แฉยับ!! ปปส ภาค9 และภาค 8 ตรวจสอบรถขนเศษยางพารา คว้าน้ำเหลวไร้สิ่งผิดกฎหมาย ด้านผู้ประกอบการ โวย แฉ"มีการกลั่นแกล้ง" (คลิป)

วันที่ 13 กรกฎาคม 2560 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส ภาค 8 ภาค 9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปกครองจังหวัดตรัง  เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยประสานความร่วมมือ ร.ท.นิพล  สุขศรีราช  ผู้บังคับกองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์  อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง พ.ต.ท.บุญเจือ  ลิ้มฉุ้น  สารวัตรสืบสวน สภ.ห้วยยอด เข้าตรวจสอบรถบรรทุกแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 70-0781 กระบี่ และพ่วงท้าย หมายเลขทะเบียน 70-0782 กระบี่ ซึ่งได้บรรทุกเศษยางพารา ที่รับมาจาก รอยต่อระหว่างจ.เชียงรายและจ.พะเยา เพื่อจะนำเศษยางพารามาส่งที่บริษัทไทยล่ำเฮง เลขที่ 231 ม.5 ต.ปากคม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง โดยมีนายสมชาย  พรหมทอง  อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/1 ม.1 ต.ดีหลวง อ.สะทิงพระ จ.สงขลา พนักงานของบริษัทดังกล่าวได้เป็นผู้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าวมา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยโดนตรวจมา1รอบและผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จนล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ค.60 เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้โดนสกัดจับอีกเช่นกัน เนื่องจากต้องสงสัยว่าอาจจะมีของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่  ซึ่งสาเหตุที่ต้องมีการตรวจสอบนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่ารถคันดังกล่าวอาจมีพฤติกรรมบรรทุกสิ่งของผิดกฎหมาย ปะปนมากับเศษยางพาราที่บรรทุกมา     

 

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้สกัดรถคันดังกล่าวที่บริเวณเชื่อมต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กับจังหวัดชุมพรแต่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีสิ่งผิดกฎหมายปนมาหรือไม่เนื่องจากเป็นเวลาค่ำแล้ว อีกทั้งผู้ประกอบการก็ไม่ยินยอมเกรงว่าจะมีการกลั่นแกล้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ซีนเอาไว้และห้ามเปิดโดยเด็ดขาดหลังจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ขับรถตามรถบรรทุกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมาตรวจสอบที่โรงงานในจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่รถคันดังกล่าวต้องนำเศษยางพาราส่ง  จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยให้นำรถบรรทุกเทเศษยางในโรงงาน เนื่องจากมีการซีนสินค้าอย่างเรียบร้อย จึงต้องใช้เวลาในการตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งผลการตรวจสอบในครั้งนี้ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายหรือสิ่งแปลกปลอมแต่อย่างใด 

จากการสอบถามนายเชียรแยะ แซ่โยฮ์ อายุ 26 ปี เจ้าของบริษัทไทยล่ำเฮง ซึ่งดูแลโรงงาน ที่ จ.พะเยา กล่าวว่า ตนเปิดบริษัทรับซื้อเศษยางพารามาตั้งแต่ 16 มกราคม 2560 และก็ได้รับซื้อมาเรื่อยๆ แต่ก็มีการขัดผลประโยชน์ซื้อผู้ที่ทำธุรกิจแบบเดียวกันกับตนไม่พอใจ เนื่องจากโรงงานของตนไปเปิดการรับซื้ออยู่ที่โรงงาน จ.พะเยา แต่จุดดังกล่าวเป็นแค่ยี่ปั้วที่มารับซื้ออีกทีหนึ่ง จึงทำให้ราคาที่เราไปซื้อได้ราคาสูงกว่าปกติ ทำให้คู่แข่งทางธุรกิจอยู่ยาก แบะรอบนี้โดนเป็นรอบที่สอง ตนรู้สึกท้อ แต่รถบรรทุกของโรงงานตนออกจาก อ.ภูซาง จ.พะเยา และยืนยันว่าไม่ได้รับสินค้าแปลกปลอมมาแน่นอน

ภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด  ผู้สื่อข่าวภูมิภาค  สำนักข่าวทีนิวส์  จ.ตรัง