สุดทนแล้ว!!ชาวบ้านริมฝั่งสตูล ยื่นร้องทุกข์ขอ“นายกตู่”ชะลอข้อกฎหมายน่านน้ำไทย ฉบับใหม่ด้วย กระทบคนริมเล วอนแก้ให้ตรงพื้นที่(มีคลิป)

วันนี้ (22 พ.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านริมชายฝั่งและตามเกาะแก่งที่ได้อาศัยปลูกสร้างบ้านเรือนจุดริมทะเล และตามชายคลอง และกลุ่มการเลี้ยงปลากระชังในพื้นที่ทั้ง 7 อำเภอร่วม 100 คน เดินทางมาพบพันเอกอาทิตย์ อรุณโชติ รอง ผอ.รมน.จังหวัดสตูล โดยมีนายอับดุลรอสัก เหมหวัง คณะกรรมการชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล นำร่างหนังสือเอกสาร เรื่อง ขอให้มีการทบทวนประกาศของกรมเจ้าท่า ตาม พ.ร.บ. การเดินในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17 ) ผ่านทางจังหวัดสตูลเพื่อส่งตรงถือมือนายกรัฐมนตรี หลังกฎหมายกรมเจ้าท่าที่จะมีการบังคับใช้ส่งผลกระทบวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชายฝั่งทั้งที่อยู่อาศัย และการทำมาหากินอยู่ในขณะนี้

ขณะที่นายอับดุลรอสัก เหมหวัง คณะกรรมการชมรมประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูลร่วมกับพี่น้องประชาชนได้ยื่นหนังสือทันทีผ่านมือพันเอก อาทิตย์ อรุณโชติ รอง ผอ.รมน.จังหวัดสตูล ที่เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูลที่หน้าศาลากลางจังหวัดสตูล ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

นายอับดุลรอสัก กล่าวกับทีมข่าวว่า เมื่อการกดดันให้พี่น้องประชาชนชายขอบริมเล รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังต่างเกิดความทุกข์ใจของกฎหมายฉบับนี้ เมื่อถึงทางตันไม่รู้จะไปพึ่งใครเพราะกฎหมายเป็นกฎหมายที่ทางรัฐบาลเห็นชอบ แต่บังเกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ยากไร้ที่ได้อาศัยอยู่มานานหลายปี

ดั้งนั้นวันนี้จึงต้องการขอร้องทุกข์เพื่อให้ทางจังหวัดสตูลเองรับหนังสือส่งตรงถึงนายกรัฐมนตรีให้พิจรณาว่า กฎหมายที่ทำขึ้นมานั้นก่อให้เกิดความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งข้อกฎหมายตัวนี้บังคับให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งต้องไปยื่นแสดงตนว่า ตนเองเป็นผู้บุกรุก หากครอบครัวนั้นปลูกสร้างอยู่จริง ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ จนถึง 22 มิถุนายน 2560 นี้ เพราะหากไม่ไปแจ้งก็ถือว่ามีความผิด ซึ่งทางพี่น้องชายฝั่งและตามเกาะแก่งที่มีที่ปลูกสร้างขอให้ชะลอข้อกฎหมายนี้ออกไปและให้ทางรัฐบาลควรพิจรณาก่อนมีคำสั่งให้ลงรื้อหรือจับจริง

 

เช่นเดียวกับนางสาวรูลล๊ะ หลงสาม๊ะ อายุ 39 ปีผู้อาศัยมีบ้านอยู่ริมชายฝั่งในพื้นที่ตำบลตำมะลัง กล่าวว่า ข้อกฎหมายตามความเข้าใจของคนบ้านๆอย่างดิฉันและครอบครัวคือต้องไปแจ้งว่าเองเป็นผู้บุกรุกเพราะมีบ้านสร้างยื่นลงไปในทะเล หากไม่แจ้งก็ต้องรื้อบ้านออกไป รวมทั้งต้องกลายเป็นผู้เช่าไปทันทีทั้งๆที่ตนเองและพ่อแม่อยู่กันมานานแสนนาน เราจะทำอย่างไรจึงวอนของให้กรมเจ้าท่าหรือทางจังหวัดควรหาทางออกให้กับประชาชนด้วย เพราะพวกคุณกำลังสร้างสภาวะกดดันแก่ประชาชนอยู่ในขณะนี้

ด้านพ.อ.อาทิตย์ กล่าวว่า เมื่อรับหนังสือถือว่าเป็นการรับเรืองราวทุกข์ร้อนกับทางประชาชนทางผมจะนำหนังสือเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลก่อนส่งไปยังทางรัฐมนตรี เพื่อรับทราบข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่าชาวจังหวัดสตูลกำลังเดือดร้อนกับข้อกฎหมายตรงนี้ แต่อย่างไรการชะล้อข้อกฎหมายดังกล่าวทางจังหวัดไม่สามารถสั่งชะลอได้แต่ก็จะนำข้อเท็จจริงในเรื่องปัญหาความทุกข์ใจรายงานต่อรัฐบาลทันที

ข่าว/ภาพ เอนก  ขันทสิกรรม ผู้สื่อข่าวทีนิวส์ประจำจังหวัดสตูล