- 31 ก.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 31 ก.ค. 2560 พ.ต.อ.ประวิทย์ เขียวไสว ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ ร.ต.ต.นิพล จักรธรรมธร รอง สวป.หัวหน้าสายตรวจ 191 นำกำลังตำรวจ ออกปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน มาตามถนนสายเอเชีย 41 ฝั่งขาล่อง ใต้ บริเวณบ้านทุ่งท่างิ้ว ต.ถ้ำพรรณรา พบวัยรุ่นจำนวน 3 คน ขับขี่ รถจยย. คนละคัน และ 1 ใน 3 บรรทุกโทรทัศน์สี ยี่ห้อ พานาโซนิค 32 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ขับไล่ตามหลังกันมา ท่าทางมีพิรุธเรียกให้หยุดกลับเร่งเครื่องหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขับรถ จยย.สายตรวจ ไล่ตามประกบและสอบถามว่าจะไปไหน แต่วัยรุ่นทั้ง 3 คน กลับมีอาการตกใจ หน้าถอดสี มือไม้สั่น พูดจากไม่เป็นภาษา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจค้นและตรวจสอบรถ จยย. พบว่าไม่เอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของรถ จึงคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ทราบชื่อนายธีรวุฒิ อินทร์สุวรรณ หรือ “บินหม่อง” อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/15 หมู่ 4 ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง จ.สุราษฏร์ธานี มีสัญชาติพม่า นายอิสมาอิล หลีเจริญ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/35 หมู่ 5 ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา และนายเอ้ (นามสมุติ) อายุ 14 ปี สัญชาติพม่าเช่นกัน ส่วน รถ จยย. ทั้ง 3 คัน ประกอบด้วย คันแรกเป็นรถ จยย.ยี่ห้อซูซูกิ สแมซ สีแดง ป้ายทะเบียน 1 กฉ 5433 สุราษฏร์ธานี คันที่ 2 เป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีเทา ไม่ติดป้ายทะเบียน และอีกคัน เป็นรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ ป้ายทะเบียน คพค 243 สุราษฏร์ธานี จากการตรวจสอบพบว่าทะเบียนที่แท้จริงของรถ จยย.ทั้ง 3 คัน ไม่ตรงกับป้ายทะเบียนที่ติดอยู่
ต่อมา พ.ต.ท.สุชาติ ทองเกี่ยว รอง ผกก.สส.สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับทีมสอบสวน ทำการสอบสวนขายขยายผลจนในที่สุดทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันโจรกรรม รถ จยย.ทั้ง 3 คัน พร้อมโทรทัศน์ ยี่ห้อ พานาโซนิค 32 นิ้ว จำนวน 1 เครื่องมาจากพื้นที่จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยทั้ง 3 ได้ตั้งแก๊งโจรกรรมรถ จนยย.และทรัพย์สินตามบ้านเรือนชาวบ้าน ในพื้นที่ จ.สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราชโดยมีนายธีรวุฒิ หรือ บิน สัญชาติพม่า เป็นหัวหน้าแก๊ง ร่วมกัน ตระเวณโจรกรรม รถ จยย.ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี และใกล้เคียง ก่อนจะนำไปขายต่อยังสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และประเทศพม่า ในราคาคันละ 5,000 – 10,000 บาท ส่วนเงินที่ได้นำมาเที่ยวเตร่และเที่ยวเตร่โดยทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั้งมาถูกจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลดำเนินคดีกับ 3 โจ๋ต่างด้าวตามกดฎหมายต่อไป.
ภาพ/ข่าว นวรัตน์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครศรีธรรมราช