- 17 เม.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 17 เม.ย. 2560 ที่ตลาดเซนเตอร์พ้อยส์ ถ.รื่นรมย์ ใกล้กับสาลากลางจังหวัดตรัง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองฯ จ.ตรัง มีร้านจำหน่ายขนมปอดควายที่ขึ้นชื่อของย่านตลาดคนเดิน ชื่อร้านขนมปอดควายลุงหนุดเจ้าเดิม เป็นของลุงหนุด นายกรีฑา อินทรชัย อายุ 63 ปี เป็นชาวตำบลบ้านควน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 11/3 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง
ลุงหนุดเล่าว่า ความเป็นมาของขนมปอดควายนั้นตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ก็ใช้เรียกชื่อขนมชนิดนี้ว่าปอดควายมานานแล้ว และในปัจจุบันก็ยังใช้เรียกกันอยู่ และเป็นขนมขึ้นชื่อของจังหวัดตรัง แต่ละจังหวัดจะเรียกขนมชนิดนี้ไม่เหมือนกัน อย่างจังหวัดสงขลา เรียก หัวหลาด จังหวัดสตูล เรียก มาและ ซึ่งขนมปอดควายในสมัยก่อนจะมีขายในงานฉลองรัฐธรรมนูญ หรืองานเฉลิมพระชนมพรรษา งานประจำปีของจังหวัดตรัง แต่ต่อมาได้มีการโยกย้ายสถานที่จัดงาน ร้านที่จำหน่ายขนมปอดควายเริ่มลดน้อยลง แต่ยังเป็นที่นิยมของคนตรัง ซึ่งขนมปอดควายตนเองขายมากว่า 34 ปี แล้ว ตั้งแต่ปี 2526 จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่ราคาชิ้นละ 5 บาท ในช่วงนั้นจำหน่ายได้วันละกว่า 10,000 บาทเลยที่เดียว จนปัจจุบันราคาชิ้นเล็ก 20 บาท ชิ้นใหญ่ 35 บาท
จุดเด่นของความอร่อยของขนมปอดควาย ลุงหนุดบอกว่าอยู่ที่ความหอม นุ่มละมุนของขนม ถึงแม้ซื้อไว้นานเมื่อเอามารับประทานก็ยังคงความนุ่มละมุนไม่เปลี่ยน น่ารับประทาน สำหรับส่วนผสมของขนมปอดควาย ใช้แป้งทำขนมต่อวัน 13-15 กิโลกรัม แต่ถ้าในช่วงเทศกาลใช้แป้งถึง 18 กิโลกรัม ส่วนไส้ขนมมี 3 ไส้ ด้วยกัน มีไส้ถั่ว ไส้มะพร้าว ไส้สังขยา วัตถุดิบทุกอย่างจะซื้อมาลงมือทำเองทุกอย่าง ส่วนผสมของแป้งปอดควาย มีแป้งสาลี ไข่ น้ำตาล เกลือ น้ำหอมกลิ่นวานิลา สำหรับยอดขายในแต่ละวันขายได้ประมาณวันละ 200 ชิ้น รายได้รวมทั้งต้นทุน 6,000-7,000 บาท เพราะช่วงเวลาขายที่ตลาดเซนเตอร์พ้อยท์มีแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้นเองซึ่งตลาดเปิดตั้งแต่ 17.00 น.- 21.00 น. ใครที่สนใจสามารถนำไปยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงครอบครัวได้สบายเพราะตนเองก็ยึดอาชีพทำขนมปอดควายขายเช่นเดียวกัน และที่สำคัญอยากจะถ่ายทอดไปยังคนรุ่นใหม่ เพราะนับวันผู้ที่ผลิตขนมปอดความขายเริ่มลดน้อยลงเป็นอย่างมาก ทั้งที่การทำขนมปอดควาย สร้างสามารถสร้างได้ ถึงขั้นเป็นเศรษฐีน้อยๆได้อย่างสบาย
ภาพ/ข่าว ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง




