- 17 พ.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2560 ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่าประชาชนจำนวนมากทั้งจากในและต่างจงหวัดได้เดินทางไปยังวัดป่ายาง หมู่ 4 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่ออบสมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งทางวัดเปิดบริการฟรี ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น. ของทุกวัน และหายป่วยจากโรคนร้ายต่าง ๆ จากน่าอัศจรรย์ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าภายในวัดมีการดัดแปลงศาลาโรงธรรมเป็นโรงอบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยมีประชาชนทุกเพศ ทุกวัยที่เดินทางมาจากอำเภอต่าง ๆ รวมทั้งจากพื้นที่ต่างจังหวัดมารอเข้ารับบริการอบสมุนไพรเป็นจำนวนมาก โดยมีพระชื่น อาทโร หรือ “พ่อท่านชื่น” อายุ 67 ปี พระลูกวัดป่ายาง และเป็นผู้ดูแลโรงอบสมุนไพรคอยต้อนรับ แนะนำ และให้บริการ
พระชื่น อาทโร หรือ “พ่อท่านชื่น” เปิดเผยว่า วัดป่ายาง มีพระสุวรรณ คเวสโก อายุ 69 ปี เป็นเจ้าอาวาส โดยปัจจุบันมีพระสงฆ์เพียงจำนวน 2 รูปเท่านั้นคือ เจ้าอาวาส และอาตมา โดยวัดมีพื้นที่กว้างขวางหลายสิบไร่และเปิดศูนย์เรียนรู้การเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ให้นักเรียน นักศึกษา และชาวบ้าน เข้ามาศึกษาเรียนรู้
นอกจากนี้บิดาของอาตมาเป็นแพทย์แผนไทย มีความรู้และเชี่ยวชาญเรื่องสุมนไพรเป็นอย่างดี ในขณะที่มารดาของอาตมาเป็นหมอตำแยชื่อดังในอดีต อาตมาเองได้รับการถ่ายทอดและเรียนรู้จากบิดา มารดา จึงมีความรู้เรื่องสมุนไพรเป็นพื้นฐาน ประกอบกดับในปัจจุบันพบว่าชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัด ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และมักจะมีอาการเจ็บป่วย ปวดเมื่อย ภูมิแพ้ และโรคต่าง ๆ อาตมาต้องการนำความรู้ที่มาทำประโยชน์ให้กับชาวบ้าน เพราะสมุนไพรไทยมีสรรพคุณยอกดเยี่ยมมาก ๆ จึงได้นำสมุนไพรหลากหลายชนิดมาปลูกภายในวัด ต่อมาจึงนำเงินที่ชาวบ้านทอดกฐิน ทอดผ้าป่ามาดัดแปลงศาลาโรงธรรมในเป็นโรงอบสมุนไพรให้บริการฟรีแก่ประชาชนทุกคน ซึ่งชาวบ้านที่มาทำบุญถือโอกาสเข้ารับบริการอบสมุนไพรทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น อาการเจ็บป่วย ปวดเมื่อยตามร่างกายหายเป็นปลิดทิ้ง โดยไม่ต้องทานยา จึงเล่าลือบอกต่อ ๆ กันอย่างกว้างขวางออกไปเรื่อย ๆ
“จนทุกวันนี้มีชาวบ้านในอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด มาอบสมุนไพรที่วัดเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉลี่ยวันละ 60 – 100 คน ซึ่งทางวัดเปิดบริการอบสมุนไพร ตั้งแต่เวลา 09.00 - 21.00 น.หรือจนกว่าชาวบ้านจะอบสมุนไพรเสร็จ ซึ่งได้เปิดบริการมาแล้ว 19 เดือน อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่มาอบสมุนไพรจะหอบหิ้วไม้ฟื้น เชื้อเพลิงติดไม้ติดมือมาเพื่อสุมไฟหม้อต้มสมุนไพร นอกจากนี้ชาวบ้านบางส่วนยังนำสมุนไพรต่าง ๆ ที่หาได้ทั่วไป เช่น ตะใคร่ มะกรูด ตำลึง ใบหนาด ใบส้มป่อย เปลือกส้มโอ เป็นต้น มาให้กับทางวัดสวนผสมของตัวยาสมุนไพรใส่หม้อต้ม ซึ่งนอกจากโรคปวดเมื่อยตามร่างกาย เคล็ดขัดยอก แล้วโรคร้ายแรงยังหายขาดอีกด้วย อาทิ พระภิกษุสงฆ์จากจังหวัดพัทลุง ที่ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ ได้เดินทางมาจำพรรษาเพื่อรักษาอาการล่าสุดพระสงฆ์รูปดังกล่าวมีอาการดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติแล้ว
ในขณะที่นางวิจิตร ศรีอุฤทธิ์ อายุ 64 ปี ชาว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนประสบอุบัติเหตุรถชน ทำให้กระดูสันหลังเคลื่อนและเกิดเส้นทับกระดูก มีอาการเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาต้องใช้ไม้เท้าประคองตลอดเวลา เข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลและหมอนัดผ่าตัดรักษา แต่ด้วยความกลัวประกอบกับอายุมากแล้วจึงไม่กล้าผ่าตัด จนมีเพื่อนแนะนำให้มาทดลองอบสมุนไพรที่วัดป่ายางแห่งนี้ ตนจึงเดินทางมาอบสมุนไพรประมาณ 7- 8 ครั้ง ปรากฏว่าอาการเจ็บป่วยที่เคยทนทุกข์ทรมานได้หายเป็นปลิดทิ้ง ทุกวันนี้ตนสามารถเดินด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องใช้ไม้เท้า และสุขภาพด้านอื่น ๆ ก็ดีขึ้นตามมาด้วย
ภาพ/ข่าว นวรัตน์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช




