สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่ 10 พ.ค. 2560 ที่บริเวณที่เรือประเพณีบ้านสังคม นายชัยวัฒน์ คำสรดี รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีตำบลสังคม ร่วมกับชาวบ้านสังคม หมู่ 2 ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญเบิกบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับคนในชุมชน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สำหรับบุญเบิกบ้าน บุญกลางบ้าน บุญคุ้มฯลฯ เป็นประเพณีหนึ่งในฮีตสิบสองครองสิบสี่ ซึ่งยึดถือกันมาแต่โบราณ สืบเนื่องมาจากความเชื่อเรื่องผีบรรพบุรุษ เนื่องด้วยฤดูนี้ใกล้ฤดูฝนก่อนที่จะลงมือทำไร่ไถนา ทุกชุมชนจะต้องมีพิธีหนึ่งที่นิยมทำกันคือ พิธีเลี้ยงปี เลี้ยงหอผีเจ้า ผีนาย ผีฟ้าแถน ผีมเหศักดิ์ หลักบ้านหลักเมือง ตามความนับถือของแต่ละท้องถิ่น แต่เดิมนั้นจะเป็นพิธีเลี้ยงผีโดยเฉพาะไม่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ ดังใจความตอนหนึ่งในคำสั่งของพระเจ้าฟ้างุ้มหล้าธรณี ปฐมกษัตริย์ลาว ได้สั่งเอาไว้ว่า “สามปีใด จงให้ตัวเจ้าทั้งหลายขึ้นเพื่อไหว้เรา เมื่อถึงเชียงดงเชียงทองนั้นแล้ว เราจักได้บูชาแถนฟ้าดิน, ทั้งแถนคน, แถนสั่งแต่ง, แถนเทือก, ทั้งเฒ่าเยอ, เฒ่าไล่, แม่ย่าง่าม, แม่มด ทั้งเทวดารักษาผาติ่งและสบอู...” ดังนั้นชาวบ้านสังคมจึงยึดถือปฏิบัติมายาวนาน จนเมื่อได้รับเอาคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนาเข้ามา จึงได้ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาร่วมด้วย จะสังเกตว่าบางท้องถิ่นจะมีการทำบุญเบิกหอเจ้าด้วย เบิกบ้านด้วย และเบิกวัดด้วย  พิธีทำบุญเบิกบ้าน เรียกตามภาษาโบราณว่า “บุญซำฮะ” หมายถึง การชำระสะสางทำความสะอาด ดังนั้นบุญพิธีนี้จึงถือว่าเป็นการชำระล้างสิ่งอัปมงคลต่างๆ ซึ่งชาวบ้านสังคมถือปฏิบัติมายาวนาน เรียกอีกอย่างว่า บุญเดือนเจ็ด เพราะนิยมกระทำในช่วงเดือนเจ็ด โดยจะนิมนต์พระสงฆ์มาสวดมุงคุณ โดยชาวบ้านจัดทำปรัมพิธีขึ้นมาอย่างง่ายๆ เรียกว่าการผูกผาม และบางหมู่บ้านอาจมีศาลากลางบ้าน หรือศาลหอเทวดาประจำหมู่บ้านก็นิยมจัดพิธี ณ บริเวณนั้น ชาวบ้านจะนำกระทอ กระป๋อง หรือคุถังใส่ทราย กรวยดอกไม้ธูปเทียน ขวดน้ำสำหรับทำน้ำมนต์และฝ้ายมงคลใส่มาด้วยเพื่อรับการสวดให้เกิดความเป็นมงคลเพื่อจะนำไปรดไปหว่านบริเวณบ้านเรือนของตน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

การสวดมุงคุณที่พระสงฆ์สวดนั้นนอกจากจะสวดพระพุทธมนต์ที่เรียกว่า พระปริตเจ็ดตำนานสิบสองตำนานแล้วยังมีบทสวดประจำท้องถิ่นที่สืบทอดมาจากนครล้านช้างคือ บทสวดจุลไชยมงคลคาถา บทจุลไชยมงคลคาถา หรือ บทจุลละชัยยะปกรณ์ นั้นมีผู้สันนิษฐานว่าแต่งขึ้นเมื่อสมัย พระเจ้าฟ้างุ้มหล้าธรณี ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ลาวล้านช้างร่มขาวหลวงพระบาง แต่งโดย “พระมหาปาสมันตะเถระ” นอกจากการสวดเจริญพระพุทธมนต์ดังกล่าวแล้วนั้น นิยมให้พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนาพิเศษ 4 กัณฑ์ ได้แก่ เทศนาบารมีสามสิบทิศ เทศนาคาถาอุณหิสวิชัย เทศนาคาถาสลาการวิชชาสูตร และเทศนาทิพมนต์คาถา โดยชาวบ้านจะทำกระทงกาบกล้วยสามเหลี่ยมเรียกว่า "กระทงหน้าวัว" พร้อมแต่งเครื่องสักการบูชาเป็นต้นว่า ข้าวดำ ข้าวแดง แกงส้ม แกงหวาน เมี่ยงหมาก พริกเกลือ ปั้นรูปคน รูปสัตว์ ในครัวเรือนของตนใส่ไปในกระทงนั้นด้วย เพื่อถวายบูชาแก่ท้าวมหาราชทั้งสี่ ที่รักษาประจำทิศ เพื่อให้หายทุกข์โศกโรคภัยตามความเชื่อของชาวบ้านว่าท้าวทั้งสี่จำนำความอัปมงคลออกไปจากครัวเรือน ในข้อนี้เป็นการเชื่อมโยงความเชื่อเรื่องผีแบบดั้งเดิมของคนในชุมชน ให้เข้ากับความเชื่อเรื่องเทวดาอารักษ์ผู้ปกปักษ์รักษาตามคติในทางพระพุทธศาสนา

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

สืบทอดตำนาน!! ชาวบ้านอ.สังคม ร่วมสืบสานประเพณี“บุญเบิกบ้าน”(บุญซำฮะ) กันอย่างเนืองแน่น เชื่อเสริมความเป็นสิริมงคลกับคนในหมู่บ้าน

ภาพ/ข่าว ภัทรวินทร์ ลีปาน    ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์   จังหวัดหนองคาย