- 28 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ 28 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้ง มีแม่เฒ่าวัย 78 ปี แต่สุขภาพร่างกายยังแข็งแรง มีความคิดก้าวไกลไม่ย่อท้อใช้เวลาว่าง และพื้นที่ทำมาหากินสร้างรายได้ ปลูกพลูกินหมากขายหารายได้นับเป็นอีก 1 ต้นแบบคนในชุมชน เป็นตัวอย่างแม้ยามตอนแก่ก็ตามได้เป็นอย่างดี
ได้ลงพื้นที่มา ที่บ้านของนางเทวิน ศรีไพรวัลย์ คุณยายอายุวัย 78 ปี เลขที่ 34 ม.1หมู่บ้านสะพานดำ ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบว่า ไม่ปล่อยให้ว่างเปล่าเลย มีการใช้พื้นที่ว่างเปล่าปลูกพลูกินหมากขายสร้างรายได้ในตอนแก่ หรือบั้นปลายจริง ๆ ไม่ต้องรอเบี้ยผู้สูงวัยจากรัฐบาล ยายเทวิน กล่าวว่า “ตัวเองปลูกพลูกินหมาก มาได้กว่า 8 ปีเศษแล้ว เนื่องจากในชีวิตประจำวันของคนพื้นบ้าน หรือชีวิตส่วนตัวเอง ก็นิยมกินหมากอยู่ก่อนแล้ว ให้สุขภาพฟันแข็งแรง ตามความเชื่อคนโบราณ โดยพลูกินหมาก ที่ปลูก มีจำนวน ราวๆ 100 หลัก (ต้น) ในเนื้อที่ รวมกว่า 1งาน ใช้พื้นที่บริเวณหน้าบ้านแรก ๆ มีความคิด ปลูกเอาไว้กินหมาก แต่เมื่อเหลือ ก็หาตลาดทำการสร้างรายได้ปลูกส่งขายให้พ่อค้าคนกลาง”
ยายเทวิน กล่าวต่อไปว่า “โดยได้พันธ์พลู มาจากเพื่อนบ้าน เป็นพลูสมัยโบราณหรือพลูเขียว อนึ่ง !!! พลูกินหมากมีอยู่ 2 ชนิดได้แก่พลูเหลืองกับพลูเขียว ยายเทวินกล่าว ข้อสังเกตพลูกินหมากนี้ต่างกันแค่สีของใบเท่านั้น คือจะมีสีเหลือง และสีเขียว จึงพากันเรียกตามชนิดสีของมัน ว่าพลูเหลืองพลูเขียว”
“ ในการปลูกพลูกินหมาก ปลูกง่ายไม่ยุ่งยากอะไร ปลูกมาได้นาน แต่ละหลัก หรือ แต่ละต้นอายุพืชชนิดนี้อยู่คงทนได้นานร่วมๆ10 ปี พร้อม ๆ กัน หลังการปลูก มีตลาดรองรับเหลือล้นตลาด โดยเฉพาะตลาดจำหน่ายในกรุงเทพฯ จะมีพ่อค้า – แม่ค้า จะมารับซื้อผลผลิตกันถึงบ้าน ส่วนราคาก็พอทำได้ไม่ขาดทุน และ มีคนนิยมปลูกพลูอยู่ เป็นจำนวนมาก”
“ขั้นตอน วิธีการปลูกพลูกินหมาก ยายเทวิน จะใช้แรงงานทำเอง ถือว่าเป็นการออกกำลังกายในตัว โดยตัดไม่ไผ่หลังบ้านที่มีอยู่ หรือไม้เนื้อแข็งตามที่มีอยู่ตามไร่ ตามสวน เมื่อมีไม้ที่จะมาทำเสา ก็ขุดหลุมลึกราวหนึ่งศอกกว้างราวหนึ่งคืบ เสาที่จะมาทำให้ต้นพลูเกาะ จะมีความยาว 3 เมตร ให้พอยื่นมือเก็บใบพลูถึง ก็พอแล้ว และก็จัดแจงหากิ่งพลู ที่เป็นปล้องๆยาว20ซม.(ครึ่งศอก) มาชำไว้ ที่ข้างเสา ช่วงแรกๆจะให้น้ำวันเว้นวัน ใส่ปุ๋ยต่อเมื่อพลูเริ่มออกราก ประมาณ15วัน จากนั้นก็จะใส่ปุ๋ยขี้ไก่ 1-2 กำมือต่อหนึ่งหลักให้เจริญงอกงาม ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี หรือยาฆ่าแมลง”
ยายเทวินกล่าวว่า “สวนพลูทำเองมีบ้าง ให้ลูกสาวช่วยเมื่อพลูมีอายุได้ 2-3 เดือน ก็จะทยอยเก็บใบได้แล้วการเก็บใบพลู จะเลือกเก็บเอาใบที่2สลับกันไปมาต่อหนึ่งเถา ใบพลูใบที่ 2 จะใช้กินหมากได้ พลูรสชาติจะกรอบๆ”
ยายเทวินบอกอีกว่า “พลูเหลืองกับพลูเขียว มีข้อแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือ พลูเขียวจะมีรสชาติเผ็ดๆนิดๆส่วนพลเหลืองจะมีใบสีเหลืองจึงเรียกกันว่าพลูเหลืองรสชาติจืดๆแต่คนแก่ก็ชอบกินสีของมัน พลูกินหมากใช้กินกับหมากทั้งกินสดและแห้ง การทำพลูแห้งสมัยโบราณก็จะใช้กระทะตั้งเตาไฟอ่อนๆจากนั้นก็จะนำใบพลูมาวางใส่กระทะและหาเศษผ้ามาทำเป็นจุกเหนือปมนาบใบพลู เมื่อใบพลูถูความร้อนก็จะหดตัวลงและแห้งและเอาผึ่งแดดไว้เก็บไว้กินกับหมาก”
“ในการเก็บใบพลู จะเก็บ เป็นเรียงๆละ10ใบ ใส่เข่งใส่ตระกร้าจนเต็ม หรือจะใส่ถุงพลาสติกใส ที่มีขนาด10โล ทำเป็นเรียงคว่ำใบ1เรียง1กำมือ มี10ใบ จากนั้นก็จะวางเรียงคว่ำใบ ใส่ภาชนะ1เรียง1กำราคาตกอยู่ที่90สต. หน้าฝนจะได้ราคานี้ แต่ถ้าหน้าแล้งราคาอาจตกอยู่ที่1บาท เก็บวันหนึ่งจะได้ประมาณ300-500บาท/วัน 100 บาท / วัน หรือน้อยกว่าแต่ก็พออยู่ได้ พ่อค้าจะมารับเดือนละ4ครั้ง ยายเทวินก็จะพอมีรายได้พอสมควรตามความพออยู่พอกิน” “การปลูกพลูนั้น จะปลูกเป็นการทำฆ่าเวลาให้หมดๆไปวันๆหนึ่ง ทำไหวก็ทำต่อไป จนกว่าจะทำไม่ไหว”ยายเทวินกล่าวในที่สุด
ภาพ / ข่าว มานิตย์ สนับบุญ / ทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี