- 26 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ 26 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานงานจากกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านโนนก่อ ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านแห่งนี้ ได้รวมตัวกัน จัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ในการทำการเกษตรผสมผสานครบวงจร ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมของชุมชน สร้างรายได้ ลดรายจ่าย ใช้เวลาว่างไม่ให้สูญเปล่า โดยการไม่ใช้ปุ๋ยเคมี – วิทยาศาสตร์ ,ยาฆ่าแมลงในพืชผัก , นาข้าว
พร้อมกันนี้ ได้รวมตัวกันทำอาหารแปรรูป เป็นผลผลิตของกลุ่ม มุ่งหน้าสู่สิค้าโอทอปของขุมขนจำหน่ายเป็นสินค้าท้องถิ่น-พื้นบ้าน ประกอบอาหารหารเมนูเด็ด!!!สร้างรายได้ของกลุ่มแม่บ้าน ผลิตสินค้า “แหนมปลาส้ม , แหนมหมู”บ้านโนนก่อ เป็นอาชีพเสริม นอกเหนือจากการทำการเกษตรอื่น ๆ โดยได้รับการสนับสนุนจาก การศึกษานอกโรงเรียน อ.กบินทร์บุรี และพัฒนาชุมชนอำเภอแนะนำให้ความรู้ เกี่ยวกับการผลิต การสร้างช่องทางตลาด การจัดทำบัญชีของกลุ่ม และ การผลิตบรรจุภัณฑ์ให้ชวนน่าซื้อหา ซึ่งมี น.ส.บังอร พิมพ์อรัญ อายุ47ปี เป็นหัวหน้ากลุ่มมีสมาชิกกลุ่ม ทั้งหมด 20 คน
น.ส.บังอร กล่าวว่า “เมื่อ10ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ แหนมปลาส้ม , แหนมหมู ของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่นี่ จะนำพืชผักสวนครัว ซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านไปจำหน่ายควบคู่กันไปด้วย ในจำนวนปริมาณพอสมควรเพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย ลูกค้าได้สินค้าครบ” น.ส.บังอรกล่าว
และกล่าวต่อไปว่า “กลุ่มทำแหนมปลาส้ม ,แหนมหมูนี้ จะรวมตัวกันจากกลุ่มแม่บ้าน ใช้เวลาที่ว่างเว้นมาช่วยกันทำสินค้าตนเอง จากนั้นก็จะหาตลาด จัดรวบรวมไปวางขายตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะตามตลาดนัด ที่ปัจจุบันมีเกือบในทุกหมู่บ้าน หรือในย่านเขตตัวเมือง – หน้าโรงงานอุตสาหกรรม และในพื้นที่ใกล้
เคียง”
“ผลิตของกลุ่มแหนมปลาส้มกับแหนมหมู ของกลุ่ม จะเน้นความสะอาด ได้ปริมาณมาก เพื่อความถูกใจของลูกค้าผู้บริโภค แถมราคาปานกลาง แบบชาวบ้าน ๆ สามารถเลือกซื้อหาไว้กินอย่างสะดวกสบาย เก็บไว้ได้นานเป็นเดือนก็ไม่เสียไม่มีสารกันปูด”
“ขั้นตอน วิธีการทำแหนมปลาส้มกับแหนมหมูของกลุ่ม จะเน้นคุณภาพให้ลูกค้าเชื่อใจในรสชาติ โดยยึดหลักทำใหม่ๆสดๆเพื่อเอาใจผู้ที่ชอบของหมักรสเด็ด!!!อร่อย ถูกปาก ไม่มีการขึ้นราคาตามท้องตลาดทั่วไป การค้าไม่หวือหวา ตลาดลูกค้าจับจ่ายไปได้เรื่อยๆ ตลาดไม่ตาย” น.ส.บังอรกล่าว
“โดยการทำแหนมปลาส้ม แหนมหมู ไม่ยุ่งยากอะไร การทำแหนมปลาส้มแหนมขั้นตอนง่ายๆดังต่อไปนี้นำเนื้อปลาบดละเอียดจากร้านค้าที่ตลาดสด หรือจากที่ชาวบ้านทำการประมงพื้นบ้านมาได้ จะเน้นเนื้อปลาฉลาด หรือ ปลาตอง กก.ละ80บาทสำหรับทำแหนมปลาส้ม ส่วนเนื้อหมูบด กก.ละ100 - 150 บาท ,เตรียมข้าวสวยสุกครึ่ง กก. ,กระเทียมโทนบด และ พริกชี้ฟ้าสด , ใบตอง ,ตอกไม้ไผ่ และยางรัด
ของเมื่อมีวัสดุดิบดังกล่าวมาแล้ว เอาเนื้อปลาเทใส่กาละมัง โดยขยี้ให้แตกออกจากกัน จากนั้นก็จะนำข้าวสวยสุกที่เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยการคลุกเคล้าเนื้อปลากับข้าวสวยให้เข้ากันขอให้ละเอียดจนรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจะใช้การปั้น (กำเนื้อปลาเป็นก้อนพอคำ)
ซึ่งการให้เนื้อแหนมปลา,แหนมหมู รวมเป็นเนื้อเดียวกัน อาจจะทั้งโดยใช้ไม้พายคน-กวนเข้ากัน หรือาจนำส่วนผสมที่คลุกขึ้นมาแล้วปาลงใส่กองนั้นแรงๆ เป็นการนวดเนื้อแหนมให้รวมกัน ยิ่งนวดยิ่งเข้ากันดี จนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันได้ยิ่งดี นวดราว10-15 นาที ก็ใช้ได้แล้ว
จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือการห่อหนึ่งมัด โดยแหนมหนึ่งกีบ หรือ 1 มัด จะใช้เนื้อปลาราว1ขีด ยัดไส้ด้วยพริกขี้ฟ้า และห่อเหมือนห่อข้าวต้มมัด แล้วใช้ตอกไม้ไผ่ที่สานมารัดแนวนอน4เส้น เพื่อใช้เป็นที่จับหรือที่หิ้ว รัดด้วยยางวง บรรจุใส่กล่องหรือขายให้เห็นใบตองสดๆเห็นตราสินค้ายี่ห้อแหนมหมู – แหนมปลากลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านโนนก่อให้เด่นชัด”
“ซึ่งทั้ง แหนมปล้าส้ม กับแหนมหมู จะทำเหมือนๆกัน ไม่ยุ่งยาก ราคาแหนมปลาส้มแหนมหมู ขายจะขายทั้งปลีกและส่ง ราคาห่อละ 8บาท กับ10บาท 1มัด มี5กีบ ขายมัดละ 50บาท สร้างรายได้เฉลี่ยรายได้เฉลี่ยเดือนละ6500-7000 บาท พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ จะสั่งให้ทำให้ใหม่ๆสดๆ ทำไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“สนใจสั่งแหนมปลาส้มกับแหนมหมูของกลุ่มพี่บังอรติดก็สามารถติด ต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 089 015 8910 เป็นการสร้างรายได้อีกทางให้กับชาวบ้าน”น.ส.บังอรกล่าวในที่สุด
ภาพ/ข่าว มานิตย์ สนับบุญ / ทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวส่วนภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี