- 08 ส.ค. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
ผู้สื่อข่าวสำรวจพื้นที่อำเภอโพนนาแก้ว จ.สกลนคร กว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์ที่ถูกน้ำท่วม พืชสวนไร่นาเสียหายจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด หลังจากที่เกิดอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า ๔๐ ปี โดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นอาจจะมีอุปสรรคหรือปัญหาอยู่บ้าง แต่พอผ่านพ้นวิกฤตินั้นไปทุกอย่างก็เขาสู่ภาวะปกติ
ซึ่งในช่วงวิกฤตินั้นผู้คนที่อาศัยในอยู่พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมต่างช่วยเหลือตนเอง และเอาชีวิตให้รอด ประกอบกับสาธารณูปโภคถูกตัดขาดสิ้นเชิง กระทั้งผ่านพ้นไปเกือบอาทิตย์ไฟฟ้า น้ำประปาถึงได้ใช้ แต่ช่วงเวลาวิกฤตสนั้นผู้คนในพื้นที่ต่างอยู่กันอย่างยากลำบาก และอยู่กับความมืดมิดมาโดยตลอด และเพิ่งได้เห็นแสงว่างและน้ำประปาไหลเมื่อไม่กี่วัน และหลังจากนั้นธารน้ำใจจากคนไทยจากทั่วประเทศหลั่งไหลเข้าไปให้การช่วยเหลือกันอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ตลอดจนเวชภัณฑ์ยารักษาโรค รวมถึงเคลื่อนแพทย์ พยาบาล อสม.ออกหน่วยเคลื่อนที่บริการให้การช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้คนที่ประสบปัญหา ชาวบ้านต่างอุ่นใจและประทับใจการปฏิบัติงานของหน้าที่ โดยเฉพาะน้ำใจของคนไทยทั่วทั้งประเทศ ที่เคยไม่ทอดทิ้งกันในยามทุกข์ยาก
นางเกตวดี คะนาดี อายุ ๔๕ ปี ชาวบ้านโนนกุง หมู่ ๓ ต.เชียงสือ ครอบครัวหนึ่งบ้านถูกน้ำท่วมสูงประมาณ ๒ เมตร จึงต้องหอบขนสิ่งของขึ้นไปพักและเก็บของบนชั้นสองของบ้าน พร้อมกับบุตรชายที่พิการนอนป่วยติดเตียงอย่างปลอดภัย เล่าถึงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติน้ำท่วมว่า เมื่อเช้าของวันที่ ๒๙ ก.ค.เกิดน้ำเอ่อขึ้นท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหมู่บ้านโนนกุงอยู่ติดกับลำน้ำก่ำที่ไหลลงมาจากประตูน้ำก่ำ(สุรัสวดี)หนองหาร ทั้งหมู่บ้านพากันแตกตื่นและโกลาหน หนีน้ำกันจ้าละหวั่น ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากทุกคนไม่ทันตั้งตัว และในช่วงเวลานั้นสามีอยู่บ้านยังไม่ได้ออกไปทำธุระนอกบ้าน จึงสามารถขนข้าวของบางส่วนขึ้นบ้านบนชั้นสอง พร้อมกับลูกชายที่นอนป่วยพักรักษาอยู่ชั้นล่างได้ทัน ส่วนสัตว์เลี้ยงวัว ควายก็นำไปไว้บนที่เนินสูงได้ทันเช่นเดียวกัน มีสิ่งของบางส่วนที่ขนไม่ทันเสียหายอยู่บ้าง สิ่งที่ลำบากมากสุดในช่วงดังกล่าวนั้นคือน้ำไฟถูกตัดขาด จึงต้องทนทุกข์ทรมารอยู่กับความมืดมิดมาโดยตลอดประมาณ ๕-๖ วันถึงได้ใช้ ด้านการช่วยเหลือเห็นมีมาหลายภาคส่วน รวมถึงนักร้องศิลปิน และบุคคลทั่วไปมาให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะหมอ พญาบาลและ อสม.ได้นำเวชภัณฑ์มาแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน พร้อมกับมาดูแลลูกชายที่นอนป่วยเป็นอย่างดี ขณะนี้น้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงเล็กน้อยที่ยังท่วมขังบ้าน แต่สามารถเดินไป-มาได้
สำหรับความเสียในพื้นที่อำเภอโพนนาแก้วที่ประสพอุทกภัย สำรวจล่าสุดมีพื้นที่สีแดง ๓ หมู่บ้าน คือ บ้านโนนกุง หมู่ ๓ บ้านท่าสาวคอย หมู่ ๔ บ้านโนนกุงพัฒนา หมู่ ๘ มีประชากรรวมจำนวน ๑,๒๒๐ คน ๔๔๑ หลังคาเรือน และพื้นที่สีเหลือ มี ๒ หมู่บ้าน คือ บ้านปู่พึ้ม หมู่ ๓ บ้านโพนแคใหญ่ หมู่ ๒ และมีถนนเชื่อมต่อหมู่บ้านระหว่างบ้านโนนกุง-ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ ขณะนี้น้ำยังไหลเชี่ยว รถที่แล่นวิ่งผ่านไป-มาต้องใช้ความระมัดระวังและบริเวณคอสะพานลำห้วยมาดชำรุด ตอนนี้ที่หมู่บ้านสาวคอย หมู่ ๔ ยังมีน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร์ ๑- หลังคาเรือน คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีกก็เข้าสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกัน นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอโพนนาแก้ว พร้อมด้วยนายแอ๊ด เพชรฤทธิ์ ผอ.สำนักทางหลวงชนบทที่ ๑๖ และนายก้องพิภพ อารยรังศรี ผอ.แขวงทางหลวงชนบทสกลนคร ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบริเวณถนนและสะพานดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ใช้งานได้โดยเร็วที่สุด สรุปคือความเสียหายรวมครัวเรือนที่ประสบภัย ๑๐,๒๑๓ ครัวเรือน ประชากร ๓๖,๗๖๐ คน พื้นที่เกษตรเสียหาย ๒๒,๕๒๐ ไร่ และอำเภอโพนนาแก้วไม่มีผู้เสียชีวิต
โดย ไมตรี แก้วบุญมี สกลนคร




