เหิมเกริมหนัก!! อิทธิพลมอดไม้เถื่อนขุนยวม ไม่กลัวกฎหมาย สีกากีมีเอี่ยว ขู่ไล่ทหารออกพื้นที่ ผบ.ทหารพรานที่ 36 ลั่น พร้อมชน แน่จริงอย่าหนี!?

อิทธิพลมอดไม้สักเถื่อน ขุนยวม ออกมาขู่จะย้ายทหารชุดจับกุมออกนอกพื้นที่ ขณะที่ ผบ.กรมทหารพรานที่ 36 กร้าวพร้อมเดินหน้าชน ไม่ว่านายทุนหรือแก๊งค้าไม้ จับมาดำเนินคดีทุกรายไม่มีเว้น ทหารทำเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นสมบัติของชาติต่อไป

พ.อ.ภาส วงศ์สารภี เปิดว่า เปิดเผยว่า  ตามนโยบายของกองทัพบก แม่ทัพภาคที่.3 และผบ.ผล.ร.4 กองกำลังนเรศวร ให้ดำเนินการตามแผนยุทธการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและแผนงานแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าสาละวิน ในห่วงระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 60 ที่ผ่านมา โดยดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นทั้ง 4 อำเภอพร้อม ๆ กัน ซึ่งมีหน่วยงานที่เข้าปฏิบัติร่วม เช่น ทหารพรานกรม.36 เจ้าหน้าป่าระดับภาค ระดับจังหวัด ฝ่ายปกครอง ( อส.) เจ้าหน้าที่ ตำรวจในเขตอำนาจสืบสวนสอบสวน ของ สภ.นั้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตำรวจตระเวนชายแดน

ผลการปิดล้อมตรวจค้นสามรถจับได้ทั้งผู้ต้องหา ไม้ของกลางจำนวนมากได้ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี พนักงานสอบสวนได้ประสานผู้นำชุมชน ไม่ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต.ต่าง ๆ ให้มารับข้อกล่าวหาต่อไป

 ด้าน ร.อ.ชุมพล อินตา ผบ.ร้อย ทพ.3605 รับผิดขอบพื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่าในส่วนของ อ.ขุนยวมนั้น ซึ่งมีเป้าหมายตามสายข่าวรายงานมา ขบวนการค้าไม้มากที่สุด ในพื้นที่ ต.แม่กี๊ ระหว่างวันที่ 12-14 ก.ค.60 กำลังผสมร่วมกันตรวจค้นหลายหมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านร่มเย็น บ้านห้วยปูเลา บ้านเปียหลวง สามารถตรวจยึดไม้ได้จำนวนมาก ทั้งไม้สักหน้ากว้างและขนาดใหญ่ พร้อมเลื่อยยนต์จำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าของไม้ส่วนใหญ่เป็นอดีต ผู้ใหญ่ สมาชิก อบต.บ้าง แต่ได้หลบหนีได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึง แต่มีรายชื่อเจ้าของบ้านผู้กระทำความผิดทุกคนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนเรียกมารับข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน 

 อย่างไรก็ตามในการปิดล้อมตรวจค้นแผนยุทธการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและแผนงานแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าสาละวิน ในห่วงระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 60 ของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ ได้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้นำท้องถิ่นไม่ว่า นายก อบต.กำนัน ผู้ใหญ่ บางคน กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ก.ค.60 ที่ผ่าน นายก อบต.กำนันผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านประชุมด่วนวาระพิเศษ เรื่องกรณีการจับกุมไม้ของเจ้าหน้าที่ทหาร โดยอ้างว่า กระทำการเกินเหตุ ในการประชุมวันดังกล่าวได้มีผู้นำบางคนประกาศว่า หากใครเป็นสายให้ทหารให้ออกจากที่ประชุมโดยด่วน ในลักษณะข่มขู่ผู้ที่เข้าร่วม ประชุมในครั้งนี้ด้วย นอกจากนั้นได้ให้ประชาชนที่เข้าร่วมประชุมยกมือเพื่อขอมติจากที่ประชุมว่า ให้ย้าย ร.อ.ชุมพล อินตา ผบ.ร้อย 3605 และทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นออกจากพื้นที่ อ.ขุนยวม หากผู้เข้าร่วมประชุมคนใดไม่ยกมือถือว่าเป็นฝ่ายหาร หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม แกนนำได้ทำหนังสือไปยื่นไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอนเมื่อวันที่ 21 ก.ค.60 ที่ผ่านมา โดยฝ่ายทหารได้ข้อมูลก่อนหน้าที่แล้ว

 ผบ.กรมทหารพรานที่ 36 กล่าวว่า กรณีที่แกนนำตำบลแม่กี้ ได้เรียกชาวบ้านมาประชุมเพื่อขอมติจะขอย้าย ร.อ.ชุมพล อินตา ผบ.ร้อย 3605 ยื่นให้จังหวัดดำเนินการนั้น ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้รู้และทราบข้อมูลมาโดยตลอด การที่แกนนำกลุ่มจะขอย้ายเจ้าหน้าที่ทหารออกนอกพื้นที่ในครั้งนี้นั้น เนื่องจากทหารเราปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจังประกอบกับทราบข้อมูลว่ากลุ่มผู้ดังกล่าวมีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับกระบวนการค้าไม้ดังกล่าวอย่างแน่นอน หากจะย้ายลูกน้องผมแน่จริงให้ย้าย ผู้การทหารพรานคนนี้ออกจากพื้นที่ก่อน หลังจากนี้จะสั่งการเดินหน้าอย่างหนักเพื่อดำเนินคดีกับขบวนการค้าไม้ทุกรายไม่เว้นหน้าใด หรือจะแอบอ้างรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ก็ตาม ทหารทำเพื่อห่วงแหงทรัพยากรป่าของประเทศชาติ ไม่ใช่รับใช้นักการเมืองท้องถิ่น หรือนายทุนซึ่งเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวโดยไม่ได้คำนึงถึงส่วนรวมหรือประเทศชาติเหล่าแต่อย่างใด

 ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี ที่ ร.ต.ณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารถือว่าดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน ตามนโยบายระดับบน หากแกนนำท้องถิ่นออกมาต่อต้านหรือแสดงออกเชิงขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกที่ควรเท่าไหร่นัก ซึ่งการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นทุกครั้ง ได้มีเจ้าหน้าหลายฝ่ายไปร่วมด้วยทุกครั้งและมีการลงบันทึกเป็นลายอักษรทุกหน่วยรับรู้ด้วยกันหมด เมื่อออกมาคันค้านหรือพยายามให้ย้ายเจ้าหน้าทหารออกจากพื้นที่นั้นตนไม่เห็นด้วย ควรจะมาคุยกันและหาทางออกด้วยกันคิดว่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด หลังจากนั้นจะได้เชิญแกนนำต่าง ๆ มาพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง เพราะการอยู่ด้วยกันในกลุ่มมากต้องอาศัยกฎกติกา หรือ กฎหมายมาบังคับใช้ มิเช่นนั้น ใครจะคิดจะทำอะไรก็ทำตามใจชอบ การปกครองก็อยู่ด้วยกันลำบาก..

ภาพ/ข่าว วชรพงศ์ มีทรัพย์กว้าง

เรียบเรียง กานต์พิชชา สลับ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เชียงใหม่