ถึง 20 บาท ซึ่งก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายต้องปั่นจักรยานไปตามท่าน้ำต่างๆ เพื่อหางานทำให้ได้เงินให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ลำบากมากเวลาที่ต้องพาพ่อไปหาหมอและในคราวที่พ่อต้องนอนโรงพยาบาล ถึงจะได้รับความลำบากแต่ก็คิดเสมอว่านั่นคือสิ่งที่ภูมิใจที่สุดที่ได้ดูแลพ่อเป็นอย่างดี
ผมได้รับกำลังใจจากคุณครูรัตนา หาญเจริญ คุณครูผู้ให้กำลังใจและช่วยเหลือมาโดยตลอด วันใดที่ผมเหนื่อยมากๆ เนื่องจากต้องทำงานถึง 4-5 ทุ่ม ในเวลาเรียนผมมักจะเผลอหลับแต่คุณครูไม่เคยตำหนิผม ท่านจะถามผมว่าเมื่อคืนผมทำงานถึงกี่ทุ่ม ผมบอกว่า 4-5 ทุ่ม ท่านก็จะบอกว่าถ้าเหนื่อยมากก็หลับสักพักแล้วก็ตื่นขึ้นมาเรียน วันหลังก็อย่าทำงานให้ดึกนัก คุณครูเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของผม ท่านกลัวว่าผมจะเหนื่อยและพลัดตกน้ำ ท่านพาผมไปขอทุนช่วยเหลือที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับการช่วยเหลือเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งคุณครูรัตนาดูแลเรื่องการใช้จ่ายเงินของผมทำให้ผมพอจะมีเงินที่จะจุนเจือครอบครัว ผมได้สมัครทำงานกลุ่มจิตอาสาเป็นคณะทำงานกับเพื่อนๆ และคุณครูร่วมกันสร้างงานสร้างรายได้ ผลิตสินค้าเพื่อจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวแต่แล้วผมก็เจอเคราะห์ซ้ำ เมื่อผมเรียนอยู่ชั้น ป.6 และอยู่ระหว่างสอบปลายปีพ่อผมได้เสียชีวิตลงทำให้ชีวิตของผมและน้องสาวเคว้งคว้างไร้จุดหมาย หลังจากงานศพของพ่อเสร็จสิ้นลงโดยญาติฝ่ายพ่อได้จัดงานศพตามสภาพ
นายจีระศักดิ์ เล่าต่อว่า หลังจากผมและน้องสาวได้สอบปลายปีเสร็จอาผู้หญิงได้พาน้องสาวไปเลี้ยงดูที่บ้านท่าไคร้ ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ส่วนผมอาผู้ชายได้นำไปเลี้ยงที่บ้านโนนสว่าง ต.หว้านใหญ่ อ.หว้าใหญ่ จ.มุกดาหาร และได้เข้าเรียนชั้น ม.1 จนจบชั้น ม.6 ที่โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา ตลอดเวลาที่อาศัยอยู่กับอาผมได้หารายได้โดยการไปรับจ้างไถนา ดำนา เกี่ยวข้าว ตัดอ้อยและรับจ้างทั่วไปตามที่มีผู้จ้าง เช่น อ๊อกเชื่อมเหล็ก รับทำฝ้าอลูมิเนียมตามแต่จะได้งาน ด้วยฐานะที่ไม่ค่อยดีนักของอาผมจึงออกจากบ้านอามาขอแบ่งเช่าห้องเล็กๆ ในหมู่บ้านโนนสว่าง ค่าเช่าเดือนละ 150 บาท พอได้พักอาศัยโดยมีครูรัตนา หาญเจริญ ได้ดูแลไถ่ถามทุกข์ สุข เป็นระยะ และพาผมไปอบรมธรรมะที่สถานธรรมมุกดาหารซึ่งสั่งสอนให้คติเตือนใจผมอยู่เป็นประจำทำให้ผมมีกำลังใจที่จะต่อสู้บนพื้นฐานคุณธรรม
เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ผมอายุครบ 18 ปี เงินที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาสังคมฯ ก็หมดงบประมาณทำให้ประสบปัญหาด้านการเงินอีกครั้ง ซึ่งเป็นเวลาประจวบกับเป็นช่วงที่ต้องใช้เงินในการสมัครสอบเข้าเรียนต่อ ตลอดจนการเดินทางไปสอบสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยสารคาม แต่นับว่าฟ้ายังมีเมตตาคุณครูที่ปรึกษาได้ให้เงินในการเดินทางผม 1,000 บาท เพื่อใช้ในการเดินทางไปสอบสัมภาษณ์ ซึ่งผมเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ตามที่ผมใฝ่ฝัน เมื่อผลการสอบประกาศออกมาปรากฏว่า สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ ผมดีใจจนบอกไม่ถูกความฝันของผมเป็นจริง ณ ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาเรียน จึงได้ไปปรึกษาครูรัตนาและคณะครูในโรงเรียนเพื่อช่วยหาแนวทางในการระดมทุนจากผู้ใจบุญช่วยเหลือเป็นค่าลงทะเบียนเรียนจำนวนเงิน 10,450 บาท ผมขอขอบคุณคณะครูและผู้ใจบุญที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนและเป็นกำลังใจและมีน้ำใจช่วยเหลือเด็กยากจนอย่างผมให้มีโอกาสได้สานฝัน ผมจะตั้งใจเรียนให้สำเร็จสมกับที่ทุกคนให้การช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ และผมจะใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด ผมจะเป็นเพชรเม็ดงามให้ครูและทุกๆ ท่านชื่นใจให้ได้ครับ
นายจีระศักดิ์ ใจช่วง เล่าตอนท้ายว่า เงินค่าลงทะเบียนก้อนแรก 10,450 บาท ทางคณะครูและผู้ใจบุญที่ร่วมสมทบทุนการศึกษาได้พยายามช่วยเหลือค่าลงทะเบียนให้แล้ว แต่ก็ยังขาดสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งค่าหอพัก ค่าใช้จ่ายรายเดือน ค่าชุด อุปกรณ์การศึกษา คณะครูได้ให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องกู้ยืมทุนการศึกษาจากแหล่งต่างๆ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะได้รับความอนุเคราะห์หรือไม่ แต่ก็ยังหวังว่าเมื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว จะขอกู้เงินจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) และขอทุนทางมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อไป
ทางด้าน อาของนายจีระศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่หลานชายสอบได้ แต่ก็รู้สึกสงสารมาก เพราะเป็นเด็กดี ขยัน ตนก็รู้สึกเสียใจที่ไม่มีเงินส่งเสียหลานได้เลย เพราะตอนนี้มีรายได้ครอบครัวตนก็มีรายได้น้อยไม่พอต่อค่าใช้จ่ายเนื่องจากตนต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานอีกจำนวน 4 คน ณ ปัจจุบันค่าใช้ก็ไม่เพียงในแต่ละวัน ขณะที่ นางรัตนา หาญเจริญ ครูโรงเรียนมุกดาลัย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเคยเป็นครูผู้ดูแลนายจีระศักดิ์ บอกว่า นายจีระศักดิ์เป็นคนเรียบร้อย ขยันเรียน ขยันทำงาน ชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ แม้ฐานะทางบ้านยากจน ครูทุกคนที่เคยสอนต่างพูดถึง อยากช่วยเหลือให้เด็กมีอนาคตที่ดี
นายสิทธิพงษ์ ใจตรง ผู้อำนวยการโรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา กำลังพยายามระดมขอทุน เพื่อช่วยเหลือให้เด็กสามารถมีทุนเรียนจนจบวิศวกรรมศาสตร์ตามที่เด็กใฝ่ฝันไว้ให้ได้ จึงพยายามประสานหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้ความช่วยเหลือสนับสนุน โดยมีการเปิดบัญชีร่วมกับนายจีระศักดิ์ ใจช่วง แล้วช่วยดูแลการใช้จ่ายเงินที่จำเป็นในการศึกษา หากผู้ใจบุญมี ความเมตตา มอบทุนการศึกษาให้แก่นายจีระศักดิ์ ใจช่วง สามารถติดต่อที่นายสิทธิพงษ์ ใจตรง ผอ.โรงเรียนหว้านใหญ่วิทยา เบอร์โทรศัพท์ 087-6373321 หรือติดต่อ คุณครูรัตนา หาญเจริญ เบอร์โทรศัพท์ 086-8548855 หรือให้ความช่วยเหลือได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย จำกัด สาขาโรบินสัน มุกดาหาร บัญชีเลขที่ 407-2-40749-9 ชื่อบัญชี นายจีระศักดิ์ ใจช่วง และนางรัตนา หาญเจริญ
ด้านนายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และนางคำนึงนิตย์ ฤทธิ์สรไกร นายกเหล่ากาชาดมุกดาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่เหล่ากาชาด เบื้องต้นได้ออกให้ความช่วยเหลือ และได้มอบเงินและสิ่งของแล้ว
ภาพ/ข่าว อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.มุกดาหาร