เปิดตำนาน!! ก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆเมืองช้าง ศิษย์หลวงพ่อคูณ ไม้คู่ชุบชีวิต“กู ให้มึง เอาไปหากิน” ขายกันแบบเดลิเวอรี่ (มีคลิป)

วันที่ 15 มิ.ย. 2560  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบร้านก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆ ลักษณะเป็นแบบก๋วยเตี๋ยวรถเข็นแบบมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง มีนายจำรัส บุญปัน อายุ 62 ปี อยู่บ้าน217 ม.1 ต.โพนครก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นเจ้าของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเมืองช้าง” เจ้าเก่า เจ้าเดิม  ลูกค้าทั้งขาประจำ และขาจร ตามสถานที่ราชการ สำคัญๆในเขต เทศบาลเมืองสุรินทร์ เมื่อได้ยินเสียงของการเคาะไม้ไผ่ ด้วยไม้ประดู เสียงดังป๊อกๆ มาแต่ไกล  ก็จะรู้ทันที่ว่า ก๋วยเตี๋ยวมาแล้วนะ

“ก๋วยเตี๋ยวเมืองช้าง” เป็นตำนาน ก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆ เจ้าเก่าขายมานานกว่า 25 ปี บริการจัดส่งถึงหน้า สำนักงาน ส่วนราชการ และบ้านแบบดีลิเวอรี่ มีลูกค้าประจำ และลูกค้าขาจรเป็นจำนวนมาก ห้อมล้อมสั่งซื้อก๋วยเตี๋ยว รสชาติอร่อยและปริมาณที่ให้ หนักทั้งเครื่อง เด็ดที่กระเทียมเจี๋ยว กากหมูกรอบสุดแว่บ และให้เส้นก็เยอะ กินแค่ชามเดียวก็อิ่มแล้ว ทุกเมนู ชามละ 35 บาท พิเศษ 40 บาท เมนูยอดฮิตจะเป็นบะหมี่แห้งหมูแดง ซึ่งขายได้วันละร้อยกว่าชาม มีกำไรงามวันละ 500 บาท ในแต่ละเดือนจะมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว ประมาณเดือนละ 15,000 บาท

นายจำรัส บุญปัน อายุ 62 ปี อยู่บ้าน217 ม.1 ต.โพนครก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เจ้าของร้าน ก๋วยเตี๋ยวเมืองช้าง  กล่าวว่า เริ่มต้นขายก๋วยเตี๋ยว ด้วยการไปเป็นลูกจ้างในร้านก๋วยเตี๋ยวที่กรุงเทพฯ ต่อมาได้กลับมายัง จ.สุรินทร์ บ้านเกิด มาบุกเบิก ขายก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆเจ้าแรก ชื่อว่า ก๋วยเตี่ยวเมืองช้าง กว่า 25 ปีแล้ว กิจวัตรประจำวัน ทำเองทุกอย่างเริ่มตั้งแต่ การไปจ่ายตลาด ซื้อหมู และเครื่องปรุงทุกอย่าง เพื่อนำมาผสมผสาน เริ่มออกขายเวลา 09.00 น. จาก สำนักงานสาธารณสุข เข้ามาที่ สำนักศึกษาธิการ ที่ว่าการอำเภอเมืองสุรินทร์  ผ่านศาลจังหวัดสุรินทร์ และเข้ามาที่ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เที่ยงจะปักขายอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ในหน่วนงานราชการต่างๆ พอถึงเวลา ลูกค้าขาประจำจะโทรหา และตีไม้ไผ่ ส่งสัญญาณเสียง ป๊อก ๆ ซึ่งเป็น ไม้คู่ ที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด เป็นผู้มอบให้เมื่อ 25 ปี โดยพูดว่า “กู ให้มึง เอาไปหากิน” ยอดขายทะลุเป้าทุกวัน ขายดีกว่า 100 ชาม มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ง เหลือวันละ 500 บาท และจะเก็บออมฝากธนาคารไว้วันละ 200 บาท ทุกๆวัน ทำมานานกว่า 25 ปี ทำให้มีสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเก่า ซึ่งเมื่อก่อน บ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ เพราะไม่มีที่นา จนทุกวันนี้ มีบ้านเป็นของตัวเอง มีรถยนต์ใช้ และส่งเสียลูกจนการศึกษา มีการมีงานทำทุกๆคน

ภาพ/ข่าว ธนินท์ทัศน์ ภูแก้ว   ผู้สื่อข่าวภูมิภาค   สำนักข่าวทีนิวส์  จ.สุรินทร์