- 04 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีนาย นาย วัน เรียงเงิน อายุ 70 ปี และ นายสมศักดิ์ เรียงเงิน อายุ 35 ปี พี่ชายและน้องชาย ของนายชอบ เรียงเงิน อายุ 58 ปี ชาวจ.สุรินทร์ เจ้าของช้าง พังโย ช้างพังอายุประมาณ 50 ปีที่ถูกคนร้ายขโมยมาจากพื้นที่ จ.กระบี่เมื่อปี 2546 ( 14 ปีก่อน) ได้เข้าร้องต่อหลายหน่วยงานให้ช่วยเหลือนำช้างกลับบ้านหลังมาพบว่าช้างซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพังโย ที่หายไปกว่า 14 ปี อยู่ในปางช้าง อเมซิ่ง บูกิ๊ต ซาฟารี เลขที่ 78/10 หลังวัดหลวงปู่สุภา หมู่ที่ 6 ตำบลฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นปางช้างของนายพิชัย พัวศุภเจริญ
ซึ่งทางเจ้าของปางไม่ยอมคืนให้เนื่องจากอ้างว่าซื้อช้างตัวดังกล่าวมาอย่างถูกต้องในราคา 1.4 ล้านบาท และมีเอกสารตั๋วรูปพรรณถูกต้องโดยระบุชื่อว่าช้างสีนวน จนมีการพูดคุยและหาทางออกที่สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าทั้งสองฝ่ายมีเอกสารหลักฐานทางราชการมาแสดง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเอกสารของใครถูกต้อง จึงให้ฝ่ายผู้ร้องสองพี่น้องจากจ.สุรินทร์ เดินทางกลับไปที่สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ซึ่งเคยแจ้งความช้างหายไว้เมื่อ 14 ปี ก่อนเพื่อ ร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้อายัติช้างและทำการสอบสวนตามกฏหมาย
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันนี้(3 เม.ย.60) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ่าวนาง นำโดย พ.ต.ท.วินัย พูนสวัสดิ์ รองผกก.สภ.อ่าวนาง ได้เดินทางมายัง ปางช้าง อเมซิ่ง บูกิ๊ต ซาฟารี เลขที่ 78/10 หลังวัดหลวงปู่สุภา หมู่ที่ 6 ตำบลฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เพื่อทำการแจ้งทำการอายัดช้าง พังโย หรือ ช้างสีนวน (ยังไม่สามารถระบุได้ว่าตัวใด)ไว้
โดย พ.ต.ท.วินัย พูนสวัสดิ์ รองผกก.สส.สภ.อ่าวนาง จ.กะบี่ กล่าวว่า ตามที่นาย วัน เรียงเงิน และ นายสมศักดิ์ เรียงเงิน พี่น้องชาว จ.สุรินทร์ได้เข้าร้อง กับพนักงานสอบสวนเว้เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ในวันนี้จึงเดินทางมาอายัดช้างตัวดังกล่าวไว้ เดิมทีตั้งใจจะนำช้างตัวดังกล่าวกลับไปยังจ.กระบี่ ระหว่างการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าทางปางได้ยื่นแสดงเอกสารทั้งตั๋วรูปพรรณช้าง ซึ่งเป็นเอกสารราชการซึ่งไม่ทราบว่าถูกต้องหรือไม่ แต่เมื่อเป็นเอกสารราชการมีตราประทับรับรองจึงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสารของทั้งสองฝ่าย อย่างละเอียด วันนี้จึงทำได้เพียงแจ้งอายัดช้างห้ามเคลื่อนย้าย และให้อยู่ในความดูแลของทางปางไปก่อน เพื่อรอขั้นตอนการตรวจสอบ
ทั้งนี้หากกลับไปถึงจะทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะปลัดอำเภอของทั้งสองอำเภอ ที่เป็นต้นทางการออกตั๋วรูปพรรณช้าง (อำเภอชุมพลบุรีจ.สุรินทร์ และอ.แม่ระมาด จ.ตาก) เพื่อขอให้ชี้แจงว่าการออกเอกสารทำโดยถูกต้องหรือไม่ รวมถึงขอความอนุเคราะห์หน่วยงานที่ดูแลช้าง ทั้งศูนย์คชศึกษาจังหวัดสุรินทร์ และสถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเอกสารช้าง และการตรวจรูปพรรณช้างว่าใช่ช้างพังโย หรือช้างสีนวน กันแน่ โดยเชื่อว่าบางจุดของช้างสดามารถตรวจยืนยันได้ ซึ่งระหว่างนั้นจะทำการสอบปากคำผู้ซื้อและผู้ขายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ตรวจสอบแล้วบุคคลที่ถูกอ้างถึงมีตัวตน แต่อาจต้องใช้เวลา
ข่าว/ภาพ ณัฐวุฒิ ละออสุวรรณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ภูเก็ต