ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

เช้าวันที่11 เม.ย. 2560  บนถนนสายเอเชีย 41 ทั้งขาขึ้นกรุงเทพและล่องลงภาคใต้  เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่น ประชาชนที่มาทำงานในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเริ่มทยอยเดินทางกลับไปฉลองสงกรานต์กับครอบครัวที่บ้านเกิด ประกอบกับประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่งานทำอยู่ในจังหวัดต่างๆ ทยอยเดินทางกลับมาทางใต้เช่นเดียวกัน  แต่การจราจรยังสามารถไหลลื่นคล่องตัว 

ไม่กลัวตายกันหรือ!! เตือนขนาดนี้แล้วยังขับเร็วอีก ตำรวจทางหลวงตรวจจับความเร็วพบผู้กระทำความผิดสูงจากปกติถึง3เท่า

ในขณะเดียวกัน พ.ต.ต.สมพงษ์ เอกวัฒ สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 2 จ.สุราษฎร์ธานี  ได้เปิดเผยว่า ได้จัดรถตรวจการณ์ตำรวจทางหลวง จำนวน 30 คัน ที่ประจำสถานีตำรวจทางหลวง 5 กองกำกับการ 2 จ.สุราษฎร์ธานี ออกไปประจำจุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงอันตรายและเป็นพื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก พร้อมทั้งตั้งกล้องตรวจจับความเร็วตลอดเส้นทางสายหลักบนถนนสายเอเชีย 41 ทั้งขาขึ้นและขาล่องลงภาคใต้ และบนถนนสาย เซาท์เทิร์นซีบอร์ด เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

ไม่กลัวตายกันหรือ!! เตือนขนาดนี้แล้วยังขับเร็วอีก ตำรวจทางหลวงตรวจจับความเร็วพบผู้กระทำความผิดสูงจากปกติถึง3เท่า

 

 

จากการที่เจ้าหน้าที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วพบว่ามีผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายที่กำหนดมากกว่าปกติถึง 3 เท่าตัว  จึงได้กล่าวเตือนผู้ที่ใช้เส้นทางขาล่องใต้และขึ้น กทม. ขับรถด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากขณะนี้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักเป็นช่วงๆ ประกอบกับมีการซ่อมแซมผิวจราจรตลอดเส้นทาง หากขับขี่รถด้วยความประมาทอาจเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน และขอความร่วมมือผู้ขับขี่ให้เคารพกฎจราจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจจับเข้มข้นในช่วง 7 วันอันตราย

ไม่กลัวตายกันหรือ!! เตือนขนาดนี้แล้วยังขับเร็วอีก ตำรวจทางหลวงตรวจจับความเร็วพบผู้กระทำความผิดสูงจากปกติถึง3เท่า

ไม่กลัวตายกันหรือ!! เตือนขนาดนี้แล้วยังขับเร็วอีก ตำรวจทางหลวงตรวจจับความเร็วพบผู้กระทำความผิดสูงจากปกติถึง3เท่า

ไม่กลัวตายกันหรือ!! เตือนขนาดนี้แล้วยังขับเร็วอีก ตำรวจทางหลวงตรวจจับความเร็วพบผู้กระทำความผิดสูงจากปกติถึง3เท่า

ภาพ/ข่าว ณัฐธิดา เริ่มฤกษ์  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.สุราษฎร์ธานี