- 01 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 1 สิงหาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดสตูล พร้อมประมงอำเภอเมืองสตูลและชุดหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ สตูล ลงพื้นที่ตรวจสอบแพปลาในพื้นที่ตำบลตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูลเพื่อตรวจสอบการใช้เครื่องมือ คราดลงไปจับสัตว์น้ำใต้ทะเล โดยจับเจ้า มันทะเล” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ลูกบอลทะเล” เป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่งในตระกูลเดียวกับ “ปลิงทะเล” และมีชุกชุมในทะเลอ่าวไทย บริเวณอ่าวไทย เป็นที่นิยมของนักชิมชาวเวียดนามและชาวจีน เนื่องจากเชื่อว่าเป็นยาโด๊ปชนิดหนึ่ง และมีการรับซื้อเพื่อส่งออกไปขาย โดยปัจจุบันราคารับซื้อสูงถึง กก.ละ 70-100 บาท
ซึ่งการไปตรวจในครั้งนี้พบเรือประมงขนาดกลางกำลังลำเลียงเจ้าลูกบอลทะเล ขึ้นจากเรือโดยทางเจ้าหน้าที่ประมงได้เข้าไปตรวจสอบและว่ากล่าวตักเตือนก่อนรวมทั้งนำข้อกฎหมายที่บังคับใช้ในวันนี้เป็นวันแรกและนำเอกสารประกาศคณะกรรมการประมงจังหวัดสตูล เรื่องกำหนดเครื่องมือทำการประมงวิธีการทำประมง และพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงที่จับสัตว์น้ำ พ.ศ.2560 ที่ลงคำสั่งว่า ปัจจุบันพบชาวประมงดันแปลงเครื่องมือทำการประมงประเภทคราดกับประมงเรือยนต์ทำการประมง คราดปลิงทะเล และหอยทะเล ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวทำให้เป็นการขุดพลิกพื้นที่ดินท้องทะเล ทำให้เกิดการทำลายต่อหน้าดิน หญ้าทะเล ปะการัง อันเป้นที่วางไข่และเลี้ยงตัววัยอ่อนของสัตว์น้ำ และก่อให้เกิดปัญหาทรัพยากรเสียหาย จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 วรรคหนึ่ง ( 3 ) และวรรคสอง และมาตรา 71 (1 ) แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสตูลออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้ ห้ามเรือประมงใช้เครื่องมือคราดทุกชนิดประกอบกับเรือยนต์ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำพื้นที่ชายฝั่งของจังหวัดสตูล โดยประกาศเริ่มใช้ตั่งแต่วันนี้ที่ 1 สิงหาคมนี้ทันทีลงนามโดยนายภัทรพนธ์ รัตนพิเชรฎฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ประธานคณะกรรมการประมงจังหวัดสตูล
ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดสตูลพบการลักลอบการใช้คราดจับลุกบอลทะเลทั้งหมดมี บริเวณชายฝั่งตำบลตันหยงโป เกาะยาว เกาะโต๊ด เกาะปูยูในพื้นที่ของอำเภอเมืองสตูลล่าสุดส่งผลกระทบหญ้าทะเลเสียหายหลายจุด ส่วนลูกบอลทะเลครั้งเมื่อก่อนชาวเวียดนามจะลักลอบเข้ามาจับไปและครั้งถูกจับจึงใช้วิธีจ้างนายทุนมารับซื้อและใช้ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ลงจับเองและรับซื้อบริเวณหน้าแพโดยซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 25 บาทและพ่อค้าส่งขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 30 บาทเมื่อส่งออกไปยังเวียดนามและจีนราคาก็สูงอยู่ที่กิโลกรัมละ 70-100 บาท
ภาพ/ข่าว นนทพัฒน์ จันทรกุล ผู้สื่อข่าวภูิภาค สำนักข่าวทีนิวส์




